‘ทักษิณ-พท.’ ในมือศาล รธน. คดีนี้อีกนาน!?

15 ต.ค. 2567 - 03:00

  • คดี ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ จะออกหัวหรือออกก้อย

  • กระบวนการต้องใช้เวลานานและอาจเลยข้ามปี

  • หลายคนมอง เกิดจากความบาดหมางกันของสองพรรค

politics-thailand-law-thaksin-dissolves-party-constitutional-court-SPACEBAR-Hero.jpg

เดาทางกันไปต่าง ๆ นานา เรื่องการยื่นร้องเอาผิด ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย กรณีครอบครอง ครอบงำและสั่งการ ที่ผู้ร้องเห็นว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

โดยคำร้องดังกล่าว ทำให้คอการเมืองมานั่งลุ้นกันว่า เรื่องนี้จะออกหัวออกก้อยอย่างไร ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ขณะที่แกนนำเพื่อไทย ต่างพร้อมใจกันออกมาด้อยค่าผู้ร้อง ซึ่งไม่รู้ปากกล้าขาสั่นหรือรู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ

เอาเป็นว่า ในวันแรกที่เรื่องนี้ถูกเปิดออกมา ไม่ได้มีผลสะเทือนเลือนลั่น ถึงขั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลอย่างที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน ซามูไรกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ ฉายหนังตัวอย่างหรือโม้ไว้ ด้วยเหตุผลหลายประการ

หนึ่ง เนื้อหาในคำร้องล้วนเป็นเรื่องเก่าที่สังคมได้รับรู้กันไปหมดแล้ว เพียงแต่นำมาร้อยเรียงมัดรวมไว้ในคำร้องเดียวกัน

สอง ต้องใช้เวลาในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญอีกนาน หลังรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย ซึ่งไม่ได้จบลง หรือมีคำตอบออกมาภายใน 3-7 วัน แต่คงต้องใช้เวลานานนับปี

สาม มีที่แตกต่างจากคำร้องอื่น ๆ อยู่บ้าง ก็ตรงที่เป็นเรื่องแรกที่ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ เพราะหลายคำร้องก่อนหน้านั้น ล้วนยื่นผ่านองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ไม่ กกต.ก็ ป.ป.ช.หรือผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ยังต้องเข้าแฟ้มรออีกนาน

สี่ ที่ดูขลังหน่อยน่าจะเป็นตัวผู้ร้อง ธีรยุทธ สุวรรณเกษร มือยุบพรรคก้าวไกล ที่ไม่ได้ร้องสะเปะสะปะเหมือนคนอื่น ๆ โดยใช้ก๊อปปี้เดียวกับที่ยื่นร้องยุบพรรคก้าวไกล คือ ใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ขอศาลสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดการกระทำ จากนั้น ถ้าผลออกมาเป็นไปตามคาด ก็ค่อยนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นยื่นร้องยุบพรรคต่อไป

ตรงนี้แหล่ะที่ทำให้กระบวนการต้องใช้เวลานานและอาจเลยข้ามปีด้วยซ้ำ

ทีนี้ที่ต้องขีดเส้นใต้หนา ๆ คือ ความสำเร็จของธีรยุทธหนก่อน เป้าอยู่ที่พรรคก้าวไกล ซึ่งในสายตาฝ่ายความมั่นคงมองเป็นภัยความมั่นคงของชาติ แต่หนนี้เป้าเปลี่ยนมาเป็น พรรคเพื่อไทย ที่กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งในรอบเกือบสิบปี ด้วยดีลลับ ดีลพิเศษ จนทำให้ทักษิณได้กลับประเทศไทยหลังใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนนานถึง 17 ปี

ด้วยเหตุนี้ เพื่อไทย ที่ถูกนักร้องหรือมือปืนคนเดียวกันเตรียมลั่นไกสังหาร โดยใช้กระสุนเบอร์เดียวกัน คือ รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 และใช้ลานประหารที่เดียวกันคือ ศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป้าสังหารใหม่ คือ ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ ที่กำลังเป็นรัฐบาลบริหารประเทศภายใต้เงื่อนไขพิเศษ

ดังนั้น เมื่อมองลอดแว่นฝ่ายความมั่นคง อาจจะเห็นภาพของ ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’แตกต่างจากที่มองพรรคสีส้ม

เมื่อเปรียบเทียบสองเหตุการณ์เข้าด้วยกันแบบนี้ จึงทำให้ได้เห็นเป้าหมายการทำงานของนักร้องคนเดียวกันแต่ต่างภารกิจ กล่าวคือ หนก่อนเป็นภารกิจที่ดูใหญ่หลวง เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ แต่หนนี้กลับเป็นเพียงเรื่องความบาดหมางกันของสองพรรค คือ ‘พลังประชารัฐ-เพื่อไทย"’เท่านั้น

โดยมีความแจ่มชัดปรากฎอยู่ในคำร้องประเด็นที่ 5 กรณีการขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

คำถามคือ หากวันนี้พรรคพลังประชารัฐ ยังอยู่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อ ประเด็นที่ 1-2-3-4 และ 6 จะยังเป็นเหตุให้มือปืนคนเดิม ใช้กระสุนเบอร์เดิมและลานประหารเดิมสังหาร ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ อยู่อีกหรือไม่

ทีนี้มาดูกระบวนการต่อจากนี้ว่าจะเดินไปต่ออย่างไร หลังคำร้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา อย่างแรกต้องมาลุ้นกันว่า การประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประจำสัปดาห์ในวันพุธที่ 16 ตุลาคมนี้ จะมีเรื่องนี้อยู่ในระเบียบวาระหรือไม่

บ้างบอกอาจจะยังไม่ทัน เพราะมีรายละเอียดคำร้องเป็นจำนวนมาก และอยู่ในช่วงวันหยุดยาวด้วย แต่บ้างบอกน่าจะทัน เพราะคงใช้เวลาช่วงวันหยุดยาวนี่แหล่ะ ในการดูเนื้อหาคำร้องที่ยื่นไว้

แต่เอาเป็นว่า ไม่ว่าวันพุธนี้จะมีหรือไม่มีเรื่องนี้อยู่ในวาระการประชุมของศาลรัฐธรรมนูญก็ตาม การจะสั่งรับหรือไม่รับคำร้องไว้พิจารณาจะยังไม่เกิดขึ้น เพราะต้องให้อัยการสูงสุด ทำรายละเอียดการยื่นคำร้องมาก่อนอย่างน้อยคงต้องมีถึง 15 วัน

อย่างดีที่สุดวันพรุ่งนี้ คงรับไว้ในทางธุรการแล้วค่อยนัดวินิจฉัยทีหลังว่าจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ในคราวต่อไป

สุดท้ายถ้าศาลท่านรับคำร้องไว้พิจารณา ตรงนี้แหล่ะจะเป็นหนังยาวพอ ๆ กับหนังชีวิต เพราะต้องให้เวลาผู้ถูกร้องยื่นชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งสามารถขอขยายเวลาได้ถึง 3 ครั้ง 

นอกจากนั้น ยังจะมีการเรียกเอกสารเพิ่มจากบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยิ่งหากมีการออกนั่งบัลลังก์เปิดไต่สวนคดี ซึ่งไม่รู้ต้องสืบพยานแต่ละฝ่ายอีกกี่ปาก ก็จะยิ่งทำให้เวลาพิจารณาคดีทอดยาวออกไปอีกนานเนิ่น

นี่แหล่ะที่ทำให้คดี ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ ในมือศาลรัฐธรรมนูญ จะไม่จบลงในเวลาอันสั้นเป็นแน่ และคงถูกนำไปผูกโยงกับการเมืองในมิติอื่นด้วย โดย ‘ทักษิณ-เพื่อไทย’ รู้ดีว่าในขณะที่คนทั่วไปมองเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่นั้น

แต่ชีวิตจริงอาจเป็นได้แค่ไม้กันหมาในสถานการณ์นี้เท่านั้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์