ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลักเหมือนกับ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี สงขลา กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และสระบุรี แต่จังหวัด ราชบุรี ก็นับว่าเป็นเมืองรองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะมากพอกัน
วันนี้วันที่ 20 ธันวาคม แต่ถ้าหากย้อนกลับไปในวันนี้ เมื่อ 121 ปีก่อน จะทราบว่า มันคือที่อำเภอ ‘ท่าผา’ ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอ ‘บ้านโป่ง’
ตามจดหมายเหตุราชบุรี อำเภอบ้านโป่ง แต่เดิมตั้งอยู่ที่ ‘ตำบลท่าผา’ และเรียกว่า ‘อำเภอท่าผา’ ต่อมารัฐบาลได้สร้างทางรถไฟสายใต้ขึ้นและเห็นว่าถ้าหากอำเภออยู่ที่ท่าผาแล้วการคมนาคมก็ดูไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก จึงให้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาตั้งที่ตำบลบ้านโป่งแทน
บริเวณที่ตั้งอำเภอบ้านโป่งนี้ เดิมเป็นป่าโปร่งสัตว์ชอบมาอาศัย และกินดินโป่งเป็นอาหาร (ดินโป่งเป็นดินชนิดหนึ่งที่มีรสเค็ม) โดยเฉพาะสัตว์จำพวกเลียงผาชอบมาก ตามตำนานเก่าแก่เล่าว่าคำ ‘บ้านโป่ง’ เดิมทีเดียวเรียกว่า ‘บ้านทับโป่ง’ ซึ่งเล่ากันว่ามีกระท่อมหรือบ้าน (ทับ) อยู่ข้างดินโป่ง แต่ชาวบ้านนิยมเรียก ‘บ้านโป่ง’ เพราะสะดวกและสั้นดีและต่อมาทางราชการก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบ้านโป่งตามไปด้วย
ไหนๆ ก็เป็นวันที่เปลี่ยนชื่ออำเภอ ‘ท่าผา’ เป็นอำเภอ ‘บ้านโป่ง’ แล้ว และเข้าใกล้เทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่ด้วย Spacebar VIBE ก็เลยถือโอกาสรวมแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอ ‘บ้านโป่ง’ มาให้ทุกคนได้ลิสต์ไว้เป็นหมุดหมายน่าเที่ยวช่วงหยุดยาวกัน มีอะไรบ้าง มาดู

สำหรับสายกินและชอบถ่ายรูป รวมถึงสายคอนเทนต์ต้องไม่พลาดกับที่ Unique77 เพราะที่แห่งนี้คือ โกดังคาเฟ่ที่เก็บสะสมของหายาก ทั้งรถคลาสสิกหลากหลายรูปแบบ ของเก่า และงานศิลปะ บนเนื้อที่ 7 ไร่ ปรับปรุงจากโรงงานเก่าที่ตกแต่งใหม่โดยรักษาสภาพเดิมเอาไว้ให้มากที่สุด
สำหรับเมนูของที่นี่มีทั้งหมด 22 เมนูอาหารคาวทั้งอาหารไทยและอาหารต่างชาติ ส่วนขนมและของหวานมีมากถึง 20 เมนู ยังไม่รวมเมนูเครื่องดื่มที่พร้อมดับกระหายทุกคนที่ไปเยือนอีกกว่า 50 เมนู ร้านเปิด 09.00 – 18.30 น. ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ (ปิดทุกวันพฤหัสบดี) และเสาร์ – อาทิตย์เปิดเวลา 08.30 – 18.30 น. ทางเข้าร้านจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเทศบาลเมืองท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี

วัดโพธิ์รัตนาราม (วัดโพธิ์คู่)
สำหรับใครที่ชื่นชอบความงดงามของอุโบสถก็คงต้องแวะที่วัดโพธิ์คู่ หรือวัดโพธิ์รัตนาราม ตำบลปากแรต อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เพราะอุโบสถของที่นี่เป็นอุโบสถสแตนเลส เป็นอุโบสถหลังที่ 2 ของเมืองไทยที่หุ้มด้วยสแตนเลสทั้งหลัง (หลังแรกอยู่ที่ วัดป่าลำขาแข้ง จ.กาญจนบุรี) ก่อตั้งขึ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2485)
ชาวบ้านมักเรียกวัดโพธิ์รัตนารามแห่งนี้ว่า ‘วัดโพธิ์คู่’ เนื่องจากในสมัยก่อนมีต้นโพธิ์ขึ้นคู่กันอยู่หลายคู่ และวัดโพธิ์คู่แห่งนี้ยังเป็นวัดหลักของตำบลปากแรต ตั้งบนพื้นที่ 15 ไร่ มีพระปางปาลิไลยก์ เป็นที่นับถือและกราบไหว้ของชาวพุทธด้วย

ใครอยากหาที่พึ่งทางใจ ลองแวะไปไหว้ เจ้าแม่เบิกไพร กันก่อน เพราะสถานที่แห่งนี้ถูกต้องตามตำราการสร้างศาล ย้อนกลับไปสมัยกรุงธนบุรี ด้วยความที่ราชบุรี หรือในสมัยนั้นเรียกว่า เมืองคูบัว ได้เป็นเมืองท่า แน่นอนว่า เมื่อเป็นเมืองท่า ก็มักจะมีการติดต่อซื้อขายกับคนต่างชาติ
ในตอนนั้นมีพ่อค้าชาวจีนที่เลื่อมใสในเจ้าแม่ทับทิม ก็เลยนำผงธูปติดตัวมาด้วยเพื่อความเป็นสิริมงคล และที่พึ่งทางใจ เมื่อเดินทางมาถึงที่ตำบลเบิกไพร ก็เล็งเห็นว่า ที่ตรงนี้นี่แหละถูกต้องตามตำราในการสร้างศาลขึ้นมา ไม่รอช้าลงมือสร้างทันที และได้นำผงธูปของเจ้าแม่ทับทิมที่นำติดมาจากเมืองจีน มาประดิษฐานไว้ที่นี่ด้วย
กิตติศัพท์อภินิหารของเจ้าแม่เบิกไพร เป็นที่เลื่องลือในหมู่ชาวตลาดบ้านโป่งและจังหวัดใกล้เคียงเป็นอย่างยิ่ง ได้รับความศรัทธาเลื่อมใสเป็นที่เคารพสักการะและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของ ประชาชนในอำเภอบ้านโป่งและจังหวัดใกล้เคียงมาจวบจนถึงปัจจุบัน

ถ้าหากเป็นสายนักสะสมและสายท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ควรพลาด กับพิพิธภัณฑ์ชุมชนสระโกสินารายณ์ ก่อสร้างขึ้นโดยเทศบาลเมืองท่าผา เปิดให้เข้าชมครั้งแรกปี 2557 สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ ห้องสมุดสำหรับผู้ต้องการศึกษา และแหล่งท่องเที่ยวสำหรับประชาชน
ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเมืองโกสินารายณ์ หรือในอดีตสันนิษฐานว่าเป็น ‘ศมฺพูกกฏฏนมฺ’ หรือ ‘ศัมพูกปัฏฏนะ’ ซึ่งเป็นเมืองในอดีตสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ด้วย นอกจากนี้ภายในยังจัดแสดงเกี่ยวกับอารยธรรมเขมรในลุ่มน้ำแม่กลอง และเหตุการณ์ที่สระโกสินารายณ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
พิพิธภัณฑ์ชุมชนสระโกสินารายณ์ เปิดให้บริการทุกวันพุธ - อาทิตย์ เวลา 10.00 – 16.00 น. สามารถเข้าชมได้ฟรี! และนอกจากจะเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังมีพื้นที่สาธารณะให้พักผ่อนด้วยกับ สระโกสินารายณ์ ซึ่งเป็นสระน้ำโบราณศักดิ์สิทธิ์ ในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๘