ในห้วงเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ คนในพรรคภูมิใจไทย พากันออกมาพูดถึงร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือกฎหมายกาสิโน ในมุมที่ไม่เห็นด้วย ต่างกรรมต่างวาระกันหลายคน
เริ่มจาก ‘ครูใหญ่’ เนวิน ชิดชอบ ซึ่งเป็นผู้นำจิตวิญญาณ ออกมานำร่องก่อนระหว่างบรรยายให้ผู้ว่าฯ และนายกอบจ.ทั่วประเทศ ณ สนามช้าง จ.บุรีรัมย์ เรื่องการพัฒนาท้องถิ่น โดยตอนหนึ่งพูดถึงกฎหมายส่งภาษีคืนให้ท้องถิ่นแบบสำนึกรักบ้านเกิด
แต่แวะเข้าหาเรื่องกาสิโน ที่กำลังเป็นข่าวใหญ่ว่า
‘แต่อย่างไรคงไม่เร่งด่วนเท่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
ถัดมาอีกสองวัน ‘เฮียตือ’ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล บิดาของสองสส.ภูมิใจไทย ‘ภราดร-กรวีร์’ ซึ่งเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยเป็นข่าวนัก แต่เมื่อเห็นข่าวพ่อนายกฯ อออกมากดดันพรรคร่วมรัฐบาล ขู่ขับพ้นรัฐนาวา หากพรรคไหนไม่ยกมือให้กฎหมายกาสิโนผ่านสภา
‘เฮียตือ’ บอกเห็นข่าวแล้วหดหู่ยิ่งนัก 93 ปีประชาธิปไตย มันถอยหลังไปกว่าที่คิด พร้อมเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว เพระหากไม่เคารพให้เกียรติกันจะอยู่ร่วมกันอย่างไร
‘อยู่ร่วมกัน แล้วสร้างตราบาปและบาดแผลให้ประเทศ ถอยมาเถอะครับท่านหัวหน้าทั้งหลาย’
จากนั้น ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ บ้านใหญ่อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ออกมาขวางแบบเต็ม ๆ ไม่เห็นด้วยกับการมีบ่อนกาสิโน และอยากให้สอบถามประชาชนทั่วประเทศก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ ควรให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน
‘รัฐบาลอย่าคิดว่าคุณใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากสังคมไทยตอนนี้ความเข้มแข็งยังอ่อนอยู่ อยากให้สร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวก่อน แล้วค่อยมาถามประชาชนว่าเขาต้องการไหม เพราะเรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ ประชาชนว่ายังไงก็ว่าอย่างนั้น แต่โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมเป็นคนชอบเล่นการพนัน แต่ผมก็ไม่เห็นด้วย เพราะผมมองว่าสังคมไทยเรายังไม่เข้มแข็งพอ’
ล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวานนี้(9 เม.ย.68) ‘ไชยชนก ชิดชอบ’ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ประกาศกลางสภาในระหว่างพิจารณาญัตติผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายให้มีบ่อนกาสิโน
เสมือนเป็นการตอกฝาโลงจากพรรคสีน้ำเงินว่า
‘ผมขอประกาศในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ว่า ผม นายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของนายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ ผมเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโนและไม่ใช่แค่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่ทุก ๆ พ.ร.บ.หลังจากนี้ แม้กระทั่ง พ.ร.บ.ของพรรคภูมิใจไทย ที่เราคิดขึ้นมาแล้ว นำเสนอเพื่อประโยชน์ของประเทศไทย ผมก็จะไม่พิจารณา’
กระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ถึงได้มีคำว่า ‘ขออภัยในความไม่สะดวก’ จาก อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งไม่ได้อยู่ในห้องประชุมสภา และมองการประกาศดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนตัวของไชยชนก ในฐานะสส.คนหนึ่ง
‘แต่ไม่ว่าจะอย่างไร การพูดในสภาแม้เป็นเรื่องส่วนตัวก็ต้องแจ้งทางพรรคก่อน’
ในระหว่างการตอบคำถามผู้สื่อข่าว อนุทิน ย้ำอยู่หลายครั้งว่าเป็นการพูดในฐานะส่วนตัวของไชยชนก และพยายามติดต่อกับนายกฯ เพื่อชี้แจงเรื่องนี้ให้ทราบขอยืนยันว่า ไม่ใช่มติของพรรคภูมิใจไทย
‘ผิดคิวนิดหน่อย แต่เขามีสิทธิ์ ในฐานะที่เป็นสส. ซึ่งความเป็นสส.มีเอกสิทธิ์ล้วนๆ ไม่สามารถห้ามได้ แต่ความเป็นนักการเมืองในอนาคต จะต้องแจ้งให้พรรคทราบก่อน’
เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผิดคิวอย่างที่ ‘เสี่ยหนู-อนุทิน’ ว่าไว้หรือไม่ แต่บังเอิญเป็นความต่อเนื่องจากการ ‘เขี่ยลูก’ ของพ่อเนฯ จากบุรีรัมย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 4 เมษายน และรับส่งลูกต่อกันเป็นทอด ๆ จนนำไปสู่คำสั่ง ‘ไอ้เสือถอย’ เลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายกาสิโนของรัฐบาลออกไป
ชนิดที่เพื่อไทยต้องถอยร่นแบบไร้กระบวนท่า
ดังนั้น การออกมาของไชยชนก ‘ลูกพ่อเนฯ’ หนนี้ หากเป็นการผิดคิวอย่างที่ว่า ก็น่าจะเป็นระดับ**‘คิวทอง’** ถือโอกาสตอกฝาโลง ฝังกฎหมายกาสิโน เก็บคะแนนจากฝ่ายอนุรักษ์ให้ภูมิใจไทยไปเต็ม ๆ เสริมโลโก้ใหม่ให้พรรคสีน้ำเงิน ที่รอขึ้นชั้นเป็นเบอร์หนึ่ง หัวขบวนพรรคสายอนุรักษ์
ส่วน ‘อาหนู’ ของนายกฯ อิ๊งค์ ก็กระวีกระวาด ทำหน้าที่คนกลางแก้เกี้ยวไปตามประสา เพราะยังต้องอยู่ด้วยกัน ไม่ถึงเวลาแตกหัก จึงตำหนิเลขาพรรคฯ โชว์ เอาใจนายกฯ Gen Y กันหน่อย
ทั้งหมดที่ว่ามา เมื่อพิจารณาจากบริบทการเมืองในแบบฉบับของฤทธิ์มีดสั้น ‘ลี้ คิม ฮวง’ แล้วการออกมาของลูกชายครูใหญ่เที่ยวนี้ จึงค่อนไปทางแต่งตัวพรรคสีน้ำเงิน รอขึ้นเบอร์หนึ่งสายอนุรักษ์เสียมากกว่า