จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขปี 2565 พบว่า หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของผู้หญิงไทยคือมะเร็ง ซึ่งสำหรับโรคมะเร็งในผู้หญิงนั้น หญิงไทยมีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านมมากที่สุด โดยในปี 2565 มีจำนวน 38,559 ราย
แต่ก็ไม่ใช่ว่ามะเร็งอื่นๆ จะมีจำนวนน้อย เพราะโรคมะเร็งที่มีจำนวนรองลงมาคือ มะเร็งปากมดลูก ซึ่งมีจำนวน 12,956 ราย ในปี 2565
เมื่อตรวจสอบแล้วนั้น เพียงโรคมะเร็งแค่ 2 ชนิด ในปี 2565 ก็คร่าชีวิตสาวไทยไปมากกว่า 51,515 รายเลยทีเดียว และมะเร็งก็นับเป็นภัยเงียบที่ถ้าหากไม่ตรวจตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจจะไม่รู้ตัว เนื่องจากในระยะแรกมักจะไม่แสดงอาการ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และอาจจะเสียชีวิตได้ในที่สุด
การดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้หญิงตั้งแต่วัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ ตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งไม่เพียงช่วยให้มีสุขภาพดีในระยะยาว แต่ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ด้วย โดยวางแผนการดูแลสุขภาพตาม 3 ช่วงวัยหลัก
-
วัยเด็กก่อนมีประจำเดือน แนะนำให้กินอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอเสริมสร้างพัฒนาการให้เหมาะสมแต่ละช่วงวัย นอกจากนี้ยังแนะนำให้รับวัคซีนที่เด็กไทยควรได้รับตามคำแนะนำของแพทย์ โดยเฉพาะวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งที่เกิดจากเชื้อHPV เช่นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งในช่องปากและลำคอ ซึ่งฉีดได้ทั้งเด็กหญิงและชายตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
-
วัยเจริญพันธุ์ หรือวัยที่มีประจำเดือนแล้ว เมื่อถึงวันอันสมควรแนะนำให้ตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรสังเกตความผิดปกติในร่างกาย หากพบความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ทันที
-
วัยหมดประจำเดือน วัยนี้ต้องตรวจสุขภาพทุกปี รวมถึงตรวจภายในอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญควรสังเกตสัญญาณเตือนก่อนวัยทอง อาทิ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หงุดหงิดง่าย ร้อนวูบวาบ หมดอารมณ์ทางเพศ เป็นต้น
จากทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวในบทความนั้น สรุปได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ทั้งชายและหญิง การเลือกฉีด วัคซีน HPV เป็นสิ่งสำคัญ ทั้งป้องกันการรับเชื้อและการนำเชื้อไปสู่ผู้อื่นด้วย โดยเริ่มได้ตั้งแต่วัย 9 ปีเป็นต้นไป
อย่าอายที่จะเข้าพบหมอ เพราะสุดท้าย การตรวจสุขภาพที่เกิดขึ้นนั้น ก็เพื่อให้รู้เท่าทันตนเอง บอกเล่าให้คนใกล้ตัวเข้าใจ และรับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจไปด้วยกัน
หยุดฟังความจากคนอื่นต้องไปลองเอง เตียงขาหยั่ง และคีมปากเป็ด ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว เพราะทีมแพทย์สมัยใหม่ จะมีตัวช่วยให้เราเจ็บน้อยลง สิ่งนั้นมีชื่อเรียกว่า “เจลหล่อลื่น”