โอกาสใหม่ ในสถานการณ์แตกทัพ

25 พ.ย. 2567 - 03:01

  • พรรคโอกาสใหม่ ถูกตั้งขึ้นมาอย่างเร่งด่วน

  • หวังเป็นรัฐบาลผสมที่ครั้งหน้า

  • สภาชุดนี้เหลือเวลาอีกไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน

Deep Space โอกาสใหม่ในสถานการณ์แตกทัพ-SPACEBAR-Hero.jpg

การปรากฎตัวขึ้นของ พรรคโอกาสใหม่ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน ในท่ามกลางความไม่แน่นอนของชะตากรรม ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่ถูกร้องเอาผิดคดีล้มล้างการปกครองฯ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ณ เวลานั้น ยังไม่รู้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร

ขณะที่ทักษิณ ผู้ผ่านทั้งนรกและสวรรค์มาแล้ว ยังเดินหน้าประกาศคำโตผ่านเวทีปราศรัยหาเสียงที่จ.อุดรฯ จะกวาด สส.เข้าสภาสมัยหน้าให้ได้ไม่ต่ำกว่า 200 เสียง แม้ยังกระมิดกระเมี้ยนไม่กล้าใช้คำว่าแลนด์สไลด์

แต่ก็เป็นเป็นการตัดไม้ข่มนาม จองเป็นหัวขบวนปีกอนุรักษ์ไว้ก่อน

ประมาณว่า พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่เป็นตัวจริงเสียงจริงในการสัปยุทธ์กับพรรคสีส้ม ส่วนพรรคอื่น ๆ ที่ประกาศตัวเองเป็น อนุรักษ์ทันสมัย หรือแม้แต่พรรคสีน้ำเงินอย่าง ‘ภูมิใจไทย’ ก็ยังติดอยู่บนเขากระโดง หาทางลงไม่เจอ 

เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนั้น การเกิดขึ้นของ ‘พรรคโอกาสใหม่’ ที่มาพร้อมกับม๊อตโต ‘โอกาสสำหรับคนไทยทุกคน’ จึงเป็นตัวละครใหม่บนเวทีการเมืองที่ได้รับความสนใจไม่น้อย แถมมียี่ห้อสองปลัด ฉัตรชัย พรหมเลิศ จตุพร บุรุษพัฒน์ พ่วงท้ายมาด้วย

คนแรกเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ส่วนคนหลังเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งคู่เคยถูกโยงเป็นมือทำงานตั้งพรรคอะไหล่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี และมีปัญหากับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่อยู่พรรคพลังประชารัฐด้วยกัน  

แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ หันไปใช้บริการพรรครวมไทยสร้างชาติแทน พรรคสองปลัดจึงถูกพับเก็บไว้และกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งในสถานการณ์นี้ ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ไม่ได้มาเป็นตัวแข่งชิงหัวขบวนปีกอนุรักษ์แต่อย่างใด

หากมาเพื่อเป็นแนวร่วมเพื่อไทยในสถานการณ์แตกทัพมากกว่า?!

โดยมองเผิน ๆ การก่อกำเนิดขึ้นอย่างเร่งรีบของพรรคโอกาสใหม่ เหมือนต้องการขึ้นโครงให้ปรากฎชื่อบนถนนการเมืองไว้ก่อน ด้วยเหตุผลบางประการ เนื่องจากดูรายชื่อกรรมการบริหารพรรคแต่ละคน น่าจะเรียกพรรคอดีตผู้ว่าฯ ด้วยซ้ำ

เพราะมี สุปกิต โพธิ์ปภาพันธ์ อดีตผู้ว่าฯ ลพบุรี เป็นหัวหน้าพรรค วีระชัย นาคมาศ อดีตผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เป็นรองหัวหน้าพรรค ธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าฯ นครราชสีมา และอดีตผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เป็นเลขาธิการพรรค เฉลิมพล มั่งคั่ง อดีตผู้ว่าฯ มุกดาหาร เป็นนายทะเบียนพรรค 

โดยมี โสภณ ทองดี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และอดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเหรัญญิกพรรค 

ส่วนกรรมการบริหารพรรคอีก 8 คน มีชื่อที่ต้องขีดเส้นใต้หนา ๆ คือ ภัทรานันท์ ทองประพาฬ เป็นน้องสาวของ พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่น่าจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญต่อให้เห็นภาพใหญ่ได้

เอาเป็นว่า มองจากความเป็นไปในพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีปัญหาแตกเป็นสามก๊กยามนี้ ถึงเวลาก็คงต่างคนต่างไป เหลือก๊ก พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ปักหลักเฝ้าพรรค แต่ก็คงไปต่อลำบาก เพราะเป็นตะเกียงที่ไม่มีใส้ 

ส่วนก๊กที่สอง กลุ่มของ ชุมพล จุลไสย หรือ ‘ลูกหมี’ ชุมพร คงวาดหัวเรือไปอยู่กับพรรคสีน้ำเงินภูมิใจไทย ที่ตอนหลังคนประชาธิปัตย์เก่า ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ไปถึง จ.ตรัง สลัดทิ้ง ‘นายหัวชวน’ผันตัวเองไปเป็นมือซ้าย-มือขวาให้กับ อนุทิน ชาญวีระกูล อยู่หลายคน 

ยิ่งได้ชัยชนะหมาด ๆ ยึดเก้าอี้้นายกอบจ.นครศรีธรรมราช มาเป็นของพรรคสีน้ำเงินได้ เท่ากับเป็นการเปิดประตู 14 จังหวัดภาคใต้ให้กับภูมิใจไทยได้แบบสวยสดงดงาม 

สุดท้ายก๊กที่สาม คงพากันมาปักหลักที่พรรคโอกาสใหม่นี่แหล่ะ

พรรคโอกาสใหม่ ที่ถูกตั้งขึ้นมาอย่างเร่งด่วน จึงเป็นทั้งบ้านหลังใหม่ของกลุ่มที่รอแตกทัพมาจากรวมไทยสร้างชาติ และอีกด้านเป็นแนวร่วมของพรรคเพื่อไทย อยู่ในสถานะเดียวกับพรรคกล้าธรรมในเวลานี้

โดยมีเป้าหมายร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทยหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นรัฐบาลผสมที่มีทั้งดอกไม้ ใบเฟิร์น และหินเขียวรองก้นแจกัน รวมอยู่ในแจกันใบเดียวกัน

สภาชุดนี้เหลือเวลาอีกไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน จึงไม่เร็วเกินไปสำหรับพรรคโอกาสใหม่ ที่จะใช้เวลาต่อจากนี้ตระเตรียมเป็นบ้านหลังใหม่ไว้รองรับนักการเมืองที่แตกทัพ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์