กลบทสยบบ้านใหญ่ เปิดไฟส่องว่าที่นายก อบจ.ปราจีนบุรี

26 ธ.ค. 2567 - 03:11

  • เพื่อไทยเปิดตัว ‘สจ.จอย’ ลั่นกลองรบ

  • หวังยึดเมืองปราจีนบุรี เดินหน้าสยบบ้านใหญ่

  • ‘ตระกูลวิลาวัลย์’ ที่ยังซุ่มหลบกระแส

politics-thailand-government-prachinburi-provincial-organization-SPACEBAR-Hero.jpg

ในที่สุด สจ.จอย ณภาภัช อัญชสานิชมน ภรรยาของ สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ตามที่เปิดเผยกับสื่อร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในงานศพ สจ.โต้ง เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 

สจ.จอย ซึ่งเดินทางไปกับบุตรชาย ธนภัทร สิทธิสนิทพงศ์ และได้หมายเลข 4 ในการจับสลากเลือกหมายเลข 

ส่วนผู้สมัครอีก 3 รายที่เหลือ กำนันศักดิ์ อำไพ กองมณี ผู้สมัครอิสระ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อจากพรรคเสรีรวมไทย ได้หมายเลข 1 , จำรูญ  สวยดี จากพรรคประชาชน ได้หมายเลข 2 และหมอหนา กฤษณ์กมล แพงศรี ผู้สมัครอิสระ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้หมายเลข 3

การลงสมัครของ สจ.จอย ครั้งนี้ ชัดเจนอย่างเป็นทางการว่า ลงสมัครนามพรรคเพื่อไทย ทั้งจากท่าทีอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ก่อนหน้านี้ และการแถลงของพรรคเพื่อไทย ที่เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 9 จังหวัด ในนามพรรค ซึ่ง 1 ในนั้น คือ สจ.จอย ณภาภัช  

ขณะที่ผ่านไป 4 วันของการรับสมัคร ความเคลื่อนไหวของตระกูลวิลาวัลย์ บ้านใหญ่ประจำเมืองปราจีนบุรียังคงสงบเงียบ มีเพียง ครูโอ๊ะ กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.กระทรวงศึกษา ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวเรื่องจะส่งลูกชายลงสมัครว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะส่งลูกชายลงสมัคร เนื่องจากเกิดปี 2538 อายุเพิ่งจะย่าง 30 ปีเท่านั้น ขาดคุณสมบัติที่จะลงสมัครนายก อบจ.ที่ระบุว่า ผู้สมัครต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป 

การปฏิเสธของครูโอ๊ะ จึงทำให้ยังมองไม่ออกว่า สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่ส่อเค้าจะดุเดือดว่าบ้านใหญ่วิลาวัลย์ จะส่งใครเป็นตัวแทนลงสมัคร เพราะคนในตระกูลวิลาวัลย์ ที่วันนี้ยังอยู่ในสนามการเมือง โดยไม่ต้องคดีความหรือโดนตัดสิทธิทางการเมือง มีเพียง อำนาจ วิลาวัลย์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคภูมิใจไทยเขต 1 ลูกชายของ บังอร วิลาวัลย์ อดีตนายก อบจ.5 สมัย ที่เป็นน้องสาวของโกทร เท่านั้น

ซึ่ง ณ เวลานี้ ยิ่งเป็นไปได้ยาก เพราะอำนาจ ยังคงดำรงตำแหน่ง ส.ส. ซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้ามสำหรับผู้ที่จะลงสมัครนายก อบจ.  

ขณะที่ตัวบังอรเอง แม้จะผ่านการเป็นนายก อบจ.ปราจีนบุรีมา 5 สมัย และปัจจุบันยังคงมีตำแหน่งเป็นประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี แต่ยังมีคดีอยู่ในกระบวนการพิจารณา โดยเป็นคดีฮั้วประมูลเมื่อปี 2563 ที่แม้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 จะมีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อเดือนกันยายน 2566 แต่คดียังไม่ถึงที่สุด 

การเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรีที่จะมีขึ้นในปี 2568 จึงน่าจะค่อนข้างชัดว่า จะไม่มีคนในตระกูลวิลาวัลย์ลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างแน่นอน 

อันจะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี นับจากปี 2543 ที่จะไม่มีคนในตระกูลวิลาวัลย์ ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรี นับจากบังอร ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ครั้งแรก เมื่อปี 2543 และเป็นติดต่อกัน 5 สมัยจนถึงปี 2563 ก่อนที่ โกทร สุนทร วิลาวัลย์ จะขึ้นเป็นนายก อบจ.ต่อจนถึงปี 2567 

ส่วนคนอื่นๆซึ่งเป็นคนสนิทของโกทร ที่ก่อนนี้คาดว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ภายใต้การสนับสนุนของบ้านวิลาวัลย์นั้น จนถึงนาทีนี้ ทั้ง สจ.อุ๊ หรือผู้กองอุ๊ ‘ฤษฎ์ กษมพันธุ์’ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี คนที่ 1 และ ‘เลขาเก๋’ ธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี คนที่ 2 ที่ต่างเป็นคนสนิทโกทร รองลงมาจาก สจ.โต้ง ต่างยังสงบเงียบ 

สจ.อุ๊ นั้นดูเหมือนยิ่งยากที่จะลงสมัครในรอบนี้ แม้ว่าก่อนการเสียชีวิตของ สจ.โต้ง จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่จะได้รับไว้วางใจจากโกทร ให้เป็นตัวแทนลงสมัคร กรณีโกทรหรือคนในตระกูลวิลาวัลย์ลงสมัคร 

แต่สถานการณ์ สจ.อุ๊วันนี้ นับจากออกมาให้สัมภาษณ์สื่อถึงเหตุการณ์คืนวันยิง สจ.โต้ง หรือสถานการณ์ที่ปรากฏคลิปเสียงคล้าย สจ.อุ๊กำลังโทรทัพท์คุยกับใครบางคน ดูเหมือน สจ.อุ๊ จะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เมื่ออาจตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของ สจ.โต้งในคืนนั้น และตกเป็นเป้าหมายการเข้าตรวจค้นของตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนคดี 

หลังจากให้สัมภาษณ์สื่อวันนั้น สจ.อุ๊ ก็ไม่ได้ปรากฏตัวในที่สาธารณะอีกเลย มีรายงานบางกระแสว่า อาจจะออกไปกบดานอยู่ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่บางกระแสบอกว่ายังอยู่ในปราจีนบุรี แต่ต้องเก็บตัวเงียบเพื่อความปลอดภัย เพราะถูกปล่อยข่าวว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำสั่งยิง สจ.โต้งในคืนนั้น ซึ่งอาจทำให้ตกเป็นเป้าของการเอาคืนจากบรรดาลูกน้อง สจ.โต้ง

ส่วน ‘เลขาเก๋‘ ธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี คนที่ 2 ซึ่งเป็นอีกคนที่โกทรไว้วางใจ และเป็นนักยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของบ้านวิลาวัลย์มาในทุกสนาม ทั้งสนามเลือกตั้ง ส.ส. และสนามท้องถิ่น 

เลขาเก๋ ก็เคยหมายมั่นปั้นมือว่า วันใดที่โกทรหรือคนในตระกูลวิลาวัลย์ไม่ลงสมัคร เขาอาจเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจในลงสมัครในนามบ้านวิลาวัลย์แทน เพราะอยู่ช่วยโกทร มาตั้งแต่การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ปราจีนบุรีเมื่อปี 2553 เมื่อครั้ง กนกวรรณ วิลาวัลย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เลขาเก๋ ก็ได้เข้าไปช่วยงานในตำแหน่งหัวหน้าคณะทำงานประจำสำนักงาน รมช.ศึกษาฯ , เลขานุการประจำตัว รมช.ศึกษาฯ และที่ปรึกษา รมช.ศึกษาฯ

ช่วงที่โกทรต้องคดี และสจ.อุ๊ รักษาการตำแหน่งนายก อบจ. ปราจีนบุรี เลขาเก๋ในฐานะรองนายกคนที่ 2 ก็เป็นตัวแทนออกงานแทนโกทรอย่างต่อเนื่อง 

สถานการณ์เวลานี้ ทั้ง สจ.อุ๊ และเลขาเก๋ ดูเหมือนจะต้องสงวนท่าทีเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้วันนี้จะไม่มี สจ.โต้งแล้ว แต่บารมีและเครือข่ายของสจ.โต้งที่วางเอาไว้ รวมกับท่าทีของผู้กองธรรมนัส ที่ให้การสนับสนุน สจ.จอยในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นภาวะการณ์ที่ไม่ควรสุ่มเสี่ยงเปลืองตัวลงไปสู้ในสนามที่ไม่ชัดเจนว่าจะชนะหรือไม่ 

สถานการณ์จะพลิกผันได้ ที่ทั้ง สจ.อุ๊ หรือ เลขาเก๋ คนใด คนหนึ่งจะลงสมัคร ก็ต่อเมื่อคนใดคนหนึ่ง ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากบ้านวิลาวัลย์ โดยเฉพาะจากโกทร ซึ่งต้องประกาศชัดก่อนวันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัครเท่านั้น 

สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรียามนี้ จึงส่อเค้าว่า จะเป็นการแข่งกันระหว่างผู้สมัครหมายเลข 4 สจ.จอย ณภาภัช จากพรรคเพื่อไทย และผู้สมัครหมายเลข 2 จำรูญ สวยดี จากพรรคประชาชนเท่านั้น และอาจเป็นการเลือกตั้งที่ยุติบทบาทของบ้านใหญ่วิลาวัลย์ ได้เกือบจะสิ้นเชิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์