รัฐบาลดันเปิดกาสิโน จัดประชุม ‘นายบ่อน’ กลางกรุงฯ

28 พ.ย. 2567 - 06:11

  • -รัฐบาลดันสุดตัวเปิดเสรีกาสิโนตามที่ประกาศไว้

  • จัดงานระดมความคิดและกลุ่มทุนประกาศความพร้อม

  • กลุ่มทุนไทยเตรียมลุย เช่นเดียวกับกลุ่มกาสิโนต่างประเทศ

politics-thailand-government-casino-meeting-city-SPACEBAR-Hero.jpg

การจัดตั้ง ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ (Entertainment Complex) หรือกาสิโนถูกกฎหมาย เป็นอีกหนึ่งนโยบาย ‘เรือธง’ ของพรรคเพื่อไทยที่อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ‘อิ๊งค์’ แพทองธาร ตั้งใจจะผลักดันให้เกิดขึ้นในสมัยนี้ให้สำเร็จ

โดยยกเหตุผลหลักว่า จะช่วยในการพลิกโฉมรูปแบบการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้มีจุดขายเพิ่มขึ้น จากแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้น Man made attraction และยังจะช่วยในการดึงเศรษฐกิจนอกระบบที่อยู่**‘ใต้ดิน’ให้ขึ้นสู่‘บนดิน’**ซึ่งจะทำให้ขนาดเศรษฐกิจหรือ GDP ของไทยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ถึงแม้จะมีเสียงท้วงติงจากกลุ่มนักวิชาการที่แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของ**‘ผลกระทบ’**ทางสังคมที่จะตามมา ตั้งแต่ในช่วงของอดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่เตือนให้รัฐบาลวิเคราะห์ **‘ข้อดี-ข้อเสีย’**หรือ ‘ประโยชน์-โทษ’ อย่างรอบคอบ 

แต่ดูเหมือนรัฐบาลก็ไม่นำพายังคงเดินหน้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีบรรดากลุ่มทุนทั้งในและต่างประเทศแสดงท่าทีหนุนหลัง และมีการเคลื่อนไหวเตรียมความพร้อมกันกันอย่างคึกคักจนผิดปกติ 

รัฐบาลมีการ**‘ยกร่าง’**พระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรขึ้นมา โดยนำไปผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนไปเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้  เพื่อให้ทันเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมในระหว่างวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ถึงเดือนเมษายน 2568 นี้ 

มีความพยายามที่จะ**‘ลดกระแสต้าน’**และสร้างภาพเชิงบวกให้กับแนวคิดในการเปิดกาสิโนแบบถูกกฎหมาย จากกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลที่เร่งเดินเกมแบบเหนือชั้นในการดึงกลุ่มทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาจัดงานประชุมสุดยอด ‘Thai Entertainment Complex Summit’ ขึ้นในไทย ระหว่างวันที่ 2-4 ธันวาคมนี้ ที่โรงแรม Marriott Hotel สุรวงศ์ กรุงเทพฯ 

งานประชุมสุดยอดดังกล่าว จัดโดยกลุ่ม Winna Media จากฮ่องกง ซึ่งทำธุรกิจด้านการจัดงานสัมมนาในแวดวงธุรกิจพนันระดับโลก

โดยในวันเปิดงานมีการเชิญ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ มาเปิดงาน เพื่อชูจุดแข็งและความพร้อมของกรุงเทพฯในการรองรับการลงทุนเมกะโปรเจคขนาดใหญ่  

นอกจากนี้ยังมีหัวข้อการประชุมที่ต้องการจะนำเสนอข้อมูลให้กับกลุ่มทุนทั้งไทยและต่างประเทศที่สนใจจะเข้ามาลงทุนเปิด สถานบันเทิงครบวงจร Entertainment Complex ในไทย โดยคาดว่าน่าจะมีกลุ่มทุนพนันรายใหญ่ๆจากต่างประเทศบินมาร่วมประชุมกันอย่างคึกคัก 

ทั้งหมดคาดว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงให้เห็นว่าแนวคิดในการผลักดันโครงการ Entertainment Complex จะมีส่วนช่วยในการดึงการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้ามา และจะกลายเป็น ‘แม่เหล็ก’ ตัวใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทย

ถึงแม้รัฐบาลจะมีความพยายามที่จะผลักดันการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย ภายใต้นิยามใหม่คือ ‘สถานบันเทิงครบวงจร’ หรือ Entertainment Complex แต่ในอีกมุมหนึ่ง ภาคประชาสังคมก็ยังมีความเป็นห่วง และต้องการให้มีความชัดเจนในหลายๆเรื่องเพราะวิตกว่าจะเกิดผลกระทบทางสังคมในทางลบตามมา

หากความเข้มงวดของมาตรการที่กำกับดูแลและบังคับใช้ของภาครัฐไม่เคร่งครัดรัดกุมเพียงพอ และทำให้คนไทยกลายเป็นนักพนัน สร้างปัญหาหนี้สิน ปัญหาครอบครัว ตลอดจนปัญหาอาชญากรรมต่างๆตามมา ซ้ำร้ายไปกว่านั้นกาสิโนถูกกฎหมาย อาจกลายเป็นศูนย์รวมของอบายมุข และเป็นแหล่งฟอกเงินแบบถูกกฎหมาย 

ล่าสุดศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน มีกำหนดจะจัดการประชุมศึกษาปัญหาพนันปี 2567 ในหัวข้อ ‘สังคมเสี่ยงพนัน เดิมพันอนาคต จะเป็นอย่างไรหากประเทศไทยไม่เหมือนเดิม?’  ในวันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพฯ 

โดยจะมีการนำเสนอ ผลสำรวจสถานการณ์การพนันในสังคมไทยปี 2566 โดย ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพนัน ‘นวลน้อย ตรีรัตน์’

ตามร่างพ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร มีการกำหนดให้ Entertainment Complex ต้องประกอบด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายอย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับ ‘กาสิโน’ ตามบัญชีแนบท้าย ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าครบวงจร โรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหารและบาร์ ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ ศูนย์สุขภาพครบวงจร สนามกีฬา ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ สถานที่เล่นเกม สระว่ายน้ำและสวนน้ำ สวนสนุก พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้าโอท็อป

คุณสมบัติของเอกชนผู้ที่ยื่นขอใบอนุญาต ต้องเป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท โดยใบอนุญาตจะมีอายุ 30 ปี ต่ออายุครั้งละไม่เกิน 10 ปี 

มีการกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายละ 5,000 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมรายปี 1,000 ล้านบาท และยังต้องเสียภาษีกาสิโน โดยคาดว่าจะเก็บอยู่ในช่วง 15-30% จากกำไร 

กลุ่มเป้าหมายหลัก คาดว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการประมาณ 30-50% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ยที่ 39 ล้านคนในอนาคต ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีรายได้ราว 3-4 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ผู้ประกอบการน่าจะอยู่ที่ประมาณ 5-8 หมื่นล้านบาท

สำหรับค่าธรรมเนียมในการเข้าเล่นกาสิโนกำหนดไว้ในอัตราไม่เกินรายละ 5,000 บาท และไม่อนุญาตให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าพื้นที่กาสิโน เป็นต้น

เบื้องต้นคาดว่า จำนวน Entertainment Complex ของไทยน่าจะเปิดให้ลงทุนทั้งหมด 5 แห่ง คือ กรุงเทพฯ 2 แห่ง พัทยา  ภูเก็ต และเชียงใหม่ จังหวัดละ 1แห่ง

จากการรวบรวมรายชื่อกลุ่มทุนทั้งในและต่างประเทศที่สนใจโครงการนี้ มีกลุ่มทุนในประเทศที่แสดงความสนใจ เช่น 

กลุ่มบริษัท สยามพาร์คซิตี้ หรือสวนสยาม ของ ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ

กลุ่มเดอะมอลล์ ของศุภลักษณ์ อัมพุช

กลุ่มพราวกรุ๊ป ของสุวัฒน์ ลิปตพัลลภ

กลุ่มบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA  (บางกอกแอร์เวย์ส, บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และซิโน-ไทย)

กลุ่มราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย หรือสนามม้านางเลิ้ง ร่วมกับบริษัท Royal Sport Complex จำกัด หรือ RSC ภายใต้ชื่อโครงการ The Royal Siam Haven

ขณะเดียวกัน กลุ่มทุนพนันในวงการกาสิโนระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Las Vegas Sands Corporation กลุ่ม Wynn Resorts กลุ่ม Caesars Entertainment กลุ่ม MGM China Holdings Limited และกลุ่ม Hard Rock Cafe ต่างก็แสดงความสนใจลงทุนด้วยเช่นกัน

มาถึงจุดนี้ หากประเมินน้ำหนักแล้ว แนวคิดในการผลักดันกาสิโนแบบถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นเรือธงของรัฐบาลน่าจะเดินหน้ามาจนใกล้จะถึงฝั่งฝันแล้ว เนื่องจากถึงแม้จะมีกระแสต้านจากภาคประชาสังคมในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีพลังมากพอที่จะทำให้เรือธงลำนี้อัปปางก่อนจะเทียบท่า ยกเว้นจะมีใครบางคนเดินสะดุดหัวแม่เท้าตัวเองเสียก่อน...

politics-thailand-government-casino-meeting-city-SPACEBAR-Photo01.jpg
politics-thailand-government-casino-meeting-city-SPACEBAR-Photo02.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์