กายภาพของไส้ติ่งนั้นถือว่าเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของระบบทางเดินอาหาร มีลักษณะเป็นท่อปลายตัน ต่อออกมาจากลำไส้ใหญ่ส่วนต้น ความยาวประมาณ 3-4 นิ้ว ซึ่งในปัจจุบันเรายังไม่ทราบหน้าที่ของไส้ติ่งแบบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจมีหน้าที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน และสะสมเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยในระบบการย่อยอาหาร ซึ่งปกติไส้ติ่งจะมีตำแหน่งอยู่ที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา
ซึ่งเมื่อมีการอุดตันของโพรงในไส้ติ่งไม่ว่าจากสาเหตุใด จะก่อให้เกิดการบวมอักเสบ หรือทำให้ไส้ติ่งแตกทะลุได้ นำไปสู่การติดเชื้อในช่องท้องหรือในกระแสเลือด จนอาจส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายถึงชีวิต
ซึ่งเมื่อมีการอุดตันของโพรงในไส้ติ่งไม่ว่าจากสาเหตุใด จะก่อให้เกิดการบวมอักเสบ หรือทำให้ไส้ติ่งแตกทะลุได้ นำไปสู่การติดเชื้อในช่องท้องหรือในกระแสเลือด จนอาจส่งผลทำให้ผู้ป่วยมีอันตรายถึงชีวิต
และโอกาสที่เมล็ดผลไม้เล็กๆ ที่ถูกกลืนลงไปแบบไม่ได้ตั้งใจ จะสามารถเข้าไปอุดตันโพรงที่ว่า จนก่อให้เกิดโรคไส้ติ่งอักเสบนั้น แม้จะมีโอกาสน้อยมากๆ แต่สามารถเกิดขึ้นได้จริง !!
จากงานวิจัยของต่างชาติ ที่ได้ทำการศึกษาไส้ติ่งของผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบระหว่างปี 2002-2009 จำนวน 969 เคส พบว่ามี 1 เคสที่พบเมล็ดผลไม้ในไส้ติ่งที่ถูกผ่าออกมา ทำให้แม้จะไม่ได้เกิดบ่อยๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมล็ดผลไม้ที่ไม่ได้ถูกเคี้ยวจนละเอียด สามารถส่งผลให้เกิดอาการไส้ติ่งอักเสบได้จริง
นอกจากนี้รายงานจากทั่วโลกยังพบว่า มีรายงานกรณีไส้ติ่งอักเสบที่เกิดจากเมล็ดผักและผลไม้ เช่น โกโก้ ส้ม เมล่อน ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต มะเดื่อ องุ่น อินทผลัม ยี่หร่า และถั่ว (ที่ถูกกลืนไม่ได้เคี้ยวละเอียด) เกิดขึ้นอยู่บ้าง
สุดท้ายนี้แม้ในความเป็นจริง เมล็ดผลไม้บางส่วนที่กลืนเข้าไปจะถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้อัตราส่วนของไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากพืชมีน้อยมากในผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบทั้งหมด แต่จากรายงานที่ออกมา ก็ต้องยอมรับว่าการหลีกเลี่ยงการกินเมล็ดผลไม้ที่ไม่ย่อยก็เป็นอีกปัจจัยที่อาจจะช่วยป้องกันไส้ติ่งอักเสบได้
จากงานวิจัยของต่างชาติ ที่ได้ทำการศึกษาไส้ติ่งของผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบระหว่างปี 2002-2009 จำนวน 969 เคส พบว่ามี 1 เคสที่พบเมล็ดผลไม้ในไส้ติ่งที่ถูกผ่าออกมา ทำให้แม้จะไม่ได้เกิดบ่อยๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมล็ดผลไม้ที่ไม่ได้ถูกเคี้ยวจนละเอียด สามารถส่งผลให้เกิดอาการไส้ติ่งอักเสบได้จริง
นอกจากนี้รายงานจากทั่วโลกยังพบว่า มีรายงานกรณีไส้ติ่งอักเสบที่เกิดจากเมล็ดผักและผลไม้ เช่น โกโก้ ส้ม เมล่อน ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต มะเดื่อ องุ่น อินทผลัม ยี่หร่า และถั่ว (ที่ถูกกลืนไม่ได้เคี้ยวละเอียด) เกิดขึ้นอยู่บ้าง
สุดท้ายนี้แม้ในความเป็นจริง เมล็ดผลไม้บางส่วนที่กลืนเข้าไปจะถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ ทำให้อัตราส่วนของไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากพืชมีน้อยมากในผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบทั้งหมด แต่จากรายงานที่ออกมา ก็ต้องยอมรับว่าการหลีกเลี่ยงการกินเมล็ดผลไม้ที่ไม่ย่อยก็เป็นอีกปัจจัยที่อาจจะช่วยป้องกันไส้ติ่งอักเสบได้
