แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 จะซาไป แต่ประเทศไทยยังต้องเผชิญหน้ากับฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง ทำให้การใช้ชีวิตชาวไทยนั้นแสนจะยากลำบาก และหน้ากากอนามัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องคำนึง ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับหน้ากากอนามัยแต่ละประเภทว่ารุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานแบบใด และมีคุณสมบัติอย่างไร เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างตอบโจทย์กับความต้องการมากที่สุด
1. หน้ากากอนามัย N95

มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโรคได้ค่อนข้างสูง บางรุ่นจะมีวาล์วระบายอากาศให้หายใจได้สะดวก ช่วยระบายความร้อน แต่ราคาก็จะแพงขึ้นไปอีก สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 และเชื้อโรคขนาดเล็กกว่า 0.3 ไมครอนได้ ใช้งานได้สูงสุด 2 – 3 วัน แต่ถ้าเปลี่ยนได้ทุกวันก็จะดีที่สุด แต่อาจทำให้หายใจได้ไม่สะดวกมากนัก ไม่ควรใส่ขณะออกกำลังกาย หากไม่ใช่แบบ ที่ซักได้ก็ไม่ควรนำมาซัก เพราะจะลดประสิทธิภาพในการกรองได้
2. หน้ากาก FFP1

หน้ากากอนามัย FFP1 เป็นหน้ากากที่ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับหน้ากากอนามัย N95 สามารถช่วยป้องกันทั้งฝุ่น เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ดักจับอนุภาคขนาดเล็ก PM 2.5 และ PM 10 ไม่น้อยกว่า 94% แต่ความสามารถนอกเหนือจาก N95 คือสามารถป้องกันสารเคมี ฟูมโลหะ ทั้งยังออกแบบให้ส่วนบนมีความเว้า ครอบลงไปที่บริเวณหน้าปากและจมูกอย่างมิดชิด
3. หน้ากาก KF94

KF หรือ Korea Filter ผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐาน KOSHA เป็นหน้ากากกันฝุ่นที่ได้มาตรฐาน สามารถกันฝุ่นขนาดมากกว่า 3 ไมครอนได้ 100% แต่ถ้าเป็นฝุ่นที่เล็กกว่านั้นหรือ PM2.5 จะสามารถป้องกันได้ระดับ 94%
โดย KF94 สามารถป้องกันไวรัสโควิดกันได้ 80% หรือเชื้อโรคติดต่ออื่นๆ ที่ติดต่อผ่านละอองการไอ จาม แต่ต้องใส่ให้มิดชิด ไม่มีรูรั่วที่หน้ากาก
โดย KF94 สามารถป้องกันไวรัสโควิดกันได้ 80% หรือเชื้อโรคติดต่ออื่นๆ ที่ติดต่อผ่านละอองการไอ จาม แต่ต้องใส่ให้มิดชิด ไม่มีรูรั่วที่หน้ากาก
4. หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (หน้ากากแบบทั่วไป)

เป็นหน้ากากอนามัยที่คนนิยมสวมใส่กันมาก เพราะหาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไป ราคาไม่แพงก่อนที่จะมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด ด้านหนึ่งเป็นสีเขียวหรือฟ้า ทำด้วยเยื่อกระดาษ 3 ชั้น สามารถป้องกันเชื้อโรคที่ปนมากับละอองน้ำมูกหรือน้ำลายได้ แต่มีอายุใช้งานสั้น ควรใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งถ้าใช้ซ้ำกันหลายๆ ครั้ง อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้
5. หน้ากากอนามัยแบบคาร์บอน

หน้ากากประเภทนี้ด้านหนึ่งจะเป็นสีเทา ประสิทธิภาพไม่ต่างจากหน้ากากอนามัยแบบทั่วไปมากนัก แต่ต่างกันที่เยื่อชั้นคาร์บอน ช่วยกรองกลิ่นได้มากกว่า มีความหนาของเส้นใย 4 ชั้น สามารถกรองเชื้อแบคทีเรีย ได้ถึง 95% ถ้าสวมทับกัน 2 แผ่นจะสามารถกรองฝุ่นละอองขนาด 3 ไมครอน ได้กว่า 89%
6. หน้ากากอนามัยแบบผ้าฝ้าย

เป็นหน้ากากคล้ายแบบเยื่อกระดาษ เน้นการป้องกันการกระจายของสารคัดหลั่งจากการไอจาม สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดใหญ่กว่า 3 ไมครอนขึ้นไป แต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ โดยฝุ่นละอองที่พบในปัจจุบันนี้มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน จึงไม่สามารถป้องกันได้
7. หน้ากากฟองน้ำ

หน้ากากอนามัยแบบฟองน้ำ ผลิตจากโพลียูรีเทนคาร์บอนสำหรับกรองอากาศโดยเฉพาะ สามารถซักทำความสะอาดได้ แห้งเร็ว พับเก็บไม่ยับ สามารถคืนรูปเดิมได้ไม่เสียทรง ส่วนประสิทธิภาพในการป้องกันสามารถกันฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กและเกสรดอกไม้ได้เล็กน้อยมาก