ใครโกหกโฆษกฯหรือรมช.คลัง เรื่องแจกเงินดิจิทัล 14.98 ล้านคน

5 มิ.ย. 2567 - 10:02

  • รักษาการเป็นนโยบายที่สับสนได้มากที่สุดตั้งแต่เปิดตัว

  • โฆษกรัฐบาลกับกระทรวงการคลัง พูดไม่ตรงกัน

  • แค่แถลงข่าวข้อเท็จจริงยังผิด แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร

thailand-economy-digitalwallet-SPACEBAR-Hero.jpg

โครงการเงินหมื่นดิจิทัล ซึ่งเป็นโครงการเรือธงของพรรคเพื่อไทย ยิ่งนานวัน ก็ยิ่งออกทะเล หาฝั่งไม่เจอ จะกลับเข้าท่าก็ไม่ได้ กัปตันไม่สั่งการ ปล่อยให้ลูกเรือผลัดกันชี้มือชี้ไม้ ให้ไปทางโน้นบ้าง ทางนี้บ้าง

เมื่อวานโฆษกรัฐบาล  ‘ชัย วัชรงค์’ เพิ่งจะประกาศว่าจะแจกเงิน 10,000 บาทให้ ประชาชนผู้ถือ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ 14.98  ล้านคน ก่อนเป็นกลุ่มแรกเพื่อให้เบิกจ่ายงบฯเพิ่มเติม หรืองบฯกลางปี 2567  จำนวน 122,000 ล้านบาท ให้ทันภายในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ 2567   

ที่มาของเงิน 5 แสนล้านบาทที่จะแจกให้ประชาชน  50  ล้านคน ๆ ละ 10,000บาท มาจาก 3  แหล่ง

  1. งบประมาณ ปี 2568  จำนวน 152,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้
  2. เงินกู้ของธนาคาร เกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 172,300 ล้านบาท
  3. งบฯเพิ่มเติม หรือ งบกลางปี ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 122,500 ล้านบาท

เดิมไม่มีงบกลางปีรัฐบาลตั้งใจจะ ‘เจียด’ หรือกันงบประมาณ ปี 2567 ของหน่วยงานต่าง ๆ มารวมไว้สำหรับแจกเงินดิจิทัล แต่ถ้าไปทำแบบนั้น พรรคร่วมรัฐบาลที่คุมกระทรวงต่าง ๆ คงไม่ยอม และยิ่งจะ ‘ซ้ำเติม’ ให้การลงทุน การบริโภคจากภาครัฐ ซึ่งแทบไม่มีเลย เพราะงบฯปี 67   ล่าช้าไปเกือบ 10 เดือน  ต้องหายไปอีก เพราะถูกนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต  

พรรคเพื่อไทยจึงต้องตาลีลาเหลือก ออกร่าง พ.ร.บ. งบกลางปี 2567 เข้า ครม. เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมนี้เอง เพื่อกู้เงิน 122,000 ล้านบาท มาใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล

ตามไทม์ไลน์สภาผู้แทนราษฎรจะเปิดประชุมวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯกลางปี 2567 และงบประมาณ 2568  วันที่ 18-21 มิถุนายน  ต่อด้วยวุฒิสภากว่าจะลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าฯ มีผลบังคับใช้ ไม่เร็วไปกว่ากลางเดือนสิงหาคม  

เท่ากับว่ามีเวลาแค่เดือนเดียว ที่รัฐบาลจะต้องใช้เงิน 122,000 ล้านบาท ให้หมดไปกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ภายในวันที่ 30 กันยายน ถ้าไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่หมดต้องคืน และอาจผิด พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง

พรรคเพื่อไทยรับปากกับประชาชนว่า จะแจกเงินดิจิทัล ภายในไตรมาส 4 ปีนี้  โดยจะพัฒนา ‘ซูเปอร์แอป’ เป็นช่องทางให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ ลงทะเบียนรับเงิน และร้านค้าลงทะเบียนร่วมโครงการ ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะพอใช้งานได้

เงิน 122,000 ล้านบาทจะมาแล้ว แต่เรือธงดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่เข้าท่ายังไม่มีแอปฯเลย สิ่งที่โฆษก ชัยพูดว่า 

‘จะแจกให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.98  ล้านคนไปก่อน เพราะไม่เช่นนั้น จะใช้เงินไม่ทันสิ้นเดือนกันยายน  เป็นการแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน เป็นสิ่งที่ทำได้ทันที เพราะผู้ถือบัตร ฯ 14.98 ล้านคน ลงทะเบียนไว้แล้ว แจกเงินสด ผ่านแอปเป๋าตังค์ได้เลย’

ชั่วข้ามคืนรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง  ‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’  และ ‘เผ่าภูมิ โรจนสกุล’ ต่างออกมาปฏิเสธคำพูดของโฆษกรัฐบาลว่า 

‘ไม่จริง เข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่มีการแจกเงินให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน จะแจกพร้อมกันที่เดียว 50 ล้านคน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่’

จะเชื่อใครดี  จะเชื่อ ชัย วัชรงค์ ที่แถลงในฐานะโฆษกรัฐบาลว่า ครม. คุยกันอย่างไรมีเหตุผลรองรับว่า ‘ทำไมต้องแจก’ ผูถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน

หรือจะเชื่อ จุลพันธ์กับเผ่าภูมิ ที่เป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้มาตั้งแต่แรก ที่ออกมาแก้ข่าว แม้จะไม่พูดตรง ๆ  แต่มีนัยว่า ‘ที่โฆษกรัฐบาลแถลงเมื่อวานนั้น ไม่จริง’

แต่ทั้งจุลพันธ์และเผ่าภูมิก็ไม่ได้ให้คำตอบว่า แล้วจะทำอย่างไรกับ งบกลางปี 122,000 ล้านบาท ที่จะต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ เพราะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทั้ง  2  คนรับผิดชอบอยู่ 10  เดือนแล้ว ยังเป็น ‘วุ้น’ อยู่เลย 

การสื่อสารที่ขัดแย้งกันของโฆษกรัฐบาล กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นภาพสะท้อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่า  เป็นแค่ ‘การหาเสียง’ ที่พูดแล้วทำไม่ได้  ‘คิดใหญ่แต่ทำไม่เป็น’ คิดไป ทำไป แก้ตัวไป เพราะเป็นโครงการที่ไม่มีความเป็นไปได้เลยตั้งแต่คิดแล้ว ทั้งในเรื่องเป้าหมาย  เม็ดเงิน และกระบวนการจัดการ  จึงทำให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง พูดกันไปคนละทิศคนละทาง ตั้งแต่วันแรก ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จนถึงโฆษกรัฐบาล

เพราะเป็นโครงการที่ไม่มีความเป็นไปได้เลย ต่างคนจึงต่างพูด เหมือนตาบอดคลำช้าง  แต่พอเอาสิ่งที่ทุกคนคิดว่าเป็นช้างมารวมกัน สิ่งที่ได้ ไม่ใช้ช้าง เป็นตัวอะไรก็ไม่รู้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์