อิทธิฤทธิ์ “เรือล่องหน-โจ้ ปัตตานี” ส่งคำเตือน-สั่งสอน “ใคร”

17 มิ.ย. 2567 - 09:17

  • เจาะปูมหลังคดี “โจ้ ปัตตานี” ถูกจับ ถูกปล่อย แต่ยังมี Power ทำเรือน้ำมันล่องหน

  • ตามเรือคืนได้แล้ว แต่ตำรวจภายใต้การบัญชาของ “บิ๊กก้อง” จะจับตัวการใหญ่ได้หรือไม่

  • ถอดรหัสคำเตือน “ถ้าอยากจะจับก็จับไป แต่ถ้าอยากจะเอากลับก็จะเอา และถ้าอยากจะให้คืน ก็พร้อมคืน”

spacebar สเปซบาร์, บิ๊กก้อง, จิรภพ ภูริเดช, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง, CIB, น้ำมันเถื่อน, เรือขนน้ำมันเถื่อน, โจ้ น้ำมันเถื่อน, สหชัย เจียรเสริมสิน

หลังจากล่องหนไปเกือบจะ 5 วันเต็มๆ ในที่สุดเรือบรรทุกน้ำมัน 3 ลำที่หายไปจากสัตหีบ ก็ถูกจับได้ขณะกำลังล่องเรือลงไปทางภาคใต้

หายก็ง่าย จับก็ง่าย กำลังเป็นปริศนาสำคัญในแวดวงยุทธจักรสีเทาว่า เกิดอะไรขึ้น?

ใครเป็นผู้เขียนบทนิยายเรื่องนี้

ใครเป็นผู้กำกับ…

ใครเป็นนักแสดงหลัก…

แทบทุกนิ้วชี้ตรงกันไปที่ สหชัย เจียรเสริมสิน หรือ “โจ้ ปัตตานี” หรือ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” ว่าเป็นตัวละครสำคัญคนหนึ่งของเรื่อง โดยเล่นบทเป็นเจ้าของตัวจริงของเรือทั้ง 3 ลำ

spacebar สเปซบาร์, บิ๊กก้อง, จิรภพ ภูริเดช, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง, CIB, น้ำมันเถื่อน, เรือขนน้ำมันเถื่อน, โจ้ น้ำมันเถื่อน, สหชัย เจียรเสริมสิน
Photo: สหชัย เจียรเสริมสิน หรือ “โจ้ ปัตตานี” หรือ “โจ้ น้ำมันเถื่อน”

เล่นบทเป็นผู้บงการ

เล่นบทสั่งการให้มีการขโมยเรือของกลางทั้ง 3 ลำ

รวมทั้งสุดท้ายเล่นบทสั่งให้เรือทั้ง 3 ลำล่องลงใต้มาให้ถูกจับ เพื่อจบภาคแรกของละครเรื่อง “อิทธิฤทธิ์เรือล่องหน”

ประวัติของตัวละครสำคัญตัวนี้ถูกนำเสนอไปทุกสื่อ เจาะลึกแทบทุกอณูว่า “สหชัย” หรือ “โจ้” คือใคร มีประวัติเคยก่อคดีอะไรมาบ้าง เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับธุรกิจทั้งหน้าฉาก และหลังฉากอย่างไร

“โจ้” ถูกเปลือยในแทบทุกแง่มุม ถ้าจะให้เขียนว่า โจ้เป็นใคร มาจากไหนก็ดูจะเชย ไม่ทันการณ์

แต่ทันทีที่เรือทั้ง 3 ลำที่หายไปถูกจับ และจับโดยตำรวจสอบสวนกลาง ต้นสังกัดของกองบังคับการตำรวจน้ำ หน่วยงานที่ทำเรือหาย คำถามคือ แล้วตัวละครสำคัญของเรื่องนี้อีกด้านที่ตรงกันข้ามกับ “โจ้ ปัตตานี” คือใคร?

spacebar สเปซบาร์, บิ๊กก้อง, จิรภพ ภูริเดช, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง, CIB, น้ำมันเถื่อน, เรือขนน้ำมันเถื่อน, โจ้ น้ำมันเถื่อน, สหชัย เจียรเสริมสิน
Photo: เรือตำรวจน้ำลากเรือบรรทุกน้ำมันล่องหนที่คาดว่าเป็นของ “โจ้ ปัตตานี” เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567
spacebar สเปซบาร์, บิ๊กก้อง, จิรภพ ภูริเดช, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง, CIB, น้ำมันเถื่อน, เรือขนน้ำมันเถื่อน, โจ้ น้ำมันเถื่อน, สหชัย เจียรเสริมสิน
Photo: ตำรวจน้ำมองไปที่เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่เคยหายไปก่อนเข้าจับกุม เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567

ถ้าไล่ลำดับเหตุการณ์ จับกุมเรือน้ำมัน 3 ลำก่อนจะหาย และก่อนจะถูกจับได้อีกครั้ง

เรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ ถูกจับพร้อมเรือเล็กอีก 2 ลำ ขณะรอถ่ายน้ำมันจากเรือใหญ่ลงเรือเล็ก เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567

คนจับ คือ ตำรวจกองปราบ และตำรวจน้ำ ทั้ง 2 หน่วยงาน อยู่ภายใต้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามคนปัจจุบัน คือ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ตท.30 นรต.46 เป็นหนึ่งในผู้บังคับการ กองบังคับการหลักใน บช.ก.เพียงไม่กี่ราย ซึ่งไม่ใช่ ตท.34 หรือ นรต.50

ส่วนผู้บังคับการตำรวจน้ำ คือ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ตท.34 นรต.50

หลังการจับกุมรายละเอียดในคดีทั้งหมด ถูกส่งให้กับพนักสอบสวน คือ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ผู้บังคับการ คือ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ตท.33 นรต.49

ระหว่างการจับจนกระทั่งก่อนถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่เรือหาย มีความพยายามจากเจ้าของเรือในการประสานหาช่องทาง หาเส้นทาง หาผู้ใหญ่ทุกวงการ ทั้งแวดวงการเมือง และแวดวงข้าราชการระดับสูง ที่จะขอให้ช่วยเจรจากับทีมจับกุม เพื่อขอเคลียร์คดี และหาทางขอคืนเรือ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลออกมาว่า การจับครั้งนี้มีเงื่อนงำและมีเบื้องหลัง เพราะขณะถูกจับ เรือทั้ง 5 ลำ ไม่ได้ลอยลำอยู่ในน่านน้ำไทย แต่ลอยลำอยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ซึ่งเป็นน่านน้ำสากล

ระหว่างนั้นกองบังคับการตำรวจ ปอศ.ในฐานะพนักงานสอบสวนจึงส่งเรื่องไปหารือกับสำนักงานอัยการสูงสุดว่า เป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ เพราะรูปการณ์ทางคดีก้ำกึ่งที่จะเป็นคดีนอกราชอาณาจักร หากส่งฟ้องโดยไม่ชัดเจน อาจถูกศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะไม่อยู่ในขอบเขตอำนาจของพนักงานสอบสวน

หลังสำนักงานอัยการสูงสุดตอบกลับมาว่า คดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรที่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของพนักงานอัยการ ตัวละครจึงเพิ่มขึ้น

จาก เจ้าของเรือ - กองปราบ - ตำรวจน้ำ - ตำรวจ ปอศ.

มาเป็น เจ้าของเรือ - กองปราบ - ตำรวจน้ำ - ตำรวจปอศ. - พนักงานอัยการ

เจ้าของเรือ ถูกระบุว่า คือ “โจ้ ปัตตานี”

ต้นสังกัดของ 3 หน่วยงาน กองปราบ – ตำรวจน้ำ - ตำรวจ ปอศ. คือ “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

spacebar สเปซบาร์, บิ๊กก้อง, จิรภพ ภูริเดช, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง, CIB, น้ำมันเถื่อน, เรือขนน้ำมันเถื่อน, โจ้ น้ำมันเถื่อน, สหชัย เจียรเสริมสิน
Photo: “บิ๊กก้อง” พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ต้นสังกัดของสำนักงานอัยการสูงสุด คือ ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุดคนปัจจุบัน

ความเกี่ยวพันระหว่าง “โจ้” กับ “สำนักงานอัยการสูงสุด” อาจไม่ชัดเจนนัก

แต่ความเกี่ยวพันระหว่าง “โจ้” กับ “บิ๊กก้อง” ค่อนข้างชัดเจน

“โจ้” ถูกจับกลางกรุง ด้วยฝีมือของตำรวจสอบสวนกลางที่นำโดย “บิ๊กก้อง” เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 หลังเข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพียงเดือนเศษ ในข้อหา “ฟอกเงินจากการค้าน้ำมันเถื่อน”

แต่เมื่อนำตัวส่งพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดีฟอกเงิน ปรากฏว่า อัยการแจ้งว่า “สั่งไม่ฟ้องไปแล้ว” ไม่มีอำนาจควบคุมตัว จึงต้องปล่อย “โจ้” เป็นอิสระ และหลังจากนั้น “โจ้” ก็ไม่เคยปรากฏตัวในประเทศไทยอีกเลย

มีเพียงข่าวว่า โจ้ไปปักหลักทำธุรกิจสีเทา รวมทั้งค้าน้ำมันเถื่อนในประเทศเพื่อนบ้าน และเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำที่ถูกจับรอบนี้ ก็เป็น 1 ในเรือหลายลำที่โจ้ลำเลียงไปจำหน่ายในน่านน้ำของประเทศเพื่อนบ้าน

การจับและตรวจยึดเรือน้ำมันทั้ง 3 ลำ ด้วยฝีมือของตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางรอบนี้ ถ้าเรือทั้ง 3 ลำเป็นเรือของ “โจ้ ปัตตานี” จริง นี่จะเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง “โจ้ ปัตตานี” และ “บิ๊กก้อง” อีกครั้ง

spacebar สเปซบาร์, บิ๊กก้อง, จิรภพ ภูริเดช, ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, สำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง, CIB, น้ำมันเถื่อน, เรือขนน้ำมันเถื่อน, โจ้ น้ำมันเถื่อน, สหชัย เจียรเสริมสิน
Photo: เรือตำรวจน้ำเข้าจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันที่คาดว่าเป็นของ “โจ้ ปัตตานี” เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567

ส่วนเรือที่ลอยลำกลับมาให้จับ ทั้งที่พร้อมจะหายลับไปในน่านน้ำสากล หรือน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้าน เป็นความตั้งใจของเจ้าของเรือ หรือความจำใจของเจ้าของเรือ ต้องรอดูภาค 2 ของเรื่อง “อิทธิฤทธิ์เรือล่องหน”

เพราะบทสรุปของเรื่องนี้ คือข้อความที่ส่งข้ามทะเลมาว่า

“ถ้าอยากจะจับก็จับไป แต่ถ้าอยากจะเอากลับก็จะเอา และถ้าอยากจะให้คืนให้ ก็พร้อมคืน”

คำถามคือ เมื่อข้อความถูกส่งมาแบบนี้ “บิ๊กก้อง” จะตอบว่าอย่างไร ท่ามกลางก้าวย่างบนเส้นทางรับราชการ ที่กำลังจะสวยงามและมั่นคง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์