หมดไปแล้วสำหรับปี 2022 ที่ถือว่าทั่วโลกกำลังจะดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่รุนแรงมากๆ ในปี 2022 และเริ่มเบาลงเรื่อยๆ ในช่วงปี 2021 และ 2022
ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา ในหลายๆ ประเทศได้ปลดล็อกมาตรการการควบคุมโรคไปบ้างแล้ว จะมีเพียงบางประเทศเท่านั้นคือยังคุมอยู่ ซึ่งหลายๆ ประเทศก็ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศได้แล้วเพื่อกระตุ่นเศรษฐกิจ
ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวที่แห้งเหี่ยวเพราะโรคร้าย หลายคนวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศนู้นประเทศนี้ โดยมองหาแลนด์มาร์กสำคัญของแต่ละพื้นที่ ซึ่งในตอนนี้ นักท่องเที่ยวไม่เลือกที่จะไปเที่ยวในสถานที่ยอดนิยมกันแล้ว แต่กลับเลือกจากแหล่งที่เที่ยวที่มีความหลากหลายทั้งด้านสถานที่ท่องเที่ยว สภาพแวดล้อม และวัฒนธรรมพื้นที่เสียมากกว่า
และนี่คือ 9 อันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปมากที่สุด โดยอิงจากการใช้จ่ายข้ามพรมแดน
ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา ในหลายๆ ประเทศได้ปลดล็อกมาตรการการควบคุมโรคไปบ้างแล้ว จะมีเพียงบางประเทศเท่านั้นคือยังคุมอยู่ ซึ่งหลายๆ ประเทศก็ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศได้แล้วเพื่อกระตุ่นเศรษฐกิจ
ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวที่แห้งเหี่ยวเพราะโรคร้าย หลายคนวางแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวประเทศนู้นประเทศนี้ โดยมองหาแลนด์มาร์กสำคัญของแต่ละพื้นที่ ซึ่งในตอนนี้ นักท่องเที่ยวไม่เลือกที่จะไปเที่ยวในสถานที่ยอดนิยมกันแล้ว แต่กลับเลือกจากแหล่งที่เที่ยวที่มีความหลากหลายทั้งด้านสถานที่ท่องเที่ยว สภาพแวดล้อม และวัฒนธรรมพื้นที่เสียมากกว่า
และนี่คือ 9 อันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปมากที่สุด โดยอิงจากการใช้จ่ายข้ามพรมแดน
1.กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย (นักท่องเที่ยว 22.78 ล้านคน)
กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นเมืองที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้มาเยือนจากต่างประเทศถึง 22 ล้านคน!ท่ามกลางเสียงรถตุ๊กตุ๊กและกิจกรรมไม่ขาดสาย กรุงเทพฯ คือเมืองที่นักท่องเที่ยวมักจะตระเวนรอบเมืองโดยไร้แผนที่ ถือเป็นอีกหนึ่งสีสันที่นำไปสู่การค้นพบสุดสนุกเสมอ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายในเมืองตามปกติของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และพื้นที่ทันสมัย ก่อนที่จะหันไปทางวัดและศาลเจ้า เดินตามกลิ่นที่หอมกรุ่นไปยังตลาดริมถนนที่มีนับไม่ถ้วนในกรุงเทพฯ อัดแน่นไปด้วยรสชาติที่โดนใจ ทั้งเผ็ด เปรี้ยว หวาน และเค็ม
ในยามค่ำคืน เยาวราชและสุขุมวิทเป็นอีกจุดสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวาซึ่งมีทั้งความเป็นสากลและวัฒนธรรมอีกด้วย
2.ปารีส ประเทศฝรั่งเศส (นักท่องเที่ยว 19.10 ล้านคน)
ปารีสเป็นเมืองที่มีผู้เข้าชมมากเป็นอันดับสองของโลกและเป็นเมืองที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในยุโรป ที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวด้วยอาคารคลาสสิก สะพานโค้งแบบปารีส และถนนที่สง่างาม ล่องเรือไปตามแม่น้ำแซนเพื่อชมอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเมือง หรือล่องเรือไปตามย่านต่างๆ เพื่อชมหอไอเฟล นอเทรอดาม พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ และอีกมากมายและในฐานะเมืองหลวงแห่งศิลปะและแฟชั่นที่เป็นที่ยอมรับ จะพลาดไม่ได้หากไม่ได้ชมคอลเลกชันของ Musee d’Orsay และ Centre Pompidou ร้านหนังสือบรรยากาศดี ร้านขายของวินเทจ และตลาดนัดสร้างชื่อ ข้างห้างสรรพสินค้าสไตล์อาร์ตนูโว เช่น Galeries Lafayette
3.ลอนดอน ประเทศอังกฤษ (นักท่องเที่ยว 19.09 ล้านคน)
ลอนดอนเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก! สถาปัตยกรรมแบบกอธิคในลอนดอนเข้ากันได้ดีกับนวัตกรรมใหม่ๆ (เช่น Shard, Tate Modern และ Sky Garden) ซึ่งนำเสนอย่านประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ได้อย่างดีเพลิดเพลินกับเสน่ห์ชวนหลงใหล กับบรรยากาศร้านเหล้าและย่านเวสต์เอนด์ทั้งหมด ประทับใจแน่นอนกับศิลปะร่วมสมัย โรงละคร และวรรณกรรมของลอนดอน และต้องติดใจกับสวนสาธารณะสีเขียวและเมืองที่กว้างใหญ่ ที่จะพาเดินผ่านประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง
4.ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (นักท่องเที่ยว 15.93 ล้านคน)
ดูไบผงาดขึ้นมาจากทะเลทรายด้วยความรุ่งเรืองแห่งอนาคต อาคารสูงตระหง่านเหนือเส้นขอบฟ้า เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และอาคารสำนักงานที่ทันสมัยชีวิตในเมืองถูกกำหนดด้วยการช้อปปิ้งแบบสบายๆ ลานจัดแสดง ศาสนสถานอันเงียบสงบ และลานบนชั้นดาดฟ้าที่สวยงาม
ที่ขอบเมืองมีชายหาด เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติซึ่งตรงกันข้ามกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นและสวนพฤกษศาสตร์
และแน่นอน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์การขี่อูฐ หรือขี่รถสี่ล้อบินลงเนินทรายได้อีดด้วย
5.สิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ (นักท่องเที่ยว 14.67 ล้านคน)
สิงคโปร์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความคิดที่สร้างสรรค์ เป็นเมืองที่ออกแบบโดยคำนึงถึงอนาคต เดินทางข้ามจากสถานที่ท่องเที่ยวไปยังอีกที่หนึ่งด้วยระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเดินทางไปได้ตั้งแต่ย่านลิตเติ้ลอินเดียไปจนถึงไชน่าทาวน์ ที่นี่มีตั้งแต่ร้านค้าหาบเร่ ตลาดริมทางไปจนถึงอาหารรสเลิศ มากล้นไปด้วยอาหารนานาชาติจนเต็มอิ่ม สิงคโปร์คือเมืองที่นักชิมต้องมาเยือน6.กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย (นักท่องเที่ยว 13.79 ล้านคน)
เปิดประสาทสัมผัสดูดซับพลังอันมีชีวิตชีวาของกัวลาลัมเปอร์! ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลายของชุมชนชาวมาเลย์ จีน และอินเดีย เมืองนี้จึงเป็นที่ตั้งของมัสยิดและวัดวาอารามที่โดดเด่นจากตึกระฟ้าที่ส่องแสงระยิบระยับการเฉลิมฉลองประวัติศาสตร์และความทันสมัยนี้ยังแสดงให้เห็นในห้างสรรพสินค้าแฟชั่นชั้นสูงที่ตัดกันและตลาดริมถนนที่มีชีวิตชีวา
7.นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา (นักท่องเที่ยว 13.60 ล้านคน)
นิวยอร์กหรือเมืองในฝัน! ตามการออกแบบผังเมืองที่ยอดเยี่ยม เดินไปตามถนนเพื่อชมหอศิลป์ส่วนตัวรวมถึงหอศิลป์ชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Met, MoMA และ Guggenhiem ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ร้านหนังสืออินดี้ ไชน่าทาวน์ที่สว่างไสว ร้านบูติกระดับไฮเอนด์และคาเฟ่ฮิปสเตอร์นำไปสู่อาคารสำนักงานขนาดใหญ่และ Central Park ขนาดใหญ่เพลิดเพลินกับการแสดงอันหรูหราในบรอดเวย์หรือรับประทานอาหารในร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้าและร้านอาหารตามสั่ง นิวยอร์กคือมหานครที่จะทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจตลอดเวลา
8.อิสตันบูล ประเทศตุรกี (นักท่องเที่ยว 13.40 ล้านคน)
อิสตันบูลเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ได้เห็นอาณาจักรปกครองมากมาย สืบย้อนไปถึงกรีก โรมัน เวนิส และสุดท้ายคือออตโตมาน เมืองนี้ประดับประดาด้วยโบสถ์ไบแซนไทน์และสุเหร่าของจักรพรรดิช่วงทศวรรษที่ผ่านมามียอดแหลมสูงในเส้นขอบฟ้า เนื่องจากแกลเลอรี พิพิธภัณฑ์ และอาคารสำนักงานสูงเติบโตควบคู่ไปกับอาคารเก่า ผู้เข้าชมยังชื่นชมความหลากหลายของอาหารของอิสตันบูลซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างรสชาติของเอเชียและยุโรป ทั้งเคบับและเมซเซ่ในท้องถิ่นคือเป้าหมายที่ต้องลอง
9.โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (นักท่องเที่ยว 12.93 ล้านคน)
หากมีเมืองที่อยากอาศัยอยู่ในอนาคต โตเกียวนี่แหละ! ทั้งถนนที่สะอาดสะอ้าน ตึกระฟ้าสีโครเมี่ยม และฝูงชนที่พลุกพล่านตลอดเวลาทำให้โตเกียวเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและเทคโนโลยีที่สะดวกสบายกำหนดมาตรฐานการครองชีพที่สูงอย่างไม่น่าเชื่อ ท่ามกลางป้ายไฟนีออนและเขตเมืองที่ฉูดฉาดเป็นทั้งพื้นที่สีเขียวและจิตวิญญาณ โตเกียวรำลึกถึงอดีตอย่างลึกซึ้ง
ลองมาเยี่ยมชมถนนสไตล์เอโดะของยาเนะเซ็นและศาลเจ้าเมจิอันเงียบสงบ แต่ถ้าหากต้องการสัมผัสกับโตเกียวจริงๆ ให้มองไปที่คาเฟ่ที่โดดเด่นและแฟชั่นที่สะดุดตา ค้นหาร้านอาหารรอบเมืองในย่านที่เงียบสงบ และศาลเจ้าที่ซ่อนอยู่ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่หาไม่ได้ที่ไหน นอกจากโตเกียว