ฮาวทูกู้โลกรวน - วิธีที่ 2: เป็นสัตว์กินพืช (และ 'ตัวกินไก่')

28 ธ.ค. 2567 - 02:00

  • กว่าจะได้ “สเต๊ก” 1 จาน ต้องเผาผลาญทรัพยากร ทั้งดิน น้ำ และปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปเท่าไหร่

  • Our World in Data เผยวัตถุดิบทิ้งรอยคาร์บอนฟุตพริ้นมากสุด 10 อันดับแรกของโลก เนื้อวัว, ดาร์กช็อกโกแลต, เนื้อแกะ Top 3 ทำโลกร้อน

  • ในขณะที่ตัวเลือกอย่าง “ไก่” และ “ผลไม้ตระกูลส้ม” สร้างคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยกว่า

ecoeyes-how-to-heal-the-planet-sustainable-food-2-SPACEBAR-Hero.jpg

ฮาวทูกู้โลกรวน ฉบับพูดง่าย ทำยาก

วิธีที่ 2 : เป็นสัตว์กินพืช (และ 'ตัวกินไก่')

เมื่ออุตสาหกรรมปศุสัตว์ โดยเฉพาะเนื้อวัวแสนอร่อย ปล่อยคาร์บอนฯ และเขมือบพื้นที่ป่ามหาศาล

แนะนำ : กินพืช ผัก ผลไม้ และไก่ ที่เป็นอาหาร Low Carbon

ecoeyes-how-to-heal-the-planet-sustainable-food-2-SPACEBAR-Photo01.jpg

WHAT (เกิดอะไรขึ้นอ่ะ?)

เรื่องที่หลายคนไม่รู้ ก็คือเบื้องลึกของอาหารจานโปรดที่เรากินทุกวัน มันมาจากขั้นตอนยิบย่อยที่ล้วนปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดช่วงวัฏจักร (Life Cycle Assessment) ลองคิดว่ากว่าจะได้ “สเต๊ก” หรือ “สลัด” 1 จาน มนุษย์เราต้องผลาญทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งดิน น้ำ และปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปเท่าไหร่ และแบบไหนที่ก่อให้เกิดผลเสียมากกว่า

ecoeyes-how-to-heal-the-planet-sustainable-food-2-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: อุตสาหกรรมปศุสัตว์ส่งผลกระทบกับโลกอย่างร้ายแรง ทั้งทางตรงและทางอ้อม

WHY (ทำไมโลกร้อนล่ะ, เกี่ยวไร?)

อุตสาหกรรมปศุสัตว์ส่งผลกับโลกอย่างแรง ทั้งทางตรง คือปล่อยก๊าซมีเทน (CH4) คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ สู่ชั้นบรรยากาศ 

ส่วนทางอ้อม คือการใช้ที่ดินเพื่อการปศุสัตว์ นั่นหมายถึงพื้นที่ของป่าจะมีน้อยลง ต้นไม้ที่เคยช่วยดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ให้ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศก็ลดลง ขณะที่ปุ๋ยเคมีที่ใช้ในการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ ผลิตก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ยังไม่นับรวมการแปรรูปอาหาร รวมไปถึงการขนส่ง...นี่ก็ปาไปเยอะแล้ว

แถมมีความตลกร้าย อย่างการตด เรอ และของเสียจากตัวสัตว์ที่ปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งมีศักยภาพทำให้โลกร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 กว่าเท่า แม้ในปัจจุบันมีวิธีการผลิตเนื้อหมูแบบออร์แกนิกที่สุด ก็ยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าพืชถึง 8 เท่า!! 

HOW (ทำอย่างไรล่ะทีนี้)

หนทางสู่นิพพานของเรื่องนี้ ยากแท้หยั่งถึง จึงถูกบรรจุลงในฮาวทูกู้โลกรวน ฉบับพูดง่าย ทำยาก“วิธีที่ 2” โดยแนะนำให้เลือกกินอาหารคาร์บอนต่ำ (Low Carbon) หรือผลิตภัณฑ์ที่จำกัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดช่วงวัฏจักร (Life Cycle Assessment)

ecoeyes-how-to-heal-the-planet-sustainable-food-2-SPACEBAR-Photo03.jpg

ข้อมูลของ Our World in Data เผยวัตถุดิบอาหารที่เกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากที่สุด 10 อันดับแรกของโลก คิดจากปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า : kgCO2-eq) ที่ถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศต่อการผลิตวัตถุดิบ 1 กิโลกรัม ได้แก่  

  1. เนื้อวัว (จากฟาร์มโคเนื้อ) 99.48
  2. ดาร์กช็อกโกแลต 46.65
  3. เนื้อแกะ 39.72
  4. เนื้อวัว (จากฟาร์มโคนม) 33.3
  5. กาแฟ 28.53
  6. กุ้ง (จากฟาร์ม) 26.87
  7. ชีส 23.88
  8. ปลา (จากฟาร์ม) 13.63
  9. เนื้อหมู 12.31
  10. เนื้อไก่ 9.87

ในขณะที่ 5 อันดับอาหารที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยที่สุด คือ 

  1. ผลไม้ตระกูลส้ม 0.39
  2. พืชใต้ดิน หรือพืชหัว  0.43
  3. แอปเปิล 0.43
  4. ถั่วเปลือกแข็ง 0.43
  5. มันฝรั่ง 0.46
ecoeyes-how-to-heal-the-planet-sustainable-food-2-SPACEBAR-Photo V01.jpg

เทียบดูแล้วจะเห็นว่าการผลิต "เนื้อแดง" ทิ้งรอยเท้าคาร์บอนไว้มาก ในขณะที่เนื้อที่เป็นมิตรกับโลก (และกล้ามของเรา) มากที่สุดก็คือ "เนื้อไก่"

แบบนี้ถ้าเราเลือกกินอาหาร Low Carbon ที่อิ่มเท่ากัน แต่ปล่อยคาร์บอนไม่เท่ากัน! กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมให้น้อยลง แล้วเพิ่มสัดส่วนการกินพืชผักอร่อยๆ ที่คาร์บอนฟุตพริ้นท์น้อยๆ เราก็ช่วยโลกได้แบบง่ายๆ แล้ว ...มื้อต่อไปลองซะ! แล้วจะติดใจ ที่ได้ช่วยโลกไว้ด้วยสองมือน้อยๆ ของเรา

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์