หลังโหมโรงมานานตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ในที่สุดฝ่ายค้านที่มีพรรคประชาชนเป็นแกนนำ ร่วมกับอีก 4 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม และพรรคเสรีรวมไทย ก็ได้ข้อยุติจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลกันในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้
โดยการซักฟอกรัฐบาลของฝ่ายค้านหนนี้ เหมือนเป็นไฟต์บังคับ เพราะปล่อยให้เวลาผ่านไปเกือบสองปี เพิ่งมายื่นตรวจสอบฝ่ายบริหารกันเอาตอนนี้ ถือว่ามีความผิดแผกแตกต่างจากสภาในอดีตอย่างมาก
เหตุที่เป็นเช่นนี้คงมาจากหลายสาเหตุ ทั้งในส่วนของฝ่ายค้านเองและในส่วนของรัฐบาลด้วย ที่ต่างมีปัญหารอยต่อเหมือนๆ กัน โดยรัฐบาลเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีกะทันหัน จาก เศรษฐา ทวีสิน มาเป็น แพทองธาร ชินวัตร
ส่วนฝ่ายค้าน ก็ประสบอุบัติเหตุทางการเมือง ยุบพรรค้าวไกล จนต้องมีการส่งไม้ต่อกันระหว่าง ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ซึ่งรับหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ คนปัจจุบัน
นอกจากนั้น ยังเกิดภาวะระส่ำขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ จนถูกปรับออกจากรัฐบาล มาเป็นฝ่ายค้านแบบไม่เต็มใจ
เอาเป็นว่า กว่าฝ่ายค้านจะตั้งหลักและรวมตัวกันติดได้ นายกฯ มือใหม่หัดขับอย่าง อิ๊งค์-แพทองธาร ก็ผ่านการปลุกเสกจากหลายเวที จนยืนหลักตั้งลำได้ ไม่หันรีหันขวางเหมือนตอนเข้ามาวันแรก ๆ
ทีนี้ก็ถึงคราว ฝ่ายค้านจำเป็น ต้องพิสูจน์ตัวเองบ้าง
และคำว่า "ฝ่ายค้านจำเป็น" คงไม่เกินเลยไปนัก เพราะแต่ละพรรคต่างมารับบทฝ่ายตรวจสอบแบบฝืนใจ โดยเฉพาะพรรคส้มที่เป็นแกนนำ ถูกมองมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยมาตลอด จนนำไปสู่คำครหาว่า ชกไม่เต็มหมัด-ค้านไม่จริง
ยิ่งฝ่ายค้านน้องใหม่ พรรคพลังประชารัฐ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจำใจมาเป็นฝ่ายค้านขนาดไหน เพราะถูกปรับออกจากการร่วมรัฐบาลกันกลางอากาศ ส่วนพรรคเสรีรวมไทย ก็กลับไปกลับมา ขึ้้นกับอารมณ์หัวหน้าพรรคจะพัดพาไปทางไหน
ทำให้งานนี้ คนที่เป็นเจ้าภาพหลัก คือ พรรคส้ม ต้องทำหน้าที่ขยี้จุดอ่อน เปิดแผลเก่า-แผลใหม่รัฐบาลเอง จะหันไปพึ่งพรรคร่วมฯ คงไม่ได้ เพราะที่มานั่งแถลงข่าวร่วมกันทั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส ไพบูลย์ นิติตะวัน ส้วนเป็นแกนนำนอกสภาทั้งนั้น
ดังนั้น สารพัดข้อกล่าวหา "บริหารงานล้มเหลว-ไร้ความสามารถ" สูตรสำเร็จที่ฝ่ายค้านมักนำมาใช้กล่าวหาในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทุกครั้ง โดยเฉพาะหนนี้ที่มีทั้งปัญหาเศรษฐกิจ กลุ่มทุนเทา แก๊งคอลเซนเตอร์ ยาเสพติด ไปจนถึงปมป่วยทิพย์ ชั้น 14
ทั้งหมดต้องอาศัยการล้วง แคะ แกะ เกา เอาข้อมูลเชิงลึกมาต่อภาพ ลำดับเรื่องให้เห็นเป็นฉาก ๆ ซึ่งพรรคส้มต้องมีมากกว่าการตัดแปะข่าวจากที่สื่อนำเสนอไปแล้ว
รอดูว่า ฝ่ายค้านโดยฉพาะพลพรรคส้มจะมีหมัดเด็ดอะไรมาอภิปรายรัฐบาลบ้างเพราะงานนี้ยังไงก็น๊อครัฐบาลไม่ได้ด้วยมือในสภา มีเพียงข้อมูลเท่านั้น ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือรัฐบาลและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้
สรุปแล้วการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งนี้ ฝ่ายค้านมีเดิมพันที่สูงกว่า เพราะมีภาระต้องพิสูจน์ความเป็นฝ่ายค้านของแท้ ของเทียม ขณะที่รัฐบาลคงไม่ต้องเสียเวลาไปเก็งข้อสอบอะไรมาก เพราะการอภิปรายคงจำกัดวงอยู่ไม่เกินสามพรรค คือ "เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาชาติ"
ส่วนรวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา อาจเจอสะเก็ตไฟจากหมอกควัน PM2.5 และปัญหาพลังงานบ้าง หรือไม่นานๆ อภิปรายฯ ทั้งที ก็ยื่นซักฟอกไม่ไววางใจรัฐบาลทั้งคณะเสียเลย
ถ้าวางยุทธศาสตร์ไว้อย่างหลังนี้ คงนำไปใช้เป็นข้ออ้างได้ว่าทำไมถึงขอเวลามากถึง 5 วัน แต่ก็เข้าล๊อครัฐบาลอีกเหมือนกัน หากจะนำไปปรับครม.แบบเขย่าสูตร แบ่งกระทรวงกันใหม่ หลังการอภิปรายของฝ่ายค้าน
นี่คือศึกซักฟอกยกแรก ที่จะพิสูจน์ฝ่ายค้านของแท้-ของเทียม แถมยังต้องระวังไม่ให้มีการแตกแถวในช่วงลงมติอีกต่างหาก เพราะถ้าคุมไม่อยู่นอกจากคว่ำรัฐบาลไม่ได้แล้ว ยังจะเพิ่มรอยร้าวขึ้นในพรรคฝ่ายค้านด้วย
เข้าทำนองหมดข้าวสารเป็นกระสอบ แต่จับไก่ไม่ได้สักตัว!!