ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ในช่วงปี 2018 ที่การใส่เสื้อมัดย้อมสีจัดๆ ยังไม่เป็นที่นิยมมากเท่าไหร่ มีแบรนด์หนึ่งถือกำเนิดขึ้นมาด้วยความกล้าหาญจากการสร้างสตอรี่ของตัวเอง จากการเอาเสื้อวง Slur ที่ไปซักแล้วดันสีตก แก้ปัญหาด้วยการจับไปมัดย้อมมันซะเลย ทำให้คนที่ผ่านมาเห็นเรื่องราวของเขาต่างชอบการสร้างสรรค์นี้ จนเกิดเป็นแบรนด์ JOY2 ขึ้นมา
จุดเริ่มต้นของแบรนด์เสื้อมัดย้อมที่ฮิตในหมู่แฟนเพลงนี้เกิดขึ้นจาก ‘โอห์ม’ ทัศนัย สมบัติธีระ นักร้องและมือกลองของวงดนตรีซินธ์ป๊อปชื่อน่ารัก ‘Two Pills After Meal’ ที่อยากทำอะไรมากกว่าเล่นดนตรี เขาเลยสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา และเอาคอนเนคชันศิลปินมาใช้ให้เกิดประโยชน์ บวกกับความสามารถของแฟนเขาที่ทำเกี่ยวกับเรื่องศิลปะ ทำให้เกิดเป็นแบรนด์เสื้อวงดนตรีมัดย้อมที่ครองใจวัยรุ่นหลายคน
เวลาผ่านไป 5 ปี JOY2 ได้ผ่านการร่วมงานกับศิลปินมามากมายหลายวง เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาแบบเต็มเปี่ยม จนวันนี้เขาได้ร่วมงานกับ ‘สเตฟาน’ ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ อดีตนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นยูทูปเบอร์ด้านฟุตบอลชื่อดัง สร้างคอลเลคชันเท่ๆ ขึ้นมาให้เราได้ติดตามกัน แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ จุดเริ่มต้นและการเดินทางตลอด 5 ปี ของแบรนด์ JOY2 มาไกลขนาดนี้ได้อย่างไร ติดตามในบทสัมภาษณ์คอลัมน์นี้ได้เลยครับ
จุดเริ่มต้นของแบรนด์เสื้อมัดย้อมที่ฮิตในหมู่แฟนเพลงนี้เกิดขึ้นจาก ‘โอห์ม’ ทัศนัย สมบัติธีระ นักร้องและมือกลองของวงดนตรีซินธ์ป๊อปชื่อน่ารัก ‘Two Pills After Meal’ ที่อยากทำอะไรมากกว่าเล่นดนตรี เขาเลยสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา และเอาคอนเนคชันศิลปินมาใช้ให้เกิดประโยชน์ บวกกับความสามารถของแฟนเขาที่ทำเกี่ยวกับเรื่องศิลปะ ทำให้เกิดเป็นแบรนด์เสื้อวงดนตรีมัดย้อมที่ครองใจวัยรุ่นหลายคน
เวลาผ่านไป 5 ปี JOY2 ได้ผ่านการร่วมงานกับศิลปินมามากมายหลายวง เก็บเกี่ยวประสบการณ์มาแบบเต็มเปี่ยม จนวันนี้เขาได้ร่วมงานกับ ‘สเตฟาน’ ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ อดีตนักแสดงที่ผันตัวมาเป็นยูทูปเบอร์ด้านฟุตบอลชื่อดัง สร้างคอลเลคชันเท่ๆ ขึ้นมาให้เราได้ติดตามกัน แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ จุดเริ่มต้นและการเดินทางตลอด 5 ปี ของแบรนด์ JOY2 มาไกลขนาดนี้ได้อย่างไร ติดตามในบทสัมภาษณ์คอลัมน์นี้ได้เลยครับ
จุดเริ่มต้นของ JOY2
JOY2: จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจทำให้มันกลายเป็นแบรนด์เสื้อขนาดนี้ จุดเริ่มต้นจริงๆ คือ เราเอาเสื้อวง Slur มาลองมัดย้อม เพราะว่าสีมันตกตอนเราเอาไปซัก เราก็คิดว่าอุตส่าห์ไปต่อแถวซื้อมาแล้วมันเสียดาย เลยไปโพสต์ถามใน Facebook ว่าจะมีวิธีแก้ยังไงบ้าง ก็มีคนแนะนำมาว่าลองเอาไปมัดย้อมดูไหม พอดีกับที่แฟนทำมัดย้อมเป็นด้วย เพราะเขาเรียนเกี่ยวกับศิลปะอยู่แล้ว พอทำออกมาปุ๊บ คนก็เห็นว่าเสื้อตัวนี้มันมีสตอรี่ เขาก็เลยชอบกัน ทีนี้ก็มานั่งคิดว่าเราเองก็ไม่ได้เล่นดนตรีเยอะ และอยากทำอะไรมากกว่าเล่นดนตรี งั้นลองทำขายดูดีไหมสักคอลเลคชันนึงว่ามันจะเป็นยังไง ซึ่งก็ได้พี่บู้ (มือเบส Slur) เป็นที่ปรึกษา เพราะเขาเห็นว่าเราเอาเสื้อวงเขาไปทำมัดย้อม เขาก็บอกให้ลองทำแบรนด์เองดูสิ จากนั้นก็เลยเป็นคอลเลคชันแรกของ JOY2 ขึ้นมาครับคอนเซปต์แรกของแบรนด์คือเสื้อวงดนตรีมัดย้อมเลยไหม
JOY2: ยังไม่รู้อะไรเลยครับ เพราะตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นมัดย้อมไปได้ตลอดไหม เราเลยถอยกลับมามองตอนตั้งชื่อแรกๆ เคยคิดจะตั้งหลายชื่อทั้ง Tie Dye, High Dye ที่มันเกี่ยวกับการมัดย้อม แต่ก็คิดว่ามันจะสโคปตัวเองเกินไปว่าจะเป็นได้แค่มัดย้อม ก็เลยมาดูคอนเซปต์ว่านอกจากมัดย้อมจะเป็นอะไรได้อีก ซึ่งจริงๆ เราเป็นคนชอบสีที่มันดูวุ่นวาย อารมณ์งานแบบ Psychedelic เมาๆ หลอนๆ สีเยอะๆ ก็เลยมองอีกว่าถ้าใช้คำนี้มันก็จะดูเฉพาะเจาะจงไปอีก น่าจะนิชเกินไปเราก็เลยมามองเอาคำง่ายๆ ละกัน คือคำว่า Enjoy แล้วมาได้ประโยค How to enjoy ที่ตอนแรกจะตั้งว่า Joy to how แล้วเราอยากได้สั้นๆ กว่านี้ก็เลยตัด How ออก แล้ว To เราก็เปลี่ยนเป็นเลข 2 แล้วลองเอามาวางเป็นโลโก้ วางไปวางมาก็เห็นว่ามันสวยดี บวกกับมันเข้ากับสไตล์งาน Psychedelic ที่เราชอบ คือคล้ายคำว่า Joint ก็เลยได้เป็นชื่อแบรนด์และคอนเซปต์นี้มา
ก่อนจะเริ่มทำแบรนด์ ชอบเสื้อมัดย้อมอยู่แล้วหรือเปล่า
JOY2: เอาจริงๆ ไม่ได้คลั่งไคล้ขนาดนั้นครับ มันเริ่มต้นจากเราชอบคอนเซปต์ของสีก่อน แล้วการมัดย้อมมันตามมาทีหลัง เหมือนมันเป็นเทคนิคของการเล่าเรื่องแบบนึงมากกว่าผลตอบรับช่วงแรกของ JOY2
JOY2: ตอนแรกต้องขอบคุณเพื่อนๆ หลายคนเลยครับ อย่าง โบ๊ท (อดีตนักร้องนำวง สมเกียรติ) ก็ทำให้คนรู้จัก JOY2 ในพาร์ทที่เป็นวงดนตรีด้วยกัน ทั้งแฟนวงสมเกียรติ แล้วก็แฟนวงเราด้วย มันก็เลยทำให้คนที่ติดตามค่าย Smallroom อยู่แล้วเข้ามาสนใจ แต่อาจจะงงๆ กับช่วงแรกหน่อย ซึ่งความคาดหวังของเราคือแค่มีคนรู้จักก็พอใจแล้ว ทีนี้พอมันเปิดพรีออเดอร์จริงๆ โดยที่เราได้คำปรึกษาจากพี่บู้เรื่องวิธีการขาย เช่น การตั้งเวลาให้คนเข้ามาสั่งเวลานี้ เราก็ลองทำดู แล้วเผอิญวันนั้นเราเล่นดนตรีอยู่ด้วย พอถึงเวลาประมาณ 2-3 ทุ่ม โทรศัพท์มันก็เด้งๆๆ ปรากฏว่าคนก็มาตั้งแต่รอบแรกจน Sold out เลย แต่ก็ยังไม่ได้ทำเยอะมาก แบบไม่ถึง 100 ตัว เพราะเรายังไม่เก่งเท่าไหร่ หลังจากนั้นเราก็รู้ตัวเองว่าควรทำประมาณนี้แหละงานคอลแลบครั้งแรก?
เริ่มทำคอลแลบกับ TRYSTAND ที่เป็นนักวาดภาพประกอบ เคยทำให้กับวงศรีราชา ร็อคเกอร์ เราชวนเขามาวาดภาพประกอบ ออกแบบร่วมกัน เหมือนเราเริ่มรู้แล้วว่าการคอลแลบกับศิลปินแบบนี้ จะทำให้เราได้แฟนคลับจากศิลปินเพิ่มขึ้น ก็เลยเหมือนเป็นจุดเริ่มที่เราได้คอลแลบ ก็ได้เรียนรู้ไปด้วยเรื่อยๆ ครับเกณฑ์ในการเลือกวงดนตรี
JOY2: จริงๆ หลังจากทำกับ TRYSTAND เสร็จก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปทางวงดนตรีนะ แต่ว่าพอดีตอนนั้นวง The Young Wolf ที่เรามีคอนเนคชันกับน้องที่ดูแลวง เขาก็ติดต่อมาให้เราทำเสื้อมัดย้อมไปงานแคท ก็เลยเริ่มมีคนรู้จักว่าเสื้อมัดย้อมแบบนี้มันโอเค เราก็เรียนรู้ตอนนั้นด้วย พอมีเสื้อวงเข้ามา มันเริ่มเห็นภาพชัดแล้วว่ามันได้นอกจาก The Young Wolf ก็มีทำกับพี่โรเบิร์ต สายควัน ไปขายในงานแคทด้วย ทีนี้เราก็เห็นว่าพอมันไปอยู่ในงานแคท ซึ่งเราก็คุ้นเคยอยู่แล้ว ก็เลยคิดกันจะทำโปรเจ็กต์เสื้อวงดูดีไหม เริ่มจากวงที่รู้จักกันก่อนนี่แหละ คอลเลคชันแรก Vol.1 ทำกับศิลปิน 6 วง มี Dept, สมเกียรติ, Penguin Villa, Gym and Swim, Yanin และ Anatomy Rabbit ที่เราก็รู้จักหมดเลย
จุดเด่นของเสื้อมัดย้อม JOY2
JOY2: สำหรับจุดเด่นของเราน่าจะเป็นเรื่องของการใช้คู่สีที่แรกๆ เราจะใช้คู่สีที่มันค่อนข้างประหลาด ไม่ใช้คู่สีที่เห็นอยู่ทั่วไป อย่างเช่น เอาสีม่วงมาคู่กับสีเขียว หรือไม่ก็สีส้มไปเลย มันจะค่อนข้างงงๆ นิดนึง (หัวเราะ) เอาจริงๆ แล้วงานมัดย้อมมันเยอะมาก ไปได้หลากหลายแนว แต่เราก็สโคปตัวเองไว้ว่า JOY2 จะเป็นมัดย้อมที่มีสีแปลก และลายไม่เหมือนใคร เพื่อที่จะให้คนจำเราได้ บวกกับลายสกรีนที่จะรีเลตกับคนได้ มีความแมสผสมอยู่ในนั้นคนที่มาซื้อเคยมาบอกไหมว่าชอบอะไรใน JOY2
JOY2: จริงๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากนะ เพราะมันเป็นฟีดแบคให้เราพัฒนาต่อด้วย จากที่เรียนรู้มา อย่างแรกเลยคือคนจะชอบตัววงดนตรีก่อน แล้วน้องๆ ที่เป็นแฟนวงเหล่านี้ เขาจะรักมาก เราก็เลยจะต้องตีความตั้งแต่แรกเลยว่าสิ่งที่แฟนคลับวงนี้ชอบคืออะไร อย่างเช่นวง Anatomy Rabbit เราจะคุยกับวงก่อนเลยว่าแฟนคลับเขาชอบอะไร ประมาณไหน เราก็ทำการบ้านไปคุยกับวง วงก็จะมาบอกเราว่าแฟนคลับชอบประมาณนี้ เราก็ตีความต่อว่าอยากใส่อะไรเข้าไป และพอมันผสมออกมาแล้ว มันก็กลายเป็นความลงตัวที่ไม่ต้องอธิบายอะไร และเขาก็มองว่ามันคือความสวยที่บอกไม่ถูก ออกแนวน่ารัก ญี่ปุ่นหน่อยๆหรือย่างวง Penguin Villa เราก็ทำตรงข้ามเลย ใช้เทคนิคการสะบัดสีอะคริลิค ไม่ใช่มัดย้อมเลยด้วยซ้ำ แต่ก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์ของการสาดสี มองแล้วดูเท่ เป็นเหมือนความกบฏอะไรแบบนี้ที่แฟนคลับวงเขามองมา มันก็เลยอาจจะทำให้คนไม่เบื่อแบรนด์พวกเราด้วย
พอได้ฟีดแบคมาแล้ว เอามาพัฒนาต่อไหม
JOY2: เราก็เอามาใช้ครับ แต่สัดส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความต้องการเราตอนนั้นด้วยว่าอยากจะทำอะไร บางทีฟีดแบคที่ได้มาจากวงนั้นวงนี้ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่า สิ่งที่เขาบอกมามันเหมาะไหม ซึ่งบางทีมันอาจจะไม่เหมาะ จริงๆ มันก็ดูเห็นแก่ตัวนิดๆ เหมือนกันนะ (หัวเราะ) แต่ไม่ใช่ไม่ฟังนะ เราฟังเสมอ ส่วนอันที่เหมาะมันก็มี เพราะเราจะคุยกับลูกค้าตลอดในกลุ่มไลน์ว่าอยากทำวงอะไร อยากทำให้เป็นแนวไหน เราก็เอามาวิเคราะห์ความเหมาะสมอีกทีส่วนใหญ่วงดนตรีรีเควสต์ความต้องการเยอะไหม
JOY2: จะแล้วแต่วงเลยครับ บางวงก็ปล่อยฟรีตามสไตล์เราเลย อย่างเช่น Dept เราได้ไอเดียวงมาก่อนว่าอยากทำออกมาให้เป็นร็อค ซึ่งตรงข้ามกับคาแรคเตอร์วงเลย น้องเบนซ์ (นักร้องนำ) ก็บอกว่าผมเคยวาดโลโก้วงเป็นแบบวง Metallica เราก็ได้คีย์เวิร์ดนี้มาแล้ว ก็มาออกแบบให้เป็น Metallica ตามสไตล์ JOY2 ใส่เทคนิคการฟอก การกัดสี การเพนท์ อีกวงก็คือ Penguin Villa ที่ไอเดียมาจากพี่เจ (นักร้องนำ) เยอะเหมือนกัน เขาอยากให้เป็นเสื้อเชิ้ตมินิมอล มีตัวหนังสือคำว่า Back to the Earth กับชื่อวง พอเราฟังแล้วก็รู้สึกถึงโลกที่มันมีสองด้าน คือ สว่างกับมืด เอาคอนเซปต์ตรงนั้นมาคิดต่อส่วน Anatomy Rabbit ไอเดียตอนแรกของเราคืออยากทำแบบ Pop Art สไตล์ Andy Warhol เลย ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้ความเห็นจากแฟนคลับ เราก็ถามวงว่าแฟนๆ เขาชอบอะไร เขาก็บอกมาว่าส่วนใหญ่จะชอบอะไรน่ารักๆ แสดงว่า Pop Art มันอาจจะยากไปละ ก็คิดอยู่นาน แต่มันออกมาเป็นญี่ปุ่น เพราะเราเดินไปเจอเสื้อของพี่รัฐ Tattoo Colour ที่เป็นแนวนี้ ก็เก็บไอเดียนี้มาใช้ แล้วส่งให้วงไปว่าเอาแบบญี่ปุ่นแล้วกัน ก็ลงตัวออกมาเป็นแบบที่เห็นกัน
หรืออย่าง Yonlapa ตอนแรกเราก็มีไอเดียว่าอยากทำเป็นเชิ้ตฮาวาย แต่วงเขารีเควสต์มาว่าอยากได้เชิ้ตโบว์ลิ่ง เราก็ปรับให้ตามที่วงอยากได้ และที่ยากที่สุดเลยตั้งแต่ทำมาคือ Hard Boy เพราะเราไม่ได้รู้ทุกอย่าง ตอนไปเจอวงครั้งแรก สิ่งที่เราคิดไปมันผิดหมดเลย เรามองเขาเป็นร็อคยุค 80 แต่เรารู้สึกว่าอยากไม่อยากใส่ความ Glam เข้าไป เพราะแบรนด์เรามันออกแนวป็อปแมส คำว่า Glam มันอาจจะดูเข้าใจยากนิดนึง แต่วงบอกว่าไม่ได้ เพราะวงเขาเป็นแบบนั้น เราก็เลยต้องล้างคอนเซปต์เดิมออกหมดเลย แล้วใช้แนวทางของวงเดินนำเลย ให้ออกแนวเกเร จัดจ้าน เยอะแยะ ติดสาวหน่อยๆ