Districts of Bangkok แปลตรงตัวคงจะกลับมาเป็นไทยได้ว่า เขตในกรุงเทพ หลายๆคนคงรู้อยู่แล้วว่ากรุงเทพมีทั้งหมด 50 เขต แต่วันนี้ ABar เลือกที่จะพูดถึงย่านหลักๆ ที่มีเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ชัดเจนมา 8 ย่าน เล่าผ่านคอกเทล 12 แก้ว ที่ทั้งหน้าตาและเรื่องราวที่เราจะได้ฟังตั้งแต่จิบแรกจนถึงก้นแก้วไม่ซ้ำกันเลย
ABar เล่าว่าหลังจากช่วงเวลาเงียบเหงาของยุคโควิดหมดไปที่ร้านก็ยังไม่ได้แกะแงะเมนูดริงก์เก่าออกเพื่อต้อนรับแขกใหม่ๆเลย นี่จึงเป็นเวลาเหมาะเจาะที่จะมาเล่าเรื่องใหม่ให้ลูกค้าหน้าเก่าและหน้าใหม่ได้ฟังกัน

ABar Rooftop (เอบาร์ รูฟท็อป) เป็นบาร์โอเพ่นแอร์กดลิฟท์ขึ้นชั้น 37 แล้วเดินขึ้นอีกหนึ่งชั้น หรือชั้นบนสุดของโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park) เมื่อขึ้นมาด้านบน ให้ความรู้สึกเหมือนได้ปลีกตัวเองออกจากความวุ่นวายของย่านกลางเมืองสุดๆ อย่างสุขุมวิท อันเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้ได้เป็นปลิดทิ้ง อีกทั้งสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพรอบทิศได้ด้วย
สัมพันธ์กับธีมของดริงค์ของเราในคืนนี้ ที่ได้แรงบันดาลใจจากย่านต่างๆ ที่ถ้ายืนมองจากบนนี้แล้ว ก็อาจจะเห็นย่านเหล่านั้นใกล้แค่ปลายนิ้วจิ้ม ถ้าให้เราลองครบทั้ง 12 ดริงก์ ต่อให้บ้านใกล้แค่ไหนสงสัยก็คงจะกลับไม่ถูก เลยขออนุญาตเล่าให้ฟังคร่าวๆ แค่สามสี่แก้วกันก่อน
สัมพันธ์กับธีมของดริงค์ของเราในคืนนี้ ที่ได้แรงบันดาลใจจากย่านต่างๆ ที่ถ้ายืนมองจากบนนี้แล้ว ก็อาจจะเห็นย่านเหล่านั้นใกล้แค่ปลายนิ้วจิ้ม ถ้าให้เราลองครบทั้ง 12 ดริงก์ ต่อให้บ้านใกล้แค่ไหนสงสัยก็คงจะกลับไม่ถูก เลยขออนุญาตเล่าให้ฟังคร่าวๆ แค่สามสี่แก้วกันก่อน

แก้วแรกขอเริ่มด้วยเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายๆ เปิดวันแบบซอฟต์ๆ กันก่อน “NEW WORLD MALL” (420บาท) จากย่านบางลำพู เครื่องดื่มสีฟ้าน้ำทะเลที่สื่อถึงที่อยู่ของปลาคาร์ปที่อาศัยอยู่ในศูนย์การค้านิวเวิลด์ที่เก่าถูกทิ้งทรุดโทรมตามกาลเวลา เป็นดริงก์ที่เบส (base) ด้วยบีฟีเตอร์จินและบลู คูราโซ่ ท็อปด้วยยูสุโฟมและปลาโอแห้งที่ดูๆ แล้วก็เหมือนคลีปปลาคารป์ที่สะบัดว่ายอยู่บนผิวน้ำในห้างร้างแห่งนี้้

แก้วที่สองขอกระเถิบไปแถวย่านพระโขนง “PHRA KHANONG” (420บาท) ย่านที่พอพูดชื่อขึ้นมา คำติดปากคำแรกๆ ที่จะขึ้นมาในหัวของคนร้อยทั้งร้อยก็จะเป็น “แม่นาคพระโขนง” และดริงก์นี้ก็ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องนี้เช่นกัน นำเสนอในค็อกเทลแก้วใสทรงแชรี่ แกลส เบสด้วยเฮนดริกส์ ยิน ผสมกับมะนาวกับสาหร่ายที่ให้ความรู้สึกเหมือนแม่นาคที่ยืนรอพี่มากอยู่ริมน้ำ ใจกลางของแก้วบรรจุด้วยไวน์เจลลี่ สื่อถึงหัวใจและพลังรักอันเป็นนิรันดร์ ไฮไลต์ของแก้วนี้อยู่ที่ก้านของแก้วตกแต่งด้วยกระดาษเขียนคำวว่า “มนตร์สะกด” ที่เมื่อสัมผัสกับเปลวไฟเพียงนิดเดียวก็หายไปในเสี่ยววินาที เหมือนไม่เคยมีอยู่ตรงนั้น

แก้วที่สามถ้าพูดถึงแลนด์มาร์คสำคัญๆของกรุงเทพ จะไม่พูดถึงเสาชิงช้า ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านพระนครก็คงถือว่าผิดมหันต์ ดริง์ก์นี้มีชื่อว่า “BIG SWING” (400บาท) กับพิธีกรรมสำคัญของประวัติศาสตร์ไทยคือพิธีโล้ชิงช้า พิธีที่แกว่งโยกย้ายไปมาระหว่างความเจริญและความชั่วร้าย ความเจริญเปรียบดั่งทองคำ ความดำมัวคือความชั่วร้าย เครื่องดื่มแก้วนี้ก็เช่นกัน นำเสนอผ่านสีทองและสีดำ มังกี้ โชลเดอร์ วิสกี้ สัปปะรด เครื่องดื่มกระทิงแดง รวมกันออกมาเป็นสีทองอร่าม เหนือขึ้นมาหน่อยถูกคลุมด้วยโฟมเบียร์ดำและชาโคลสื่อถึงความชั่วร้าย แต่บนความชั่วร้ายก็ยังถูกสยบด้วยเกล็ดทองปกคลุมอยู่ชั้นบนสุด ซึ้งเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรื่อง หน้าตาของแก้วนี้ออกมาเท่ไม่เบา

มาถึงจุดนี้ยอมรับว่าเริ่มเคลิ้มตึงอยู่พอสมควร แต่มาแล้วก็ต้องไปให้สุดเลยขออนุญาตจบด้วยหมัดหนักๆอย่าง “MUAY THAI SMASH” (420บาท) ที่มีเค้าโครงหลักจากสนามหมวยที่แรกของประเทศไทยอย่างเวทีมวยราชดำเนิน รสชาติของแก้วนี้มีความซับซ้อนถ้าคนต่างชาติได้ลองชิม แต่คนไทยอย่างเราคงจะคุ้นเคยกับใบโหระพา ผลไม้ตระกูลส้ม เครื่องเทศ และพริกเป็นอย่างดี ที่มีกลิ่นหอมอโรมาและเผ็ดร้อนอย่างอาหารไทย เบสต์ด้วยฉลองเบย์ รัม รัม ชื่อดังมากจากภูเก็ต ที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายในเวที Spirit โลก ผสมรวมกันเป็นหมัดหนักๆ เหมือนได้ขึ้นชกบนเวทีจริงยังไงอย่างงั้น
ABar Rooftop โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์คให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 – 01.00 น.
ABar Rooftop โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์คให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 17.00 – 01.00 น.
