เก็บตกเรื่องร้อนก่อนเดือนเมษาฯ ส่องแววตาทักษิณผ่านกระจก สะท้อนแววกังวล สะท้อนความไม่มั่นใจ เมื่อจันทร์อาจไม่ส่องหล้าเหมือนวันก่อน
ในที่สุดฝันร่วมกันของครอบครัวชินวัตรก็เป็นจริง ฝันที่รอคอยมานาน 17 ปี ที่หัวหน้าครอบครัวจะได้กลับบ้าน
17 ปีที่บ้านจันทร์ส่องหล้าไร้ร่องรอยของคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร คนที่เป็นเจ้าของบ้านตัวจริง
17 ปีที่แสงจันทร์ที่ส่องลงมาที่บ้านหลังนี้ เป็นแสงที่สะท้อนถึงความเงียบเหงา ไม่ส่องสว่างเหมือนเมื่อครั้งเจ้าของบ้านยังเรืองอำนาจ ทั้งในช่วงที่เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จ และในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี
การกลับมาของทักษิณวันนี้ คืนแรกของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พระจันทร์อยู่ในช่วงข้างขึ้น เป็นคืนขึ้น 9 ค่ำ เดือน 3 แม้แสงจันทร์จะสว่างในยามข้างขึ้น แม้ท้องฟ้าจะโปร่งใส หลังฝนตกหนักไปแล้วในช่วงเช้ามืด
แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องเหนือบ้านจันทร์ส่องหล้า ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้บ้านจันทร์ส่องหล้าเปล่งรัศมีเรืองรอง เหมือนดั่งเมื่อ 17 ปีก่อน
ภาพของเจ้าของบ้านที่ออกมานั่งรับแสงแดดริมสระว่ายน้ำ ภาพเจ้าของบ้านที่ห่างหายจากบ้านหลังนี้ไป 17 ปี ไม่ได้สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่เฉกเช่นที่เคยเป็น

ภาพทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมา ทั้งภาพช่วงที่นั่งรถออกมาจากโรงพยาบาลตำรวจ ทั้งภาพที่นั่งอยู่ในบ้าน
แววตาที่เห็น อากัปกริยาที่แสดงออก ต่างกันลิบลับราวฟ้ากับเหว เมื่อเทียบกับวันที่ 22 สิงหาคม 2566 วันที่ทักษิณกลับมาเหยียบประเทศอีกครั้ง
วันนั้นแววตาทักษิณเต็มไปด้วยความมั่นใจ เต็มไปด้วยพลัง มั่นใจในพลังอำนาจของพรรคเพื่อไทย มั่นใจในข้อตกลงของการกลับประเทศ มั่นใจในเส้นทางระเบียบที่ถูกปูด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กมาแล้ว

แต่ที่มั่นใจที่สุด คือมั่นใจว่าจะไม่ถูกต่อต้าน มั่นใจว่าเครือข่ายต่อต้านทักษิณได้ถูกพูดคุยไว้หมดแล้ว มั่นใจว่าศึกระหว่างขั้วจะไม่เกิดขึ้นอีก
แต่ทันทีที่ทักษิณก้าวออกจากคุกเพียงยังไม่ทันข้ามคืน และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ กระแสต่อต้านจากหลายฝ่ายก็ออกมาโหมกระหน่ำเข้าใส่ตัวทักษิณทันที
ยิ่งอยู่โรงพยาบาลนานมากขึ้นแค่ไหน กระแสการโจมตี และกระแสต่อต้านก็ยิ่งก่อตัวมากขึ้น มวลชนหลากกลุ่มทยอยดาหน้าออกมาเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาล กดดันกรมราชทัณฑ์ กดดันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กระแสความไม่พอใจที่เพาะบ่มตลอดช่วงเวลาที่ทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจ จนถึงวันที่ได้รับการพักโทษกลับมายังบ้านจันทร์ส่องหล้า ยังรุนแรงและพร้อมจะระเบิดออกมาได้ตลอด ทันทีที่ชนวนจุดติด
แววตาของทักษิณ วันออกจากโรงพยาบาลสะท้อนว่าทักษิณเองก็กังวลเช่นนั้น


เพราะช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา หลายเดือนของการบริหารประเทศ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีผลงานใดที่สามารถยึดเหนี่ยวและกุมจิตใจมวลชนได้อย่างชัดเจนแม้แต่โครงการเดียว
เงินดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายแห่งความหวังก็ยังเลื่อนลอย ขณะที่ปัญหาหลายอย่างก็รุมเร้ามากขึ้น รัฐมนตรีฝึกงานหลายกระทรวงก็ยังไม่มีผลงานเป็นที่ปรากฏ
กลไกอำนาจของพรรคเพื่อไทย ไม่แข็งแกร่งเหมือนครั้งก่อน ย่างก้าวของ เศรษฐา ทวีสิน บนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังหนักแน่นและมั่นคงไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับย่างก้าวของ สมัคร สุนทรเวช และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในก้าวแรกของการเริ่มต้นในตำแหน่งประมุขของฝ่ายบริหาร
ยิ่งใกล้เดือนเมษายน เดือนของการแต่งตั้งโยกย้ายทหาร-ตำรวจ
ยิ่งใกล้เดือนพฤษภาคม เดือนที่สมาชิกวุฒิสภาชุดนี้จะหมดวาระ พรรคเพื่อไทยก็จะถูกท้าทายจากเกมชิงอำนาจมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ทักษิณกำลังกังวล
ทั้งหมดยังไม่รวมปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ปัจจัยที่รุมล้อมมาจากนอกประเทศ และปัจจัยพิเศษ
จันทร์ส่องหล้าจะกลับมาเจิดจ้าแค่ไหน หรือจันทร์จะยังคงส่องหล้าต่อไปหรือไม่
ทักษิณจะสกัดความกังวลจากปัจจัยรอบด้านที่รุมเร้าเข้ามาได้หรือไม่
เมื่อพลังของทักษิณวันนี้ไม่ได้เป็น Super Power Full เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว
