‘บ้านปู’ โชว์โมเดลจัดการขยะฟื้นฟูแม่น้ำบางปะกง ลดผลกระทบระบบนิเวศ

24 ก.พ. 2568 - 07:59

  • เชื่อหรือไม่? มีขยะจากแม่น้ำสายหลัก เช่น บางปะกง เจ้าพระยา ไหลลงสู่อ่าวไทยสูงถึง 2,500 ตันต่อปี กระทบทั้งระบบนิเวศ

  • สำรวจ 6 มิติโมเดลจัดการขยะทะเล ‘พลังบ้านปู ฟื้นฟูทะเลไทย’ ช่วยลดขยะจากภาคครัวเรือนได้มากถึง 40%

ecoeyes-banpu-shows-waste-management-model-for-restoring-bangpakong-river-SPACEBAR-Hero.jpg

ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจไทย รวมถึงปากท้องของคนริมน้ำและชายฝั่ง ต่างพึ่งพาทะเลในด้านประมงและการท่องเที่ยวมาอย่างยาวนาน ทว่า ประเทศไทยกลับติดอันดับต้นๆ ว่าเป็นประเทศที่มีขยะไหลลงทะเลมากที่สุด โดยข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า ในปี 2565 ขยะจากแม่น้ำสายหลัก เช่น บางปะกง เจ้าพระยา ไหลลงสู่อ่าวไทยกว่า 1,000 ตัน และเคยสูงถึง 2,500 ตัน ในปี 2561

ecoeyes-banpu-shows-waste-management-model-for-restoring-bangpakong-river-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: ขยะที่ลอยอยู่ในแม่น้ำอาจไหลลงสู่ทะเลในที่สุด

การจัดการขยะทะเลและความร่วมมือของภาคเอกชน

ในปี 2565 บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในภาคีเครือข่าย “โครงการความร่วมมือในการจัดการขยะทะเลโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในบริเวณปากแม่น้ำ” นำโดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และบริษัทเอกชน โดยต่อมาได้ริเริ่มโครงการ “พลังบ้านปู ฟื้นฟูทะเลไทย” เพื่อดำเนินงานภายใต้โครงการความร่วมมือฯ และสนับสนุนแผนแม่บทการจัดการขยะทะเลระดับชาติ มีพื้นที่ดำเนินงานที่ลุ่มน้ำบางปะกงตอนล่าง ประกอบด้วย 3 อำเภอ 14 ตำบล ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบ้านโพธิ์ และอำเภอบางปะกง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา มีระยะเวลาดำเนินงานระหว่างปี 2566-2569

ecoeyes-banpu-shows-waste-management-model-for-restoring-bangpakong-river-SPACEBAR-Photo V01.jpg
Photo: นายนริศ นิลประสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

พบปัญหาขยะสะสมในพื้นที่ท่าข้ามกว่า 6,000 ตันต่อปี กระทบระบบนิเวศ

นายนริศ นิลประสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เผยว่า ที่ผ่านมาปัญหาขยะมูลฝอยในพื้นที่เฉลี่ย 3,000-6,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 500 ตันต่อเดือน ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ วิถีชีวิตชุมชน รวมถึงทำให้คลองสาขาแม่น้ำบางปะกงเน่าเสีย มีค่าความต้องการออกซิเจนทางชีวเคมี หรือ BOD (Biochemical Oxygen Demand) สูง แม้จะมีการรณรงค์คัดแยกขยะและจัดตั้งธนาคารขยะ แต่ยังขาดแคลนทรัพยากรบุคคลและความร่วมมือที่ยังไม่ครอบคลุมทุกส่วน ส่งผลให้ยังเกิดปัญหาขยะและน้ำเน่าเสียเรื้อรัง

6 มิติจัดการขยะทะเลช่วยลดขยะครัวเรือน 40%

จากความร่วมมือ พลังบ้านปู ฟื้นฟูทะเลไทย ช่วยลดขยะครัวเรือนเทศบาลตำบลท่าข้าม 40% โดยในปี 2565 ตำบลท่าข้ามได้ร่วมทำงานกับบ้านปู ที่นำโมเดลการจัดการขยะแบบมีส่วนร่วมเข้ามาปรับใช้ในพื้นที่ สร้างเครือข่ายชุมชนที่แข็งแกร่ง และมีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ฉะเชิงเทราให้เป็นต้นแบบการลดปริมาณขยะทะเล ผ่านโมเดลจัดการขยะทะเล 6 มิติ ดังนี้

ecoeyes-banpu-shows-waste-management-model-for-restoring-bangpakong-river-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: การจัดการขยะทะเลได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน

มิติที่ 1 การมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้อง หัวใจสำคัญคือการทำงานร่วมกันระหว่างบ้านปูกับผู้นำในพื้นที่ การสนับสนุนของผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาล และ อบต. รวมไปถึงผู้นำชุมชน อาสาสมัคร และชาวบ้านในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือตั้งแต่เริ่มวางแผน การดำเนินงาน ติดตาม ประเมินผลเพื่อเพิ่มศักยภาพและขยายขอบเขตการจัดการขยะ ซึ่งบ้านปูทำหน้าที่ประสานงาน ให้คำปรึกษาและสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น

มิติที่ 2 การจัดการขยะต้นทาง ส่งเสริมความรู้ ด้านการคัดแยกขยะในครัวเรือนให้กับชุมชน และวิธี ‘เปลี่ยนขยะเป็นเงิน’ ผ่านการจัดตั้งโครงการธนาคารขยะ ปัจจุบันสามารถลดปริมาณขยะและโดยนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้แล้วกว่า 4.5 ตัน

 มิติที่ 3 การเก็บกู้ขยะในแหล่งน้ำและการจัดการ ติดตั้งอุปกรณ์ดักขยะ การเก็บกู้ขยะ รวมถึงจัดการขยะหลังเก็บกู้ ปัจจุบันบ้านปูได้ติดตั้งทุ่นดักขยะใน 5 คลองสาขาของแม่น้ำบางปะกงไปแล้ว 7 จุด ได้แก่ คลองลัด คลองตาสาย เทศบาลตำบลท่าข้าม คลองบางพระ คลองนาคำแพน อบต.บางพระ คลองใหม่ศรีเจริญ คลองบางพระ อบต.โสธร รวมถึงจัดกิจกรรมให้พนักงานบ้านปูจิตอาสาไปช่วยเก็บขยะริมแม่น้ำบางปะกงร่วมกับชุมชนในพื้นที่ โครงการฯ สามารถเก็บกู้ขยะได้รวม 5.7 ตัน (4 ตันจากทุ่นดักขยะ และ 1.7 ตันจากการเก็บขยะริมแม่น้ำบางปะกง)

ecoeyes-banpu-shows-waste-management-model-for-restoring-bangpakong-river-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: การสร้างความตระหนักรู้ให้กับเยาวชน ปลูกฝังแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่รุ่นเยาว์ มีส่วนให้การจัดการขยะได้ผลสำเร็จมากขึ้น

มิติที่ 4 การสร้างความตระหนัก บ้านปูจัดศึกษาดูงานให้กับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชน จาก 6 ตำบล ของอำเภอบางปะกง และ อำเภอเมือง ที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโมเดลการจัดการขยะ ไปเรียนรู้วิธีจัดการขยะทะเลต้นแบบที่จังหวัดระยอง และจัดกิจกรรมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาขยะทะเลและการจัดการขยะอย่างถูกวิธีกับชุมชน เช่น กิจกรรม “การจัดการขยะครัวเรือนและขยะทะเล” กับผู้นำชุมชน ต.ท่าสะอ้าน โดยความร่วมมือกับ อบต. ท่าสะอ้านและศูนย์วิจัยฯ ทช. ทสจ.ฉะเชิงเทรา และกิจกรรม “การเดินทางของขยะทะเล” กับนักเรียนโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เพื่อปลูกฝังแนวคิดอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่รุ่นเยาว์ 

มิติที่ 5 การบริหารจัดการข้อมูล การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณและประเภทของขยะที่ได้จากธนาคารขยะ และปริมาณขยะที่เก็บกู้ได้จากทุ่นดักขยะ เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนและพัฒนาการทำงานของโครงการฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีแผนพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อให้ชุมชนสามารถแจ้งปัญหาขยะและติดตามข้อมูลต่างๆ ในพื้นที่ได้

ecoeyes-banpu-shows-waste-management-model-for-restoring-bangpakong-river-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: โครงการ “พลังบ้านปู ฟื้นฟูทะเลไทย”

มิติที่ 6 การสร้างเครือข่าย เชื่อมโยงทุกความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนและนำองค์ความรู้มาปรับใช้ ซึ่งเป็นการขยายเครือข่ายระหว่างคณะทำงานในแต่ละพื้นที่ ที่มุ่งมั่นสร้างพลังในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ผลจากการดำเนินงานที่ครอบคลุมทั้ง 6 ทุกมิติ ทำให้พื้นที่ปากแม่น้ำบางปะกง ในส่วนบริเวณตำบลท่าข้ามเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นผลชัดเจน โดยปริมาณขยะลดลง 40% จาก 500 ตันต่อเดือน เหลือประมาณ 300 ตันต่อเดือนในปี 2566

นวัตกรรมกับแผนการจัดการขยะทะเล

“จากผลสำเร็จของโครงการตลอด 2 ปีที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดความร่วมมือของผู้นำส่วนท้องถิ่นเจ้าหน้าที่และชุมชนในพื้นที่ ที่จริงจังกับการจัดการขยะ ในส่วนของบ้านปู เรามีแผนที่จะขยายโมเดลจัดการขยะให้ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายทั้ง 3 อำเภอ 14 ตำบลริมแม่น้ำบางปะกง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา และนำนวัตกรรมที่เหมาะกับพื้นที่มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะ เช่น การติดตั้งนวัตกรรมกล่องดักขยะ หรือ Trash Sweeper สามารถวางในลำคลองและแม่น้ำที่มีเรือสัญจรผ่านที่ไม่สามารถวางทุ่นตาข่ายได้ และสามารถเข้าไปเก็บกู้ขยะได้อย่างสะดวก เพื่อสกัดกั้นขยะไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล ซึ่งคาดว่าจะนำลงใช้งานจริงได้ในปี 2568”

นายสุทธิโรจน์ มงคลสินพงศ์ คณะทำงานโครงการพลังบ้านปู ฟื้นฟูทะเลไทย บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าว

ทั้งนี้ ต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญและลงมือทำจริงในพื้นที่ของเรา การเข้ามาของบ้านปูไม่เพียงช่วยสนับสนุนเครื่องมือในการจัดการขยะ แต่ยังมอบองค์ความรู้ให้คนในชุมชนได้ ผมเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบที่ดี โดยทางชุมชนเองก็ยินดีที่จะเรียนรู้และนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้เพื่อการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นายนริศ กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์