หลายๆ คนกำลังประสบปัญหา ทำงานไม่ตรงตาม Job Description หรือรายละเอียดงาน ตามที่เคยเซ็นสัญญาไว้ เพราะบอสผู้แสนดีบอกว่า “ตอนนี้คนขาด เราต้องช่วยๆ กันนะ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน” แต่ก็ไม่เห็นทีท่าว่าบอสจะรับคนเพิ่มสักที แถมใช้งานหนักแบบนี้ แต่ไม่ขึ้นเงินเดือนให้เป็นแรงใจในการทำงานอีก มันเป็นอะไรที่ท้อแสนท้อ
ด้วยภาระงานที่หนักขึ้น แต่กำลังใจที่มีในการทำงานเริ่มถดถอย ความเหนื่อยเริ่มสะสมจนทำให้เกิดภาวะ Burnout หรือ หมดไฟในการทำงาน ซึ่งจะมีอาการ อยู่ๆ ก็รู้สึกเครียด หดหู่ ขาดแรงจูงใจในการทำงาน ไม่มีสมาธิ รู้สึกล้มเหลว เบื่อ ร่างการอ่อนแรง ไปจนถึงหงุดหงิด โกรธง่าย อะไรๆ ก็ไม่ถูกใจซักอย่าง งานนี้ ต้องหาทางแก้แล้วแหละ
ลองมาดูทิปส์ง่ายๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตทำงานดีขึ้นมาหน่อยนึง
อาหารอีกชนิดที่จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นก็คงเป็นของหวาน เช่น เค้ก หรือขนมหวานที่ชื่นชอบ รวมไปถึงช็อกโกแลต ก็สามารถช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ แต่การกินของหวานมากเกินไป อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายนะ
การนอนหลับที่เพียงพอจริงๆ คือการนอนหลับให้ครบ 7-9 ชั่วโมง ซึ่งช่วงเวลาระยะการนอนที่ดีที่สุดคือ 8 ชั่วโมงนั่นเอง และไม่ควรนอนนานเกิน 9 ชั่วโมงเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี
การนอนหลับให้ครบ 7-9 ชั่วโมง จะทำให้สมองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และได้รับอ็อกซิเจนที่เพียงพอต่อความต่อการของร่างกาย นั่นจะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมากขึ้นเมื่อได้ตื่นนอนนั่นเอง
เพราะถ้าหากว่าร่างกายขาดน้ำหรือได้รับน้ำที่ไม่เพียงพอ หัวใจจะทำงานหนักในการสูบฉีดเลือด เนื่องจากเลือดข้นหนืด ไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งเป็นสาเหตุให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ โดยสามารถเช็กการดื่มน้ำของตัวเองจากการปัสสาวะ เพราะหากดื่มน้ำเพียงพอ จะรู้สึกว่าต้องปัสสาวะทุกๆ 2-3 ชั่วโมงระหว่างวัน
และนี่คือ 5 ทิปส์ง่ายๆ ที่จะช่วยให้ร่างกายของเรา พร้อมที่จะต่อสู้กับงานที่มหาศาลจากบอสสุดที่รัก เพราะถ้าหากร่างกายเราโอเค สภาพจิตใจเราโอเค มันก็ช่วยบรรเทาอาการ Burnout ไปได้หน่อยนึงแหละ เนอะๆ
ด้วยภาระงานที่หนักขึ้น แต่กำลังใจที่มีในการทำงานเริ่มถดถอย ความเหนื่อยเริ่มสะสมจนทำให้เกิดภาวะ Burnout หรือ หมดไฟในการทำงาน ซึ่งจะมีอาการ อยู่ๆ ก็รู้สึกเครียด หดหู่ ขาดแรงจูงใจในการทำงาน ไม่มีสมาธิ รู้สึกล้มเหลว เบื่อ ร่างการอ่อนแรง ไปจนถึงหงุดหงิด โกรธง่าย อะไรๆ ก็ไม่ถูกใจซักอย่าง งานนี้ ต้องหาทางแก้แล้วแหละ
ลองมาดูทิปส์ง่ายๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตทำงานดีขึ้นมาหน่อยนึง
-
การกินก็ช่วยได้
อาหารอีกชนิดที่จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นก็คงเป็นของหวาน เช่น เค้ก หรือขนมหวานที่ชื่นชอบ รวมไปถึงช็อกโกแลต ก็สามารถช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ แต่การกินของหวานมากเกินไป อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายนะ
-
การพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับที่เพียงพอจริงๆ คือการนอนหลับให้ครบ 7-9 ชั่วโมง ซึ่งช่วงเวลาระยะการนอนที่ดีที่สุดคือ 8 ชั่วโมงนั่นเอง และไม่ควรนอนนานเกิน 9 ชั่วโมงเพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี
การนอนหลับให้ครบ 7-9 ชั่วโมง จะทำให้สมองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ และได้รับอ็อกซิเจนที่เพียงพอต่อความต่อการของร่างกาย นั่นจะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นมากขึ้นเมื่อได้ตื่นนอนนั่นเอง
-
ออกกำลังกายเป็นประจำ
-
ลดคาเฟอีน
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
เพราะถ้าหากว่าร่างกายขาดน้ำหรือได้รับน้ำที่ไม่เพียงพอ หัวใจจะทำงานหนักในการสูบฉีดเลือด เนื่องจากเลือดข้นหนืด ไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งเป็นสาเหตุให้รู้สึกอ่อนเพลียได้ โดยสามารถเช็กการดื่มน้ำของตัวเองจากการปัสสาวะ เพราะหากดื่มน้ำเพียงพอ จะรู้สึกว่าต้องปัสสาวะทุกๆ 2-3 ชั่วโมงระหว่างวัน
และนี่คือ 5 ทิปส์ง่ายๆ ที่จะช่วยให้ร่างกายของเรา พร้อมที่จะต่อสู้กับงานที่มหาศาลจากบอสสุดที่รัก เพราะถ้าหากร่างกายเราโอเค สภาพจิตใจเราโอเค มันก็ช่วยบรรเทาอาการ Burnout ไปได้หน่อยนึงแหละ เนอะๆ