สารพัดประโยชน์จาก ‘เห็ด’ นานาชนิด

‘เห็ด’ เป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ เหมาะในการนำมาปรุงเป็นอาหารเพราะ มีโปรตีนสูง, ไขมันต่ำ และแคลอรีต่ำ ในเห็ดแต่ละชนิดจะประกอบไปด้วยแร่ธาตุกับวิตามิน พร้อมสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย และสำหรับวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเห็ดให้มากขึ้น พร้อมสรรพคุณของเห็ดแต่ละชนิด เพื่อสุขภาพการกินที่ดีกว่าของคุณกันเลย!

‘เห็ด’ มาจากไหน?  

เห็ด (Mushrooms) เป็นราชนิดหนึ่ง ที่ถูกจัดอยู่ในอาณาจักรฟังไจ (Kingdom Fungi) ไม่สามารสังเคราะห์แสงได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) เห็ดจึงเป็นราขนาดใหญ่ซึ่งมีการเจริญเติบโตเป็นเส้นใย เมื่อถึงระยะที่จะสืบพันธุ์เส้นใยจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนดอกเห็ด เพื่อสร้างสปอร์ไว้กระจายพันธุ์ต่อไป มีรูปร่างสวยงามแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดของเห็ดนั้นๆ

‘สรรพคุณ’ ของ ‘เห็ดแต่ละชนิด’

1. เห็ดหอม หรือ เห็ดชิตาเกะ

‘เห็ดหอม’ ถือเป็น ‘ยาอายุวัฒนะ’ เพราะสามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือด, เพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส และมะเร็ง ซึ่งคุณสมบัติของเห็ดหอมนั้นมีกรดอะมิโนถึง 21 ชนิด มีวิตามิน B1, B2 สูง พอๆ กับยีสต์ และมีวิตามิน D สำหรับช่วยบำรุงกระดูก พร้อมปริมาณโซเดียมที่ต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม, ฟอสฟอรัส และเหล็ก ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเป็นกรด ในกระเพาะอาหาร ช่วยบำรุงกำลัง บรรเทาอาการไข้หวัด โดยชาวจีนได้ยกให้เห็ดหอมเป็นอาหารต้นตำรับ ‘อมตะ’ เพราะมีคุณสมบัติความเป็นยาบำรุงกำลังอย่างดี

2. เห็ดหูหนู  

‘เห็ดหูหนู’ สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กับเม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ, สร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย, ช่วยบำรุงปอดกับไต มีฟอสฟอรัสและแคลเซียมที่ช่วยในการบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง รวมทั้งยังสามารถช่วยในการรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง เนื่องจากมีไฟเบอร์สูงช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น เห็ดหูหนูยังเป็นแหล่งของวิตามินหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามิน C ซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันและยับยั้งไม่ให้เซลล์ผิดปกติจนกลายเป็นเนื้อร้ายได้  

3. เห็ดหลินจือ

‘เห็ดหลินจือ’ มีสารสำคัญอย่าง ‘เบต้ากลูแคน’ ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง คนญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็ง และโรคผู้สูงอายุอย่าง โรคหัวใจ, โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง, โรคความดันโลหิตสูง นอกจากใช้รับประทานแล้ว ปัจจุบันยังมีการนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางอีกด้วย เพราะมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ, ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย รวมทั้งกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัส 

4. เห็ดกระดุม หรือ เห็ดแชมปิญอง

‘เห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญอง’ มีลักษณะคล้ายกระดุมที่มีขนาดใหญ่ รูปร่างกลมมน ผิวเนื้อนวล ซึ่งเห็ดชนิดนี้มีบทบาทในการช่วยรักษาและป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่สุด เนื่องจากภายในเห็ดจะมีสารที่่ไปช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมที่อยู่ในผู้หญิงให้น้อยลง และมีเส้นใยอาหารสูง ทำให้ช่วยขับถ่ายหรือล้างสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายออกมาได้อย่างดี นอกจากนั้นยังมีแคลเซียมทำให้กระดูกแข็งแรง สามารถลดความเสี่ยงจะเกิดโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโอกาสจะเกิดได้ง่าย 

5. เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า และเห็ดเป๋าฮื้อ  

‘เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า และเห็ดเป๋าฮื้อ’ ถือว่าอยู่ในตระกูลเดียวกัน ซึ่งจะมีลักษณะการเจริญเติบโตเป็นช่อ รูปร่างคล้ายพัด เห็ดนางรมจะมีสีขาวอมเทา เห็ดนางฟ้าจะมีสีขาวอมน้ำตาล ขณะที่เห็นเป๋าฮื้อจะมีสีคล้ำและเหนียวนุ่มกว่า ซึ่งเห็ดทั้งสามที่กล่าวมานั้นประกอบไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยในการไหลเวียนเลือด รวมถึงสารเบต้ากลูแคนที่มีฤทธิ์ปรับภูมิคุ้มกันและลดความรุนแรงของไข้หวัดได้  

6. เห็ดฟาง

‘เห็นฟาง’ เป็นเห็ดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งเห็ดชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ให้วิตามิน C สูง ช่วยป้องกันโรคเหงือก เลือดออกตามตาไรฟัน และป้องกันการเจริญเติบโตของไวรัสที่ทำให้ป่วย เห็ดฟางมีกรดอะมิโนที่สำคัญอยู่หลายชนิด หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อต่างๆ รวมถึงช่วยลดความดันโลหิต และยังสามารถเร่งการสมานแผล ซึ่งทางแพทย์แผนโบราณได้จัดให้เห็ดฟางเป็นเภสัชวัตถุที่มีรสชาติหวาน สามารถบำรุงร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร บำรุงโลหิต บำรุงกำลัง บำรุงตับ แก้ร้อนใน และแก้ช้ำใน 

7. เห็ดเข็มทอง  

‘เห็ดเข็มทอง’ มีความสามารถในการต้านมะเร็งและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยในการสลายไขมันในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ร่างกายดูดซึมอาหารไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเห็ดฟางมีไฟเบอร์สูงจึงช่วยเรื่องการขับถ่าย และยังมีกรดอะมีโนสูง ซึ่งทำให้ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองในส่วนของความจำ กากใยในเห็ดเข็มทองช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ รวมถึงป้องกันภาวะไขมันในเลือดสูง หากทานเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคในตับ , กระเพาะอาหาร และลำไส้อักเสบเรื้อรัง