เราต่างมีความรับผิดชอบมากมายที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละช่วงวัย จากการบ้านเล็กๆ น้อยๆ สู่การติวสอบ เปเปอร์ ธีสิส ไปจนถึงโปรเจกต์ที่มาพร้อมความกดดันในโลกแห่งการทำงาน แต่สิ่งเร้าทุกวันนี้เพิ่มขึ้นจนสมาธิกระเจิงหาย ทำให้งานที่ควรเสร็จกลับกลายเป็นงานค้าง
ข่าวร้ายคือโลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จที่ทำให้คนปั่นงานเสร็จได้ในพริบตา แต่ข่าวดีคือเราสามารถหาวิธีเพิ่มสมาธิที่เหมาะกับเราได้
และนั่นอาจทำให้เราทำงานง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ข่าวร้ายคือโลกนี้ไม่มีสูตรสำเร็จที่ทำให้คนปั่นงานเสร็จได้ในพริบตา แต่ข่าวดีคือเราสามารถหาวิธีเพิ่มสมาธิที่เหมาะกับเราได้
และนั่นอาจทำให้เราทำงานง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
4 วิธีที่เราชวนให้ลอง
1.เอาโซเชียลมีเดียออกไปให้ห่าง หรือถ้าห้ามใจยากก็ลบไปเลย!
เชื่อว่ายุคนี้แต่ละคนคงมีแพลตฟอร์มออนไลน์ประจำตัวที่เรียกได้ว่าตัวเอง ‘เสพติด’ หลายครั้งเรามักคิดว่ามันเป็นประโยชน์ต่อการทำงาน ใช้หาความรู้บ้าง คลายเครียดบ้าง แต่ความจริงแล้วเมื่อเราต้องการสมาธิในการทำงาน สิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นอุปสรรคตัวดีสำหรับคนที่ใช้เครื่องมือสื่อสารตระกูล แอปเปิล (Apple) สามารถจำกัดเวลาใช้งานในแต่ละแอปพลิเคชันได้ด้วยการตั้งค่าเวลาหน้าจอ (Screen Time) แต่สำหรับ แอนดรอยด์ (Android) อาจยุ่งยากกว่าหน่อยตรงที่ต้องดาวน์โหลดแอปฯ เสริมมาใช้
หรือวิธีที่ง่ายกว่านั้นคือเอาแอปฯ ออกไปเลย! ลองลบแอปฯ เจ้าปัญหาแล้วมาโฟกัสกับโลกจริงให้มากขึ้น ไว้งานเสร็จแล้วค่อยดาวน์โหลดกลับมาใช้ อาจตกข่าวนั่นนี่ไปบ้างแต่ก็คงไม่เสียหายอะไรมากมาย
2.เสียงเรียกสมาธิ
เสียงที่เข้ามาในหูไม่ได้เป็นสิ่งเร้าเสมอไป แต่อาจเป็นตัวช่วยเพิ่มสมาธิให้ทำงานต่อเนื่องได้ยาวๆ บางคนอาจถูกโฉลกกับ ASMR เพลงบรรเลง หรืออาจเป็นเพลงทั่วไปลองค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด เช่น music for concentration หรือ music for studying หรือถ้าใครมีแนวเพลงที่ชอบแล้วฟังได้นานๆ ก็อาจหาเพลยลิสต์แนวนั้นฟังไปเลยก็ได้
3.ฟังเสียงร่างกายตัวเอง หิวก็กิน-ง่วงก็พัก
ลองหาสาเหตุดูว่าเราไม่มีสมาธิทำงานเพราะอะไร บางทีอาจเป็นเพราะเราหิวเกินกว่าจะรวบรวมสติ หรือโหมงานติดกันนานเกินไป อย่าลืมว่าร่างกายของเราก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน หากฝืนเกินไปแทนที่งานจะออกมาเร็วอาจกลายเป็นสมองตื้อ ทำงานช้า จนงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควรถ้าไม่รู้จะแบ่งเวลาทำงาน-พักอย่างไรให้ไม่ย้วยจนงานไม่เดิน อาจลองใช้วิธีจับเวลาโดยทำงาน 25 นาที / พัก 5 นาที เมื่อทำครบ 4 รอบค่อยพักยาว 10 นาที วิธีนี้จะช่วยให้เราโฟกัสกับงานได้โดยไม่ล้าจนเกินไป
4.หาสิ่งแวดล้อมที่ใช่
แต่ละคนมีสถานที่ที่เหมาะกับการทำงานต่างกัน บางคนอาจทำงานได้แค่ที่บ้าน หรือบางคนอาจต้องออกไปร้านกาแฟ ห้องสมุด หรือที่ที่มีคนเดินผ่านไปมาให้ไม่ง่วงเหงาหนึ่งในไอเดียสุดแสบคือ ‘คาเฟ่ปั่นต้นฉบับ’ (Manuscript Writing Café) ในโตเกียว ซึ่งเป็นคาเฟ่ที่ผู้มาใช้บริการต้องตั้งเป้าหมายประจำวัน และต้องทำให้เสร็จก่อนออกจากร้าน! โดยภายในร้านมี Wi-Fi ปลั๊กไฟ และกาแฟดริปแบบไม่อั้น แถมยังเรียกพนักงานให้มาพูดกดดันได้ด้วย
ลองหาดูว่าสถานที่แบบไหนเหมาะกับการทำงานของเรา แล้วเอาตัวเองไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น เมื่อทุกอย่างลงตัวเราก็จะรวบรวมสมาธิได้ง่ายขึ้นและทำงานได้อย่างรวดเร็ว
นอกเหนือจากที่กล่าวมา ยังมีวิธีสร้างสมาธิอีกมากมายให้ได้ลอง หรือบางคนอาจค้นพบวิธีใหม่ๆ ด้วยตัวเองก็ได้ สุดท้ายนี้ขอให้ชาวรักงานทุกคนปั่นงานเสร็จ เดดไลน์ทำร้ายไม่ได้!
