กาสิโน-พนันออนไลน์ ไม่ตรงปก?!

20 ม.ค. 2568 - 03:01

  • ออกตัวแรง เปิดไทม์ไลน์เสร็จ แต่ไม่ตรงปก

  • เจอผลศึกษาของสภาผู้แทนราษฎรที่ทำไว้ที่ผิดฝาผิดตัว

  • ยากที่จะเข็นออกมาให้ตอบได้ทุกโจทย์

politics-thailand-government-casino-gambling-pheuthaiparty-SPACEBAR-Hero.jpg

พรรคเพื่อไทย ชูสโลแกน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ แต่พอได้เข้ามาเป็นรัฐบาล การผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่หาเสียงไว้ กลับเป็นไปแบบกระท่อนกระแท่น ทุลักทุเล ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และทำแบบกระปริบกระปรอย

สุดท้ายที่ทำออกมาก็ไม่ตรงปก!!

ไม่ว่าการแจกเงินหมื่น การขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ เพิ่มเงินเดือนข้าราชการ ลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้าทันที อยู่ดี กินดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ล้วนเป็นเพียงลมปากทั้งสิ้น

ล่าสุดบ่อนกาสิโน พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ที่มาในเสื้อคลุมของสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่กำลังออกตัวแรง เปิดไทม์ไลน์กันมาเสร็จ ก็ไม่ตรงปกอีกนั่นแหล่ะ   

ถามว่า ไม่ตรงปกตรงไหนบ้าง ธนากร คมกฤส เลขามูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ไล่เรียงให้เห็นเป็นข้อ ๆ ว่า มีเจตนาซุกบ่อนกาสิโนไว้ในกฎหมายที่เขียนไว้แบบหลวม ๆ อย่างไร โดยจำแนกออกเป็น 4 ข้อหลัก ๆ ได้แก่

1. เปิดกาสิโนได้หลายแห่ง หลายขนาด No Limit

o เงื่อนไข คือ “ต้องเป็นกาสิโน บวกกับอีก 4 กิจการ (มาตรา 41)

o สี่กิจการที่จะเปิดร่วมกับกาสิโน กฎหมายได้ตัดถ้อยคำที่ผูกมัดเกี่ยวกับขนาดของกิจการออกไปทั้งหมด เช่น ตัดคำว่า ‘ระดับ 5 ดาว’ ออกจากคำว่าโรงแรม ตัดคำว่า ‘ครบวงจร’ ออกจากคำว่าห้างสรรพสินค้า และตัดรายการศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ ออกจากตัวเลือก ในบัญชีแนบท้าย

o ไม่ได้กำหนดว่าสัดส่วนของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรมีได้ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ (มาตรา 11(8))

2. ยกอำนาจการตัดสินใจให้ ‘คณะกรรมการนโยบาย’

o คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วย นายกฯ / รองนายกฯ 1 / รมต.ตามตำแหน่ง 6 / ข้าราชการประจำ 4 /และผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกฯแต่งตั้ง ไม่เกิน 6 = 18อรหันต์ (มาตรา 6)

o จะตั้งที่ไหน จะเปิดที่ไหน จะเปิดขนาดไหน จะเก็บภาษีเท่าไร จะเก็บค่าใบอนุญาตจากผู้ประกอบการรายละเท่าไร ภายใต้มาตรา 11 มาตราเดียว คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจตัดสินใจ 

o จะให้กลุ่มธุรกิจใดทำ ไม่ต้องมีการประมูล ใช้ระบบอนุญาตโดยกรรมการนโยบาย 

o ไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความเห็นประชาชน (ความเดิมในมาตรา 50 ของร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอโดยกมธ.ถูกตัดออก)

3. เรื่องเงินทองเขียนกำหนดขั้นสูงแต่ไม่กำหนดขั้นต่ำ

o ใบอนุญาตครั้งแรกเก็บได้ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ใบอนุญาตรายปีเก็บได้ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท (มาตรา 11(6))

o อัตราค่าธรรมเนียมของผู้มีสัญชาติไทยที่จะเข้ากาสิโนเก็บได้ไม่เกินครั้งละ 5,000บาท (มาตรา 11(11))

4. ไม่ล็อกเงินรายได้เข้าแผ่นดิน

o เงินได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหลักพันล้าน เป็นทุนและทรัพย์สินของสำนักงานกำกับกิจการสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อหักค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการต่าง ๆ เหลือเท่าใดให้นำส่งเข้าแผ่นดิน (มาตรา 24 วรรคท้าย)

ผิดฝาผิดตัวไปหมดกับผลศึกษาของสภาผู้แทนราษฎรที่ทำไว้

โดยเฉพาะข้อหลังสุดนี้ ในสายตาของนักวิชาการที่ติดตามเศรษฐกิจนอกกฎหมาย ธุรกิจใต้ดินมานานอย่าง รศ.สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตผอ.ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งทำวิจัยเรื่องการเปิดกาสิโนในประเทศไทย ได้ให้ความเห็นไว้ละเอียดยิบเรื่อง ‘กาสิโนใต้เงามืด’

อาจารย์สังศิต สรุปไว้ตอนหนึ่งเรื่องการให้ใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมลักษณะนี้ จะเป็นการเปิดช่องนำเงินที่มีตัวเลขนับแสนล้านบาท ไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเมือง กลายเป็นแหล่งเงินทุนของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล

นอกจากประเด็นข้างต้นที่ว่ามาแล้ว ยังมีที่ตกหล่นอีก คือ มาตรการดูแล เยียวยาเรื่องผลกระทบ ที่ผลการศึกษาให้มีหน่วยงานขึ้นมาดูแล อีกทั้งให้มีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาด้วย แต่ไม่มีอยู่ในร่างที่รัฐบาลเสนอ 

ทั้งนี้ จากที่ได้พูดคุยเพิ่มเติมกับธนากร เจ้าตัวยังไม่เห็นด้วยกับการให้ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เป็นกฎหมายพิเศษเหมือน พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีผลให้ไปยกเว้นกฎหมายหลายฉบับได้

สุดท้าย ความพยายามผลักดันทั้งกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายออกมาในเวลาไล่เรี่ยกันของรัฐบาล ธนากรมองเป็นความซับซ้อนซ่อนเงื่อน มีทั้งตัวหลอก ตัวจริง พอ ๆ กับนิยาย 3 ก๊ก หรือจับผลัดจับผลูก็จะเอาทั้งคู่นั่นแหล่ะ

แต่ในสถานการณ์ที่มีเสียงรุมค้านจากรอบทิศแบบนี้ ‘กาสิโน-พนันออนไลน์’ ถูกกฎหมายฉบับยาผีบอกที่ไม่ตรงปก ประเภทกินก็ได้ ทาก็ได้ ไม่หายก็ตายแล

ท้ายสุดคงไม่ง่ายที่จะเข็นออกมาให้ตอบได้ทุกโจทย์ ทั้งดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติและแก้ปัญหาพนันผิดกฎหมายในประเทศ ดีไม่มีดีอาจทำให้รัฐบาลอายุสั้นด้วยซ้ำ?!

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์