ถ้าพูดถึงไลโคปีน หลายคนก็จะนึกถึงมะเขือเทศ และผักผลไม้สีแดง เขียว เหลือง ที่มีสรรพคุณที่ช่วยทำให้ผิวใสขึ้น ลดฝ้าลดกระช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด แต่รู้หรือไม่ว่า ไลโคปีน ไม่ได้มีสรรพคุณดีๆ เพียงแค่นั้น แต่ยังช่วยลดไขมันเลว (Low Density Lipoprotein : LDL) และยังช่วยลดความดันโลหิตด้วย
งานวิจัยนี้ เป็น Meta-analyses จากการศึกษา 13 งานที่วิจัยเกี่ยวกับผลของไลโคปีน ในเรื่องของค่าไขมัน (lipid profile) และความดันโลหิต (blood pressure)
ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ไลโคปีน ส่งผลดีต่อ การลดไขมันเลว โดยการทานไลโคปีนในปริมาณมากกว่า 25 มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยลด ไขมันเลว ได้ประมาณ 10% เทียบเท่ากับการยาลดไขมันในเลือดในปริมาณต่ำ ซึ่งมะเขือเทศที่จะให้โดสประมาณนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 1 ถ้วยตวง

แล้วรู้หรือไม่ว่า การทานมะเขือเทศแบบปรุงสุกในอุณภูมิ 80 องศาที่เวลา 15-30 นาที จะได้รับไลโคปีนมากกว่าการทานมะเขือเทศสด เพราะทำให้การยึดเกาะของไลโคปีนกับเนื้อเยื่อลดลง
แต่นอกจากมะเขือเทศแล้ว ก็ยังพบไลโคปีนใน แตงโม (สีแดง), ฝรั่ง, มะละกอ, เกรปฟรุตสีชมพู รวมทั้งในผลกุหลาบป่า หรือโรสฮิป ด้วย แต่ว่าแต่ละชนิดนั้นก็มีปริมาณไลโคปีนที่แตกต่างกันไป

เป็นพืชที่อุดมไปด้วยสรรพคุณอย่างมากเลยทีเดียว แต่ก็เป็นพืชที่ทานยากเช่นกัน สำหรับการทานสด หรือการคั้นออกมาเป็นน้ำผลไม้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลด้วย แต่นอกจากการทานแบบคั้นน้ำ และทานสดแล้ว ก็ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ ที่ช่วยเสริมไลโคปีนด้วย เช่น ซอสมะเขือเทศ มะเขือเทศกระป๋อง มะเขือเทศแคปซูล
ในตอนนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำจากมะเขือเทศวางจำหน่ายอยู่เต็มท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็น ซอสมะเขือเทศเข้มข้นผสมไลโคปีน 90% ที่มีปริมาณไลโคปีนอยู่ที่ 28.8 มิลลิกรัม หรือจะเป็นเครื่องดื่มอย่าง น้ำมะเขือเทศ 99% ที่ใน 1 กล่อง (200 กรัม) จะมีไลโคปีนอยู่ที่ 16 มิลลิกรัม ก็ถือว่ามากเลยทีเดียว ถ้าหากมีการทานติดต่อกันในระยะเวลาหนึ่ง ถือว่าเป็นของดีที่ไม่ควรเลี่ยงจริงๆ
