ฮาวทูกู้โลกรวน ฉบับพูดง่าย ทำยาก
วิธีที่ 20 เอ๊ะ! (หยุดคิดก่อนใช้...สติค่ะลูก)
กินไม่อั้น ช้อปกระหน่ำ เที่ยวกันฉ่ำ สนองนี๊ดกันเพลิน ระวัง! ทรัพยากรโลกถูกใช้เกินโควต้า
แนะนำ: หยุดคิดเรียกสติก่อนบริโภค ด้วยมายด์เซ็ต Eco-conscious ก่อนทำอะไรให้ทด ‘โลก’ ไว้ในใจเสมอ

WHAT (เกิดอะไรขึ้นอ่ะ?)
ดีลปัง! โปรแรง! ลดแหลก! ทุกครั้งที่เปิดจอ ข้อความยั่วใจชวนซื้อเหล่านี้จะเข้ามาทักทาย และหลายคนก็หวั่นไหว กดเข้าไปดู รู้ตัวอีกทีก็ ‘รูดปรื้ด’ ไปแล้ว
นอกจากการซื้อไร้สติราวกับถูกป้ายยา ภาวะไร้สติดังกล่าวยังส่งผลถึงการใช้สิ่งของต่างๆ และวิธีจัดการกับของที่เหลือใช้ในชีวิตประจำวัน

เช่น ลำโพงบลูทูธถูกวางทิ้งไว้ เพราะคุณเพิ่งซื้อตัวใหม่ที่รุ่นใหม่กว่า เนื่องจากได้รับโค้ดลด 50% นี่ไม่ใช่ลำโพงตัวที่สองในบ้าน เพราะในบ้านคุณยังมีลำโพงอีกสามสี่ตัวที่ถูกวางไว้มุมใดมุมหนึ่ง ซึ่งคุณอาจลืมไปแล้วว่าเคยมีมันอยู่
หรือเสื้อยืดเก่าลุ่ยถูกทิ้งลงถัง เพียงเพราะมันหมดหน้าที่จากการเป็นเครื่องแต่งกาย ทั้งๆ ที่ในความเป็นผ้าของมันอาจใช้ประโยชน์ได้อีกหลายทาง เช่น เป็นผ้าเช็ดโต๊ะ หรือที่คลุมภาชนะในครัว
เราซื้อ ใช้ และทิ้งทุกสิ่งไปอย่างง่ายดาย ราวกับของทุกอย่างในโลกมีเหลือใช้ไร้ขีดจำกัด ทั้งที่ความจริงทุกสิ่งในโลกมีขีดจำกัด

ถ้าจะถามหาคนผิดในเรื่องนี้ คงเป็นเรื่องเสียเวลา เพราะทุกๆ ฝ่ายมีส่วนในความผิดด้วยกันทั้งนั้น และทุกๆ คนก็ทำเพื่อความอยู่รอดในโลกที่หมุนด้วยเศรษฐกิจแห่งการผลิตและบริโภคที่สอนให้คนไม่รู้จักอิ่ม
รอบตัวเราจึงถูกห่อหุ้มด้วยบรรยากาศที่กระตุ้นให้เรากิน-ใช้-ช้อปกันฉ่ำๆ จนโลกที่เป็นเหมือนเด็กตาดำๆ กำลังถูกทารุณจนป่วยไข้และใกล้บ้า เพราะสภาพภูมิอากาศแปรปรวนไม่ปกติ
WHY (ทำไมโลกร้อนล่ะ, เกี่ยวไร?)
กินไม่อั้น! ช้อปกระหน่ำ! เที่ยวกันฉ่ำ! คนที่สติยังดีคงรู้ว่าอะไรที่เกินพอดี มักพาปัญหามาด้วยเสมอ
ซึ่งคำพวกนี้อยู่เรี่ยราดเต็มโลกไปหมด แถมยังทำงานกับผู้คนได้อย่างดี เพราะมีใครบ้างที่ไม่ชอบของถูก ของลด ของแลก ของแถม
ไม่ต้องพูดถึงปัญหาโลกร้อนในภาพใหญ่หรอก (ถ้าใครอยากรู้ว่าโลกเสียหายแค่ไหน อ่านได้ใน ฮาวทูกู้โลกรวน: อุ่นเครื่องก่อนกู้โลก ความจริงและเรื่องตลกที่ไม่ขำ) เพราะในโลกที่ร่ายล้อมไปด้วยถ้อยคำสะกดจิตให้บริโภคอย่างมูมมาม คนแต่ละคนกินและใช้ด้วยจิตสำนึกเช่นนั้น แม้จะมีโลกเพิ่มอีกใบ ก็อาจจะรองรับไม่ไหว
แม้ผู้นำทั่วโลกจะปักหมุดวาระโลกร้อนให้เป็นวาระสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข แต่ก็ดูจะไม่มีผลมากเท่าไหร่ เพราะอุณหภูมิโลกไม่เคยลดลง แถมยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผู้คนก็ดูจะทำตัวเป็นกบในน้ำต้มที่รอวันเดือด กินและใช้อย่างมูมมามในยามตื่น สวดมนต์อวยพรให้ความยั่งยืนเกิดขึ้นในยามฝัน ก่อนจะตื่นขึ้นมาพบความจริงในวันหนึ่งว่า น้ำที่ต้มร้อนถึงจุดเดือด
โลกร้อนและรวนเกินกว่าจะเยียวยาตัวเอง ส่วนมนุษย์นั้นกว่าจะรู้ตัวก็ไม่มีเวลาเหลือให้ทำอะไรได้อีกต่อไป

HOW (ทำอย่างไรล่ะทีนี้)
แนะนำคาถาศักดิ์สิทธิ์ “เอ๊ะ!” เพียงแค่หยุดคิดก่อนใช้ มีสติก่อนบริโภคอะไรๆ ก็ช่วยกู้โลกได้แล้ว
คำนี้ในภาษาฝรั่งเรียกว่า Think Twice หรือ ลองคิดอีกที คือการพิจารณาอย่างรอบคอบหรือพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างก่อนตัดสินใจหรือทำสิ่งใด เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง
ถูกต้องที่ไม่ใช่แค่ถูกใจ หรือถูกทำนองคลองธรรมเท่านั้น แต่คือการมี โลก อยู่ในสมการการตัดสินใจว่า สิ่งที่ทำไปจะส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร เรียกว่าต้องมี Eco-conscious ก่อนกิน ช้อป ใช้ในทุกๆ สิ่ง

การตระหนักรู้ว่าการกระทำของเราจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร หากตั้งต้นด้วยมายด์เซ็ตที่ใช่ วิถีทางในการดูแลสิ่งแวดล้อมจะเกิดขึ้นเอง
- ควรใช้ถุงผ้าหรือถุงอะไร เพื่อลดขยะพลาสติก
- ควรพกแก้วน้ำส่วนตัวดีหรือไม่
- ควรกินอะไร ด้วยปริมาณมากน้อยแค่ไหน
- ควรเดินทางไปทำงานหรือเรียนอย่างไร
- ควรใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งใดถึงจะดีที่สุด
- ฯลฯ--ในวิถีชีวิตของแต่ละคน
โลกจะดีขึ้นแน่ ขอเพียงแค่ “เอ๊ะ!” ก่อนทำอะไร แล้วทด ‘โลก’ ไว้ในใจเสมอ
