ลดอาการ ‘หึงหวง’ ของคนรัก รู้จักเว้นระยะห่างกับเพื่อนต่างเพศให้พอดี

“เราควรทำตัวยังไงคะ แฟนสนิทกับเพื่อนผู้หญิงของเขามากๆ”

“ถ้าคุณมีแฟน คุณจะรักษาระยะห่างกับเพื่อนเพศตรงข้ามให้มากขึ้นไหมคะ

หรือทำตัวแบบที่เคย เพราะคิดว่าเพื่อนก็คือเพื่อน?” 

“แฟนหึงเพื่อนเราที่เคยคบกันมานาน ทำไงดีคะ?”

ในโลกศตวรรษที่ 21 สังคมมีการยอมรับเรื่องการมีเพื่อนต่างเพศ  และมีผู้เชี่ยวชาญมากมายออกมายืนยันว่า ‘ผู้หญิงและผู้ชายสามารถเป็นเพื่อนกันได้’ แต่ถึงอย่างนั้น เรายังคงพบเห็นกระทู้คำถามเช่นข้างต้นอยู่บ่อยครั้ง และได้ฟังเรื่องราวปัญหาทำนองนี้ของคนใกล้ตัวอยู่เนืองๆ แม้จะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย การมีเพื่อนต่างเพศของคนรักยังสามารถสั่นคลอนความไว้วางใจในความสัมพันธ์ได้เสมอ 
 
“ผู้ชายกว่า 64% และผู้หญิงกว่า 44% ยอมรับว่าเคยหลับนอนกับเพื่อนต่างเพศของตัวเอง” 
 
แม้จะมีนักวิจัยมากมายออกมายืนยันว่าหญิงชายสามารถเป็นเพื่อนกันได้ แต่ในขณะเดียวกัน งานวิจัยหลายชิ้นก็ให้ข้อมูลที่ขัดแย้ง จากผลสำรวจคน 138 คนของ Monsour, Harris และ Kurzweil พบว่า 64% ของผู้ชายและ 44% ของผู้หญิงยอมรับว่าเคยเปลี่ยนสถานะจาก ‘เพื่อนสนิท’ เป็น ‘คู่นอน’ นอกจากนี้ ในงานวิจัยของ Danu Stinson พบว่า 68% จาก 1,897 คน เริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์จากมิตรภาพสู่การเป็นแฟน  
 
จากตัวเลขข้างต้น อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกไม่สบายใจ แต่ในความสัมพันธ์โดยทั่วไปแล้ว ข้อมูลเหล่านี้ หรือการมีเพื่อนต่างเพศของคนรักไม่ได้สามารถทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจตั้งแต่ต้น หากพิจารณาให้ดี ความรู้สึกเหล่านี้มักเกิดจากการวางตัวอย่างใกล้ชิด หรือสนิทสนมจนเกินไปของคนรักและเพื่อนต่างเพศของเขา เมื่อความสัมพันธ์เริ่มรู้สึกถูกคุมคามจากคำว่า ‘มิตรภาพ’ ความไม่ไว้ใจจึงเริ่มก่อตัวขึ้น 

ผู้ชายหลายคนมักคิดว่า “แค่สนิทกัน แต่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้คนรักต้องคิดมาก” แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคงไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องเซ็กซ์ หรือการแตะเนื้อต้องตัวฝ่ายตรงข้ามเกินจำเป็นเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการพูดคุย การวางตัว การส่งสายตา และสายสัมพันธ์พิเศษที่คู่รักของคุณสัมผัสได้ 
 
Jennice Vilhauer นักจิตวิทยา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุในงานวิจัยของเธอว่า “ในการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนจำเป็นต้องทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัย เป็นที่รัก และได้รับการดูแลในแบบที่พิเศษ ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่มีร่วมกันเหนือความสัมพันธ์อื่นๆ แม้จะเกิดปัญหาในความสัมพันธ์ แต่หากใส่ใจความรู้สึกซึ่งกันและกันก็จะสามารถทำให้ความรักที่มีแข็งแกร่ง”  
 
การหึงหวงเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะนั้นคือความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์ หลายครั้งเราเลือกจะเก็บงำความรู้สึก เพราะกลัวว่าจะกลายเป็นคนงี่เง่าในสายตาของคนรัก แต่นั้นไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง ในความเป็นจริงเราควรพุดคูย รับฟัง และแบ่งปันมุมมองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดย Vilhauer ได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาไว้ 6 ข้อ 

1. อย่าให้ความสำคัญกับเพื่อนต่างเพศเหนือคนรัก  

การพูดว่าหากรับไม่ได้ที่มีเพื่อนคนนี้ก็เลิกกันไป หรือถ้าให้เราต้องเลือกระหว่างเพื่อนคนนั้นกับเธอ เราขอเลือกเขา เป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดและเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ เพราะนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจความรู้สึกของคนรักแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความไม่ให้เกียรติอีกด้วย 

2. อย่าแอบนัด หรือออกไปทำกิจกรรมกับเพื่อนโดยไม่บอกคนรัก 

การไม่บอกถือเป็นรูปแบบหนึ่งของการโกหก หากคุณมีการนัดเจอ 2 ต่อ 2 กับเพื่อนต่างเพศโดยไม่บอกคนรัก นั่นถือเป็นการทำลายความไว้วางใจ และอาจทำให้ความสัมพันธ์ที่มีพังลงได้

3. อย่ายัดเยียดให้คนรักต้องเป็นเพื่อนกับเพื่อนต่างเพศของคุณ 

หากคนรักของคุณรู้สึกไม่สบายใจกับเพื่อนต่างเพศของคุณ คุณไม่ควรยัดเหยียด หรือบีบบังคับให้พวกเขาใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นเพื่อสร้างความสนิทสนม เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงการสนใจเพียงความต้องการของคุณฝ่ายเดียวเท่านั้น 

4. อย่าสัมผัส หว่านเสน่ห์ หรือส่งสายตาหวานใส่เพื่อนต่างเพศต่อหน้าคู่รัก  

การแตะเนื้อต้องตัวเพื่อนต่างเพศ โดยทั่วไปถือว่าเป็นพฤติกรรมการจีบกันระหว่างคนสองคนที่มีความสนใจกัน ควรรักษาระยะห่างและมีการแตะเนื้อต้องตัวอย่างเหมาะสม อย่าทำให้คนรักของคุณรู้สึกว่าความสนิทสนม หรือความสัมพันธ์ที่มีไม่ได้พิเศษไปกว่าเพื่อนคนอื่นๆ 

5. ขีดเส้นความสัมพันธ์ และเว้นระยะห่างกับเพื่อนต่างเพศอย่างเหมาะสม 

หากคุณเป็นชายวัย 60 ปีที่ส่งข้อความและออกไปเที่ยวกับสาวโสดอายุ 30 ปีเป็นประจำ โดยมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแสดงท่าทีว่าสนใจอย่างเห็นได้ชัด แต่กลับเรียกสิ่งนี้ว่า "มิตรภาพ" คงไม่ใช่เรื่องดีต่อความสัมพันธ์และความรู้สึกของคนรักแน่ ความสัมพันธ์ทุกความสัมพันธ์ควรมีขอบเขต เพราะหากทุกคน ทุความสัมพันธ์สามารถทำหน้าที่แทนกันได้หมด แล้วจะมีชื่อเรียกความสัมพันธ์ต่างๆ ไว้ทำไม ในมุมกลับกัน ลองคิดว่านี้เป็นสิ่งที่คุณได้รับจากคนรักบ้าง คุณคงไม่ชอบใจเช่นเดียวกัน ดังนั้นหากคุณไม่ต้องการให้คนรักทำกับคุณ อย่าทำแบบนั้นกับคนรักของคุณ 

6. อย่ากล่าวหาว่าคนรักของคุณ ‘หึงบ้าหึงบอไม่เข้าเรื่อง’ 

หากพฤติกรรมของคุณกับเพื่อนต่างเพศถูกคู่ของคุณมองว่าเป็นภัยต่อสายสัมพันธ์ ก็จงยอมรับและหาทางแก้ไข ปัญหานี้ไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องแบกรับ หรือจัดการเพียงลำพัง คุณควรพูดคุยและหาทางออกร่วมกัน ซึ่งบางครั้งทางออกของปัญหาอาจจำเป็นต้องเสียสละเสรีภาพส่วนตัวบางอย่างของคุณไป แต่หากความสัมพันธ์นี้มีความหมายและคุ้มค่าพอที่จะรักษาไว้ การเสียสละอาจนำพาสิ่งมีค่าอย่าง ‘คู่ชีวิต’ มาให้ก็เป็นได้  
 
ดังที่ เสือ-ธนพล กล่าวไว้ว่า คำว่า ‘รัก’ อย่างเดียวคงยังไม่เพียงพอ ความสัมพันธ์ที่ดีต้องมาพร้อมการใส่ใจ เข้าใจ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน มากกว่านั้น ‘ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้’ ตามที่ ต่าย-อรทัย บอกไว้เป็นสิ่งที่ควรเก็บมาใคร่ครวญ ทุกความสัมพันธ์ล้วนมีขอบเขตและความพิเศษเฉพาะตัวตามชื่อเรียกของมัน ลองพิจารณาตัวเองดีๆ ว่าคุณพร้อมหรือยังกับการให้สิทธิพิเศษกับใครคนใดเพียงคนเดียว และพร้อมหรือไหมกับการเสียสละเสรีภาพบางส่วนเพื่อแลกกับความสบายใจของใครอีกคน บางทีคำถาม 2 ข้อนี้อาจช่วยให้คุณคิด หรือตัดสินใจได้ว่าควรวางตัวอย่างไร และพร้อมจริงๆ หรือไม่กับการมีความสัม