เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจําหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทย นำทีมสื่อมวลชนร่วมทริป ‘BYD RÊVER SOCIAL CLUB’ ทริป 2 วัน 1 คืนสุดเอ็กซ์คลูซีฟบนเส้นทางสายกรุงเทพฯ–ชลบุรี โดยออกสตาร์ทจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นยอดนิยม 3 รุ่น ของ BYD อย่าง New BYD ATTO 3 รุ่นปี 2024, BYD SEAL และ BYD DOLPHIN ที่มอบประสบการณ์ขับขี่แสนสะดวกสบายในทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งนี้ด้วย
ไฮไลท์หลักอย่างแรกของทริป ‘BYD RÊVER SOCIAL CLUB’ ครั้งนี้ก็คือ ทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในบริเวณงานได้นำเทคโนโลยีระบบ VtoL (Vehicle to Load) หรือการดึงพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่รถยนต์ EV มาใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ โดยสามารถปล่อยกระแสไฟได้สูงสุดถึง 2,000 วัตต์ 10 แอมแปร์ และสามารถใช้งานได้จนแบตเตอรี่รถยนต์เหลือ 15% (SOC) แล้วระบบจะตัดไฟอัตโนมัติเพื่อให้รถยังคงเหลือกำลังไฟฟ้าในการขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งระบบนี้มีอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นของ BYD โดยภายในงานได้นำไฟฟ้าจากรถมาใช้ทั้งส่วนของซุ้มเกมและเวทีมินิคอนเสิร์ต เรียกว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสุดๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดพิเศษจาก realme ที่นำสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งกำลังจะเปิดตัวในวันที่ 20 มิถุนายนนี้อย่าง realme GT 6 และ realme GT 6T มาให้ทีมสื่อมวลชนได้ลองใช้งานกันด้วย
นายประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ กล่าวว่า “ทริป BYD RÊVER SOCIAL CLUB ครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์กิจกรรมปาร์ตี้ที่ไม่เพียงแค่สนุกเท่านั้น แต่ยังเป็นปาร์ตี้ที่รักษาสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ อีกทั้งเป็นการเน้นย้ำให้เห็นว่าเราสามารถนำเทคโนโลยีและพลังงานรูปแบบใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการลดมลภาวะ และเราพร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น NEV Nation อย่างแท้จริงในอนาคต”
ไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดของทริปนี้ก็คือการที่สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำจาก BYD ถึง 4 รุ่นก่อนใครที่สนาม พีระ เซอร์กิต โดยรุ่นแรกเป็น BYD SEALION 7 รถยนต์อเนกประสงค์ C-SUV สไตล์ SPORT COUPE หนึ่งใน Ocean Series อันเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์การขับขี่ทุกสถานการณ์ ที่มาพร้อมกับกำลังสูงสุดถึง 390 กิโลวัตต์ พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 4.5 วินาที ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 82.5 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และทำระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าได้ถึง 540 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
สำหรับรุ่นที่สองคือ BYD SEAGULL รถยนต์ ECO ขนาดกะทัดรัดดีไซน์โฉบเฉี่ยวที่มาพร้อมพื้นที่โดยสารภายในที่กว้างขวาง ให้กำลังสูงสุด 55 กิโลวัตต์ มาพร้อมความจุแบตเตอรี่สูงสุด 38.88 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และทำระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าได้ถึง 400 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
ต่อกันที่รุ่นที่สามกับ BYD M6 รถครอบครัว MPV อเนกประสงค์ขนาด 6 ที่นั่ง ที่ผสมผสานความเรียบง่ายและทันสมัยไว้อย่างลงตัว ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ มาพร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 8.6 วินาที ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 71.8 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และทำระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าได้ถึง 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
ปิดท้ายด้วย DENZA D9 รถตู้ไฟฟ้าเอนกประสงค์ขนาดใหญ่สำหรับผู้บริหารยุคใหม่ โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มอบประสบการณ์การเดินทางอันหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกำลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์ พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 6.9 วินาที ความจุแบตเตอรี่สูงสุด 103 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง และทำระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าได้ถึง 580 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
แน่นอนว่าสำหรับรถรุ่นใหม่ทั้ง 4 รุ่นของ BYD จะต้องมาพร้อมกับการออกแบบดีไซน์ที่โดดเด่นและทันสมัย บวกกับเทคโนโลยีสุดสะดวกสบายที่จะมอบให้กับผู้ขับขี่ทุกคน รวมไปถึงการเพลิดเพลินกับประสบการณ์ความบันเทิงก็มีมาให้อย่างครบครัน และปิดท้ายด้วยความปลอดภัยแบบขั้นสูงที่จะให้ผู้ใช้งานทุกคนมั่นใจ ปลอดภัย ไร้กังวลได้ตลอดเส้นทางที่ใช้งาน และก็แว่วๆ มาแล้วว่า เตรียมตัวมีกำหนดการเปิดตัวในไทยช่วงปลายปีนี้ด้วย ส่วนใครที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมทั้ง 3 รุ่นของ BYD อย่าง ATTO 3, SEAL และ DOLPHIN ก็เข้าไปดูได้เลยที่เว็บไซต์ เรเว่ ออโตโมทีฟ และทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ เรเว่ หรือสนใจทดลองขับก็สามารถไปติดต่อได้ที่ศูนย์บริการ BYD ใกล้บ้านได้เลย
