สำเพ็ง ตลาดค้าส่งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ที่นี่มีสินค้าทุกอย่าง อยากได้อะไรมาที่สำเพ็ง
ชื่อสำเพ็งมาจากชื่อ ‘วัดสำเพ็ง’ หรือวัดปทุมคงคา วัดโบราณเก่าแก่ตั้งแต่อยุธยา ความเป็นสำเพ็ง ย่านคนจีนเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจะสร้างเมืองใหม่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างพระบรมมหาราชวัง บนที่แหล่งคนจีนในพระยาราชาเศรษฐี จึงให้ย้ายชุมชนชาวจีนไปอยู่ระหว่างวัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิราชาวาส) กับวัดสำเพ็ง (วัดปทุมคงคา)
ชื่อสำเพ็งมาจากชื่อ ‘วัดสำเพ็ง’ หรือวัดปทุมคงคา วัดโบราณเก่าแก่ตั้งแต่อยุธยา ความเป็นสำเพ็ง ย่านคนจีนเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชจะสร้างเมืองใหม่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างพระบรมมหาราชวัง บนที่แหล่งคนจีนในพระยาราชาเศรษฐี จึงให้ย้ายชุมชนชาวจีนไปอยู่ระหว่างวัดสามปลื้ม (วัดจักรวรรดิราชาวาส) กับวัดสำเพ็ง (วัดปทุมคงคา)
สำเพ็งในเวลานั้น เป็นพื้นที่ทำการเกษตร เพาะปลูก ทำสวน พื้นที่ที่เป็นตลาดเก่าเยาวราช ที่เป็นของพระศรีทรงยศหรือ 'เจ้าสัวเนียม' เคยเป็นสวนองุ่นมาก่อน ส่วนฝั่งธนบุรีตรงวัดประยุรวงศาวาสของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์นั้นเป็นสวนกาแฟ
สมัยนั้นพื้นที่ของเมืองกรุงเทพฯ และฝั่งธนบุรี มีความอุดมสมบูรณ์และชุ่มชื้นพอให้ทำสวนทำไร่ได้อย่างเต็มที่ ผิดกับปัจจุบัน
เมื่อชาวจีนย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้จึงปักหลักทำมาหากินสร้างบ้านไม้เป็นที่พำนัก ปลูกบ้านติดกันอย่างหนาแน่น จนมีผู้กล่าวว่าบ้านในย่านสำเพ็งนั้นไก่บินไม่ตก เพราะหลังคาชนกันแทบไม่มีช่องว่าง วันดีคืนดีเกิดอัคคีภัยแต่ละครั้งทำความความเสียหาย กลายเป็นไฟไหม้ใหญ่สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
สมัยนั้นพื้นที่ของเมืองกรุงเทพฯ และฝั่งธนบุรี มีความอุดมสมบูรณ์และชุ่มชื้นพอให้ทำสวนทำไร่ได้อย่างเต็มที่ ผิดกับปัจจุบัน
เมื่อชาวจีนย้ายมาอยู่ในบริเวณนี้จึงปักหลักทำมาหากินสร้างบ้านไม้เป็นที่พำนัก ปลูกบ้านติดกันอย่างหนาแน่น จนมีผู้กล่าวว่าบ้านในย่านสำเพ็งนั้นไก่บินไม่ตก เพราะหลังคาชนกันแทบไม่มีช่องว่าง วันดีคืนดีเกิดอัคคีภัยแต่ละครั้งทำความความเสียหาย กลายเป็นไฟไหม้ใหญ่สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
สำเพ็ง มีวัดญวณ วัดจีน ศาลเจ้า ตลาด โรงยาฝิ่น โรงหวย บ่อน โรงโสเภณี สำเพ็งมีการพัฒนาอย่างจริงจังในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
หมอบรัดเลย์เขียนไว้ใน Bangkok Recorder ว่า ข้าพเจ้าเที่ยวดูตามท้องตลาดสำเพ็ง ได้เห็นถนนนั้น ดีสะอาดเรียบร้อยยิ่งกว่าแต่ก่อนนัก จึงได้นึกว่าเกิดเพราะพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากสำเพ็งจะมีถนนดีขึ้นยังมีกล่องตระเวนอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ เพื่อดูแลรักษาในท้องตลาดมิให้เกิดโจรผู้ร้ายย่ำยีบีฑาราษฎรได้
สภาพสำเพ็งในช่วงรัชกาลที่ 4 อาจจะมีการปรับตัวดีขึ้น แต่ความเป็นอยู่ยังคงมีความหนาแน่นจนเมื่อมีไฟไหม้ใหญ่ในรัชกาลที่ 5 จึงมีการตัดถนนทรงวาด
หมอบรัดเลย์เขียนไว้ใน Bangkok Recorder ว่า ข้าพเจ้าเที่ยวดูตามท้องตลาดสำเพ็ง ได้เห็นถนนนั้น ดีสะอาดเรียบร้อยยิ่งกว่าแต่ก่อนนัก จึงได้นึกว่าเกิดเพราะพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากสำเพ็งจะมีถนนดีขึ้นยังมีกล่องตระเวนอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ เพื่อดูแลรักษาในท้องตลาดมิให้เกิดโจรผู้ร้ายย่ำยีบีฑาราษฎรได้
สภาพสำเพ็งในช่วงรัชกาลที่ 4 อาจจะมีการปรับตัวดีขึ้น แต่ความเป็นอยู่ยังคงมีความหนาแน่นจนเมื่อมีไฟไหม้ใหญ่ในรัชกาลที่ 5 จึงมีการตัดถนนทรงวาด
ภาพสำเพ็งในวันนี้มีแต่การเรียงตัวของร้านค้าส่งเสื้อผ้า รองเท้า ข้าวของเครื่องใช้ ซอยแคบคนผ่านเข้าออกตลอดเวลา รถมอเตอร์ไซค์ส่งของ พ่อค้าแม่ค้า แรงงานในสำเพ็งไม่ใช่คนจีน คนไทยเชื้อสายจีนกลายเป็นเจ้าของกิจการ ส่วนแรงงานเป็นคนประเทศเพื่อนบ้าน เมียนมาร์ สปป.ลาว เขมร
ซอยในย่านสำเพ็งและเยาวราชที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานน่าสนใจซอยหนึ่ง ยังพอมีเค้าเหลือให้เดินชม คือ ซอยเยาวพานิช ซอยที่เคยมีทั้งโรงมหรสพ ศาลเจ้า วัดจีน และร้านขายยาจำนวนมาก
คนสำเพ็งสมัยก่อนพอไม่สบายจะเดินมาร้านยาที่เยาวพานิช ศาลเจ้าในเยาวพานิช มีศาลเจ้าหลักเมืองหรือเซี้ยอึ้งกง ตามความเชื่อว่าเทพเจ้าหลักเมืองมีหน้าที่ควบคุมการเข้าออกของดวงวิญญาณ หากมีผู้เสียชีวิตจะต้องมาไหว้เพื่อแจ้งบอกกล่าวเทพหลักเมืองให้ทราบ
เยาวพานิชยังเชื่อมถึงซอยวานิช 1 เป็นถิ่นที่อยู่และร้านค้าของชาวจีน ชาวอินเดีย หากเข้าไปเดินในเยาวพานิชยังพอจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่พอจะหลงเหลือ
ซอยในย่านสำเพ็งและเยาวราชที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานน่าสนใจซอยหนึ่ง ยังพอมีเค้าเหลือให้เดินชม คือ ซอยเยาวพานิช ซอยที่เคยมีทั้งโรงมหรสพ ศาลเจ้า วัดจีน และร้านขายยาจำนวนมาก
คนสำเพ็งสมัยก่อนพอไม่สบายจะเดินมาร้านยาที่เยาวพานิช ศาลเจ้าในเยาวพานิช มีศาลเจ้าหลักเมืองหรือเซี้ยอึ้งกง ตามความเชื่อว่าเทพเจ้าหลักเมืองมีหน้าที่ควบคุมการเข้าออกของดวงวิญญาณ หากมีผู้เสียชีวิตจะต้องมาไหว้เพื่อแจ้งบอกกล่าวเทพหลักเมืองให้ทราบ
เยาวพานิชยังเชื่อมถึงซอยวานิช 1 เป็นถิ่นที่อยู่และร้านค้าของชาวจีน ชาวอินเดีย หากเข้าไปเดินในเยาวพานิชยังพอจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่พอจะหลงเหลือ