ทันทีที่ปรากฎข่าวสำนักงาน ป.ป.ช.ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง 44 อดีตสส.พรรคก้าวไกล ที่ปัจจุบันมี 25 คน เป็นสส.พรรคประชาชน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา และชี้แจงกรณีฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในสภาชุดที่แล้ว
แม้ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร หนึ่งในสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่ได้รับหนังสือแจ้งจาก ป.ป.ช.ในกลุ่มแรก จะออกมาสื่อสารต่อสาธารณะว่า ‘รู้ตัว เวลาที่เหลืออยู่มีอีกไม่มากแล้ว’
เช่นเดียวกับสองอดีตสส.พรรคก้าวไกล อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ต่างออกมาสื่อสารผ่านพื้นที่เฟสบุ๊คส่วนตัว และโพสต์ข้อความใน X แสดงความเห็นและตั้งคำถามกับการทำงานของ ป.ป.ช.ไว้ยืดยาวเช่นกัน
แต่ดูจากรายละเอียดเบื้องต้น ที่ ป.ป.ช.ส่งหนังสือให้มาชี้แจงข้อกล่าวหา มี 7 ราย โดย 5 ราย เป็นสส.พรรคประชาชน ประกอบด้วย 1.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ 2.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ 3.นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม.4.นายมานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ 5.นายคำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนอีก 2 รายเป็นอดีตสส.พรรคก้าวไกล คือ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล และนายปดิพัทธ์ สันติภาดา
ส่วนที่เหลือคาดว่า น่าจะอยู่ในระหว่างกระบวนการนำส่งหนังสือ หรืออาจจะมีบางรายที่ ป.ป.ช.เชิญมาให้ถ้อยคำด้วยวาจาต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนไปก่อนแล้ว และบางรายถูกกันไว้เป็นพยาน จึงทำให้ไม่ต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา
สำหรับกระบวนการพิจารณาต่อจากนี้ ป.ป.ช.จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ โดยสามารถเลือกให้ถ้อยคำด้วยวาจาหรือส่งเป็นเอกสารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรได้
ทั้งยังเปิดให้ยื่นเรื่องขอขยายเวลาได้อีก 15 วัน รวมเป็น 30 วัน แต่หากเพิกเฉยและไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ป.ป.ช. จะจัดส่งหนังสือไปตามภูมิลำเนาของผู้ถูกกล่าวหา และถือว่าได้รับทราบข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแล้ว และหลังครบกำหนดเวลา คณะทำงานไต่สวนของ ป.ป.ช.จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม สรุปสำนวนส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป
ดูจากกระบวนการตามนี้แล้ว 44 สส.พรรคส้ม ที่ปัจจุบันมีสถานะเป็นสส.พรรคประชาชน จำนวน 25 คน แยกเป็น สส.เขต 8 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี 2.นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. 3.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. 4.นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา 5.นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี 6.นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.ตราด 7.นายวุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ 8.นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.กทม.
ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17 คน ได้แก่ 1.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล 2.นายนิติพล ผิวเหมาะ 3.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 4.นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ 5.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม 6.นายวรภพ วิริยะโรจน์ 7.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (ซึ่งในขณะนั้นเป็น ส.ส.กทม.) 8.นายคำพอง เทพาคำ 9.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 10.นายองค์การ ชัยบุตร 11.นายมานพ คีรีภูวดล 12.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 13.น.ส.วรรณวิภา ไม้สน 14.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 15.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 16.นายรังสิมันต์ โรม 17.นายสุรวาท ทองบุ
ส่วน 11 คน ไม่ได้เป็น ส.ส.ในสมัยนี้ ได้แก่ 1.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 2.นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 3.น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา 4.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 5.นายทองแดง เบ็ญจะปัก 6.พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ 7.นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ 8.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ 9.นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 10.นายทวีศักดิ์ ทักษิณ และ 11.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล
ที่เหลืออีก 8 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี จากคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล สืบเนื่องจากการใช้นโยบายแก้ ม.112 หาเสียง ได้แก่ 1.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ 3.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 4.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 5.นายสุเทพ อู่อ้น 6.นายอภิชาติ ศิริสุนทร 7.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา 8.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร
เอาเป็นว่า หากจะมีอะไรเกิดขึ้นกับกลุ่ม 44 สส.สีส้ม จากคดีที่อยู่ในมือ ป.ป.ช.จะกระทบเฉพาะ 25 คนที่เป็น สส.อยู่ปัจจุบัน กล่าวคือ หากเป็นสส.เขต ต้องมีการเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่าง แต่หากเป็นสส.บัญชีรายชื่อ ก็ต้องปล่อยให้ว่างลง เพราะพรรคประชาชน ไม่มีบัญชีรายชื่อให้เลื่อนลำดับถัดไปขึ้นมาแทน เนื่องจากบัญชีรายชื่อเดิมในขณะที่เป็นพรรคก้าวไกล ได้สิ้นสุดลงพร้อมกับพรรคที่ถูกยุบ
ทันทีที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและส่งเรื่องให้ศาลฎีการับไปพิจารณา ผู้ที่เป็นสส.อยู่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำตัดสิน ซึ่งหากผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดไป
รวมทั้ง ผู้ที่ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปีก่อนหน้านี้ ก็จะเพิ่มโทษเป็นตัดสิทธิการเมืองตลอดไปด้วย
แต่ทั้งหมดที่ว่ามา จะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ อย่างน้อยสส.พรรคส้ม ระดับตัวตึงทั้งหลายที่อยู่ใน 25 รายชื่อ ยังมีโอกาสได้ทำหน้าที่สำคัญของฝ่ายค้าน อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ ส่งท้ายการทำหน้าที่สส.ได้แน่ ๆ
เพราะลัดนิ้วไล่เรียงเวลาดูแล้ว ชะตากรรม 25 สส.พรรคส้ม ยังไม่ถึงฆาตในทันที แต่ยังมีโอกาสได้ทำศึกครั้งสุดท้าย ที่จะยื่นอภิปรายไม่ไวางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคลในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายถึงชะตากรรม 25 สส.พรรคส้ม จะต้องสิ้นสุดลงเลยก็หาไม่
เพราะในท้ายที่สุดยังต้องรอคำตัดสินศาลฎีกาเป็นด่านสุดท้ายก่อน ซึ่งจากเนื้อหาการกระทำที่นำไปสู่การร้องเอาผิดนั้น หลายคนเชื่อว่าเมื่อเทียบกับแนวการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญ กับศาลยุติธรรม จะมีความแตกต่างกัน โดยศาลฎีกาที่เป็นศาลสูง การพิจารณาลงโทษเอาผิดบุคคลใดจะพิจารณาจาก "เจตนา" เป็นสำคัญ
งานนี้ชะตากรรม 25 สส.พรรคส้มจึงยังไม่ถึงฆาต เพียงแต่อาจจะถูกพันธนาการทางการเมืองจองจำไว้ ไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ในสภาได้ และอาจยาวนานพอ ๆ กับอายุสภาที่เหลืออยู่นั่นแหล่ะ