เพียเจต์เผยโฉมคอลเลกชันไฮจิวเวลรีล่าสุด “Metaphoria” ที่แต่ละชิ้นงานแสดงออกถึงมรดกงานฝีมือและวิสัยทัศน์อันแสนขบถของเมซง ผลลัพธ์ที่ได้จึงเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ทั้งยังโดดเด่นด้วยการเลือกใช้อัญมณีหลากสีสันและวัสดุที่สะท้อนถึงความเป็นเลิศทางหัตถศิลป์ และนี่คือคอลเลกชัน “Metaphoria” ที่นำเสนอจินตนาการถึงธรรมชาติในหลากหลายมุมมอง ผ่านเครื่องประดับชั้นสูงอันล้ำค่าทั้งหมด 52 ชิ้น
ย้อนกลับไปปี 1969 ก่อนก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เพียเจต์ได้เผยโฉมคอลเลกชันที่เต็มไปด้วยความล้ำสมัย กับผลงานการออกแบบที่หลอมรวมคอนเซปต์ และกลิ่นอายของความเป็นกูตูร์จากรันเวย์ที่ปารีสได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาสไตล์ Cuff watch, นาฬิกาที่มาในดีไซน์สร้อยเส้นยาวแบบ Sautoir ไปจนถึงนาฬิกาไฮจิวเวลรีที่ผสมผสานหินสีล้ำค่าบนพื้นหน้าปัด ทั้งหมดนี้กลายเป็นไอเดียฐานรากที่ปูทางไปสู่ซิกเนเจอร์สไตล์ของเมซงในปัจจุบัน
Benjamin Comar ซีอีโอของเพียเจต์ กล่าวว่า “เพราะความกล้าที่จะทดลอง คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และดื่มด่ำไปกับทุกช่วงเวลาแห่งความสุข คือ ดีเอ็นเอในแบบฉบับของเพียเจต์ ในช่วงยุค 1960s เราจึงเห็นแบรนด์หยิบเอาความขบถมาสร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการนาฬิกาและจิวเวลรี ด้วยการหยิบเอาคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นของหินธรรมชาติมาสอดแทรกลงบนชิ้นงาน ตั้งแต่ คอรัล เทอร์ควอยซ์ ลาพิสลาซูลี - ซึ่งแน่นอนว่าเราปรารถนาที่ส่งต่อเอกลักษณ์อันน่าทึ่งนี้ไปยังชิ้นงานไฮจิวเวลรีด้วยเช่นกัน”
ในปีนี้ “21st Century Collection” กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง กับคอลเลกชันล่าสุดที่มีชื่อว่า “Metaphoria” ที่หยิบเอาความน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติและการแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลามาหลอมรวมไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยชิ้นงานจิวเวลรี 41 ชิ้น และนาฬิกาอีก 11 เรือน แบ่งออกเป็น 2 ธีมหลัก คือ Azureia และ Beautanica โดยแบรนด์สะท้อนวิสัยทัศน์ในการนำเสนอผลงานไฮจิวเวลรีร่วมสมัย
โดยหยิบรากเหง้าของแรงบันดาลใจที่มีอิทธิพลต่อเมซงมาอย่างยาวนาน อย่าง vibrant, radiant nature มาเป็นคีย์ในการถ่ายทอด นอกจากความคิดสร้างสรรค์ที่แสนขบถแล้ว แต่ละชิ้นงานยังลงรายละเอียดไว้อย่างวิจิตรบรรจงผ่าน Savoir-Faire เก่าแก่ ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 7 แผนกในอเตลิเยร์เพียเจต์ ซึ่งดีไซน์ทั้งหมดถูกแต่งแต้มให้ชวนหลงใหลยิ่งขึ้นด้วยอัญมณีที่ล้ำค่า ส่งมอบ “Metaphoria” ด้วยจิตวิญญาณที่ไม่เหมือนใคร ทั้งยังเปี่ยมด้วยขนบดั้งเดิมที่เทียบชั้นได้ยาก
ย้อนกลับไปปี 1969 ก่อนก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เพียเจต์ได้เผยโฉมคอลเลกชันที่เต็มไปด้วยความล้ำสมัย กับผลงานการออกแบบที่หลอมรวมคอนเซปต์ และกลิ่นอายของความเป็นกูตูร์จากรันเวย์ที่ปารีสได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาสไตล์ Cuff watch, นาฬิกาที่มาในดีไซน์สร้อยเส้นยาวแบบ Sautoir ไปจนถึงนาฬิกาไฮจิวเวลรีที่ผสมผสานหินสีล้ำค่าบนพื้นหน้าปัด ทั้งหมดนี้กลายเป็นไอเดียฐานรากที่ปูทางไปสู่ซิกเนเจอร์สไตล์ของเมซงในปัจจุบัน
Benjamin Comar ซีอีโอของเพียเจต์ กล่าวว่า “เพราะความกล้าที่จะทดลอง คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และดื่มด่ำไปกับทุกช่วงเวลาแห่งความสุข คือ ดีเอ็นเอในแบบฉบับของเพียเจต์ ในช่วงยุค 1960s เราจึงเห็นแบรนด์หยิบเอาความขบถมาสร้างจุดเปลี่ยนให้กับวงการนาฬิกาและจิวเวลรี ด้วยการหยิบเอาคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นของหินธรรมชาติมาสอดแทรกลงบนชิ้นงาน ตั้งแต่ คอรัล เทอร์ควอยซ์ ลาพิสลาซูลี - ซึ่งแน่นอนว่าเราปรารถนาที่ส่งต่อเอกลักษณ์อันน่าทึ่งนี้ไปยังชิ้นงานไฮจิวเวลรีด้วยเช่นกัน”
ในปีนี้ “21st Century Collection” กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง กับคอลเลกชันล่าสุดที่มีชื่อว่า “Metaphoria” ที่หยิบเอาความน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติและการแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลามาหลอมรวมไว้ด้วยกัน ประกอบด้วยชิ้นงานจิวเวลรี 41 ชิ้น และนาฬิกาอีก 11 เรือน แบ่งออกเป็น 2 ธีมหลัก คือ Azureia และ Beautanica โดยแบรนด์สะท้อนวิสัยทัศน์ในการนำเสนอผลงานไฮจิวเวลรีร่วมสมัย
โดยหยิบรากเหง้าของแรงบันดาลใจที่มีอิทธิพลต่อเมซงมาอย่างยาวนาน อย่าง vibrant, radiant nature มาเป็นคีย์ในการถ่ายทอด นอกจากความคิดสร้างสรรค์ที่แสนขบถแล้ว แต่ละชิ้นงานยังลงรายละเอียดไว้อย่างวิจิตรบรรจงผ่าน Savoir-Faire เก่าแก่ ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 7 แผนกในอเตลิเยร์เพียเจต์ ซึ่งดีไซน์ทั้งหมดถูกแต่งแต้มให้ชวนหลงใหลยิ่งขึ้นด้วยอัญมณีที่ล้ำค่า ส่งมอบ “Metaphoria” ด้วยจิตวิญญาณที่ไม่เหมือนใคร ทั้งยังเปี่ยมด้วยขนบดั้งเดิมที่เทียบชั้นได้ยาก