
ถ้าจะถามหาสถานที่ที่จัดงานแสดงนิทรรศการต่างๆ หลายคนน่าจะนึกถึง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ที่เพิ่งจะมีการรีโนเวทใหม่ออกมาให้ดีกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม และสะดวกกว่าเดิม โดยงานที่คนส่วนมากคุ้นหูก็จะมีอย่างเช่น งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ, งานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก, งานไทยเที่ยวไทย, งานแสดงเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน และ งาน Thailand Mobile Expo เป็นต้น
และนอกเหนือจากงานแสดงต่างๆ แล้ว ในศูนย์สิริกิติ์ฯ ก็ยังมีร้านอาหารอีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเราทีมงาน SPACEBAR ได้มีโอกาสไปภัตตาคารอาหารยุโรปแห่งแรกของที่นี่อย่าง Vantage Point (แวนทิจ พ้อยท์) ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารยุโรปชั้นเลิศ ทั้งของคาวและของหวาน ผ่านรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบคุณภาพสูง นำเข้าจากต่างประเทศ ร่วมกับการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันจากทีมเชฟมากประสบการณ์ด้านอาหารยุโรป ท่ามกลางวิวสุดงามแสนโรแมนติกของ สวนเบญจกิติ แบบพาโนรามา
และนอกเหนือจากงานแสดงต่างๆ แล้ว ในศูนย์สิริกิติ์ฯ ก็ยังมีร้านอาหารอีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเราทีมงาน SPACEBAR ได้มีโอกาสไปภัตตาคารอาหารยุโรปแห่งแรกของที่นี่อย่าง Vantage Point (แวนทิจ พ้อยท์) ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารยุโรปชั้นเลิศ ทั้งของคาวและของหวาน ผ่านรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ที่รังสรรค์มาจากวัตถุดิบคุณภาพสูง นำเข้าจากต่างประเทศ ร่วมกับการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันจากทีมเชฟมากประสบการณ์ด้านอาหารยุโรป ท่ามกลางวิวสุดงามแสนโรแมนติกของ สวนเบญจกิติ แบบพาโนรามา

สำหรับการตกแต่งของร้านจะเน้นใช้บรรยากาศที่มีชีวิตชีวา อิงต้นแบบมาจาก ‘Mercato Centrale’ (เมอคาโต เซนทราเล) ที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ให้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ในย่านที่เต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ และบรรยากาศดี สำหรับพื้นที่ให้บริการในร้านจะแบ่งออกเป็นพื้นที่อินดอร์ที่มี 2 โซน ก็คือ โซน ‘The Park’ ที่จะตกแต่งเน้นโทนสีเขียวเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ กับ โซน ‘The Lake’ ที่เน้นโทนสีฟ้าให้อารมณ์เหมือนนั่งทานอาหารอยู่บริเวณทะเลสาบ และเพิ่มความมีชีวิตชีวาด้วยครัวเปิดบริเวณกลางร้าน ที่จะทำให้เราได้เห็นเชฟรังสรรค์อาหารกันแบบชัดเจน

แล้วก็มีพื้นที่เอ้าท์ดอร์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่อยากได้บรรยากาศยามเย็นและยามค่ำคืนสวยๆ เพราะคุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวสวนป่า และบึงน้ำขนาดใหญ่ ของสวนเบญจกิติ แบบพานาโรมา อย่างเต็มตาด้วย ปิดท้ายสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ทางร้านยังมีห้องรับประมานอาหารส่วนตัวถึง 4 ห้อง จุได้ห้องละ 10 คน โดยแต่ละห้องสามารถเปิดเชื่อมถึงกันได้เป็น 1 ห้องใหญ่ ที่จะทำให้รองรับคนได้มากถึง 40 คนเลยทีเดียว
ส่วนอาหารจะมีให้บริการทั้งในแบบ อะ ลา คาร์ท ที่ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 น. – 21.00 น. ส่วนรูปแบบ บุฟเฟต์ ราคา 998++ จะมีให้บริการวันจันทร์ - วันศุกร์ รอบเวลา 17.00 น. – 20.00 น. และวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2 รอบเวลา ก็คือ 11.00 น. – 14.00 น. และ 17.00 น. – 20.00 น.
ส่วนอาหารจะมีให้บริการทั้งในแบบ อะ ลา คาร์ท ที่ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 น. – 21.00 น. ส่วนรูปแบบ บุฟเฟต์ ราคา 998++ จะมีให้บริการวันจันทร์ - วันศุกร์ รอบเวลา 17.00 น. – 20.00 น. และวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2 รอบเวลา ก็คือ 11.00 น. – 14.00 น. และ 17.00 น. – 20.00 น.

อ่ะ ถึงเวลาไปทานอาหารกันแล้ว พวกเราได้ลองทานไปทั้งหมด 10 เมนู ทั้งคาวและหวาน เริ่มตั้งแต่ ไก่โลลี่ป๊อป, ซุปฟักทองและแครอท, สลัดบีทรูท, แคปเปลลินี ผัดพริกแห้งเบคอน, สเต๊กปลาแซลมอน, หมูสามชั้นรมควันซอสไวน์แดง, พิซซ่า 4 ชีส, ค็อกเทลกุ้ง, ช็อกโกแลตมูส, ชีสเค้ก บวกกับเครื่องดื่มเป็นม็อคเทลอีก 2 อย่าง คือ Green Floral และ VP Sling


แต่เมนูที่เราอยากจะแนะนำว่าไปแล้วต้องลองเลยก็คือ สลัดบีทรูท และ แคปเปลลินี ผัดพริกแห้งเบคอน สองเมนูเรียกน้ำย่อย โดยตัวสลัดจะให้ความรู้สึกสดชื่น เพราะในจานจะมีทั้ง บีทรูท ส้ม และ ชีส ที่เมื่อทานด้วยกันก็คือรีเฟรชชิ่งสุดๆ ส่วนแคปเปลลินี ก็ผัดได้รสชาติเผ็ดถึงใจ

ต่อด้วยอาหารจานหลักที่เราชอบคือ หมูสามชั้นรมควันซอสไวน์แดง ที่บอกเลยว่าตัวหมูสามชั้นคือนุ่มมากๆๆ กับซอสไวน์แดงที่เข้ากันอย่างดี และทีเด็ดอีกอย่างในจานนี้ก็คือ มันบด ที่เนื้อเนียนนุ่มละมุนใจมาก แล้วก็ยังมี สเต๊กปลาแซลมอน อีกเมนูที่อร่อยไม่แพ้กันเลย


ปิดท้ายด้วยของหวานสองเมนูอย่าง ช็อกโกแลตมูส และ ชีสเค้ก แต่เมนูที่พวกเราเห็นตรงกันที่สุดว่ายังไงก็ต้องสั่งเลยก็คือ ชีสเค้ก เพราะเมื่อกินเข้าไปแล้วคุณจะได้สัมผัสกับรสของชีสแบบชัดๆ เต็มๆ บวกกับเนื้อเค้กเนียนๆ ที่เข้ากันมาก จนพวกเราต้องไปเอามาเบิ้ลกันอีกหลายชิ้น

นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนในเมนูบุฟเฟต์ของร้านอาหารยุโรป Vantage Point เท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วเขามีเมนูให้เลือกมากถึง 60 เมนูกันเลยทีเดียว แถมเอาจริงๆ ราคาก็ไม่ได้หนักมาก ยังอยู่ในเรทที่เอื้อมถึงได้ที่ 998++ บอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้ม จุใจทั้งอาหารทั้งวิวกันแบบฟินๆ สำหรับใครที่สนใจก็แวะมาได้เลยที่ชั้น 2 ของศูนย์การประชุมแห่งชาติศิริกิติ์ รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ