หลังเงื้อง่าราคาแพงอยู่นาน ในที่สุดทางการไทยก็ได้ฤกษ์ ‘สับคัทเอาท์’ ตัดไฟฟ้าที่ส่งไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันทั้ง 5 จุด ตั้งแต่ จ.เชียงราย ตาก ไปถึงกาญจนบุรี ในช่วงสายวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ก่อนหน้านายกฯ อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นำคณะเดินทางเยือนจีนเพียงไม่กี่ชั่วโมง
โดย ‘เสี่ยหนู’ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ทำหน้าที่ ‘คลิ๊กเม้าท์’ กดปุ่มตัดไฟ ต่อหน้ากล้องทีวีและช่างภาพจำนวนมาก ที่ไปเป็นสักขีพยาน ตามที่นัดหมายกันไว้ล่วงหน้า
ทั้ง ๆ ที่ ‘เสี่ยหนู’ คือจำเลยสังคม ฐานโยกโย้ไม่ยอมตัดไฟที่ไปหล่อเลี้ยงเมืองบาปแก๊งคอลเซนเตอร์อยู่นานวัน
การสั่งตัดไฟฟ้า พร้อมอินเตอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์ และห้ามส่งน้ำมันข้ามแดนไปฝั่งเมียนมา มีขึ้นหลัง หลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะของจีน เดินทางมาดูพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อจัดการกับกลุ่มทุนจีนเทา
เอาเป็นว่า เราได้ข้อสรุปเรื่องการตัดไฟฟ้าป้อนให้แก๊งคอลเซนเตอร์ ก่อนหน้าที่ หลิว จงอี้ จะเข้าพบ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม เพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
หลังทำการตัดกระแสไฟฟ้าทั้งสองจุดใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ส่งข้ามไป จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ณัฏฐ์คเนศ จรัสรวีสิริกุล ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สาย บอกกับสื่อมวลชนว่า คงจะมีผลกระทบกับทาง จ.ท่าขี้เหล็ก เนื่องจากใช้ไฟจากประเทศไทยเป็นหลัก แต่ก็มีไฟอีกส่วนหนึ่งที่มาจาก สปป.ลาว
โดยณัฏฐ์คเนศ คาดว่าหลังจากไทยตัดไฟแล้ว ทาง สปป.ลาว ต้องมีการแก้ไขระบบการส่งไฟฟ้า ซึ่งอาจจะติดขัดทำให้ในตัวเมือง จ.ท่าขี้เหล็ก ไม่สามารถใช้งานได้อีกประมาณ 3-5 วัน
แต่ดูเหมือนจะผิดจากที่ผู้จัดการไฟฟ้าภูมิภาคอำเภอแม่สายคาดการณ์ไว้ เพราะคล้อยหลังไปไม่กี่ชั่วโมง ทางการของ จ.ท่าขี้เหล็ก ในนามคณะกรรมการขับเคลื่อนระบบแสงสว่างเมือง (ธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้า) เมืองท่าขี้เหล็ก ได้ออกเอกสารแจ้งให้กับผู้ใช้ไฟทราบเป็นภาษาท้องถิ่น ซึ่งใช้เทคโนโลยีถอดความเป็นภาษาไทยได้ว่า
"เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน พ.ศ.2568 วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 08.30 น.ตามเวลาเมียนมา เมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาประเทศไทย เกิดเหตุไฟฟ้าดับไม่คาดคิดที่ฝั่งไทย ภายใต้การแนะนำของประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนระบบแสงสว่างเมืองท่าขี้เหล็ก (ธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้า)
กำลังเครื่องกลในการเชื่อมต่อและจำหน่ายไฟฟ้าไทย (20 เมกะวัตต์) ที่หยุดชะงักตามแผน โดยไฟฟ้าที่ได้รับจากลาว (30 เมกะวัตต์) ปี2568 ที่มีกำลังคนเต็ม ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 19.00 น.ตามเวลาเมียนมา ไฟฟ้าดับ 90% จะสามารถรับไฟฟ้าได้ตามปกติ ในขณะที่อีก 10% ที่เหลือจะฟื้นตัวได้ภายในไม่กี่วันข้างหน้า"
สรุปความสั้น ๆ ได้ว่า หลังมีปัญหาการตัดกระแสไฟจากฝั่งไทย การไฟฟ้าท่าขี้เหล็ก จะต่อสายไฟฟ้าจาก สปป.ลาว 30 เมกะวัตต์ แทนไฟฟ้าจากฝั่งไทย 10 เมกะวัตต์ ให้ใช้ได้ 90% ในเวลา 19.00 น. ส่วนที่เหลืออีก 10% จะกลับมาเป็นปกติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทำให้ค่ำคืนที่ผ่านมาของ จ.ท่าขี้เหล็ก แสงไฟยังสว่างไสวอยู่เหมือนเดิม
ทั้งนี้ ไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ที่ว่านั้น มาจากเขื่อนน้ำทา ซึ่งเป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ ที่อยู่ในแขวงบ่อแก้ว ในภาคเหนือของลาว ที่บริษัทจีนเข้ามาสร้างและเปิดใช้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยส่งไฟฟ้าให้กับพื้นที่ทางตอนใต้ของจีน และอีกส่วนส่งเข้ามาขายใน จ.ท่าขี้เหล็ก ทั้งยังส่งป้อนให้กับพื้นที่ธุรกิจในสามเหลี่ยมทองคำด้วย
เรื่องการมาไทยของ หลิว จงอี้ ยังเป็นปริศนาว่า มาตำหนิหรือมาชื่นชม-ขอบคุณไทยกันแน่ เพราะข่าวยังแตกเป็นสองทาง โดยทางการไทยบอกอย่างหนึ่ง แต่บนหน้าสื่อโดยเฉพาะจากสายเอ็นจีโอบางสีที่ว่า ‘จีนกดดันไทย’
งานนี้ไม่ว่าจริงคือเท็จ เท็จคือจริงอย่างไร!?
ไม่ว่า ‘จีนเทา’ กับปักกิ่ง จะมีไม่มีอะไรกันก็ตาม แต่ในพื้นที่่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กลับมาสว่างไสวเหมือนเดิมหลังถูกไทยตัดไฟไปไม่กี่ชั่วโมง ด้วยหลอดไฟดวงใหม่จากเขื่อนน้ำทา
ปฏิบัติการณ์สับสวิตซ์ไฟปิดตายแกงค์คอลเซนเตอร์ของไทย จึงเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว?!