ช่วงนี้ที่ใครๆ ก็กำลังรณรงค์ในเรื่องภาวะโลกร้อน ถึงแม้ว่าอาจจะสายเกินไปที่จะช่วยให้โลกเย็นลง แต่การที่เราเริ่มช่วยกันรักษ์โลกในตอนนี้ก็ยังดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลย และปล่อยให้อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทะลุถึงครึ่งจุดเดือด
รื้อฟื้นความทรงจำในวัยเด็กกันก่อน ในสมัยที่ยังเรียนอยู่ชั้นประถมและมัธยม คุณครูวิชาวิทยาศาสตร์จะสอนเสมอเกี่ยวกับเรื่องก๊าซเรือนกระจก ก๊าซตัวร้ายที่ทำให้โลกของเราไม่สามารถระบายความร้อนออกไปนอกชั้นบรรยากาศได้ โดยเจ้าก๊าซตัวร้ายนี้เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ทั่วโลก
ก๊าซเรือนกระจก มีส่วนประกอบ 3 ชนิดหลักๆ คือ โอโซน มีเทน และ คาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์นี้ออกมาจากร่างกายของมนุษย์รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในช่วงที่มีการรณรงค์เรื่องโลกร้อนกลับมีการรณรงค์แค่หยุดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ไม่มีใครสนใจที่จะยับยั้งก๊าซมีเทนเลยทั้งๆ ที่เป็นอันตรายไม่ต่างกัน
เคยมีข้อมูลที่ได้รับการเผยแพร่ว่า การ ‘ตด’ เป็นการปล่อยก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายออกมาสู่โลกภายนอกและลอยตัวสู่ชั้นบรรยากาศโลก ยิ่งถ้ากินอาหารที่มีส่วนประกอบเป็นพืชที่มีไฟเบอร์สูงๆ เข้าไปจำนวนมาก เวลาผายลมก็ยิ่งปล่อยก๊าซมีเทนออกมามากเท่านั้น
ก่อนหน้านี้มีการใช้วัคซีนเพื่อลดก๊าซมีเทนจาก ‘ตดวัว’ ออกมาใช้ในส่วนของปศุสัตว์ เนื่องจากว่า วัวสามารถปล่อยปริมาณก๊าซมีเทนได้ 250–500 ลิตรต่อวัน แต่ถ้าเทียบกับคนแล้ว คนสามารถปล่อยปริมาณก๊าซมีเทนได้ 1 ลิตรต่อวันเท่านั้น
ถึงแม้ว่าคนจะปล่อยก๊าซมีเทนได้น้อยกว่า 500% เมื่อเทียบกับวัว แต่ก็เถียงไม่ได้ว่าตดของเราก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โลกร้อนขึ้น แต่ถ้าเราไม่ตดเราก็จะอึดอัดและอาจเกิดอาการท้องอืดได้... ทำอย่างไรดี จะอั้นก็ไม่ไหว แต่จะปล่อยออกไปก็อาจทำลายโลก...
ขอบคุณข้อมูลจาก medium, ndtv, everand