ซึ่งคำตอบของคำถามที่มีต่อบทความดังกล่าวคือน้ำตาลเป็นอาหารของเซลล์มะเร็งจริงหรือไม่นั้น คำตอบแรกก็ต้องบอกก่อนเลยว่า ‘จริง’ แต่การหยุดกินน้ำตาลไปเลยจะส่งผลดีต่อผู้ป่วยโรคมะเร็งจริงหรือไม่นั้น อาจจะไม่จริงเสียทีเดียว เพราะอันดับแรก ไม่ใช่แค่เซลล์มะเร็ง แต่น้ำตาลเป็นแหล่งพลังของเซลล์ทุกชนิดในร่างกายมนุษย์ การที่เรางดน้ำตาลไปเลยแบบหักดิบนั้น จะทำให้ร่างกายของผู้ป่วยขาดพลังงานให้กับเซลล์ที่มีประโยชน์ ส่งผลให้ร่างกายไม่มีพลังไปต่อสู้กับผลกระทบที่เกิดจากโรคมะเร็ง และตรงกันข้ามอาจจะเป็นสาเหตุให้ร่างกายอ่อนแอจนเซลล์มะเร็งลุกลามมากไปกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ซึ่งจริงๆ แล้วหากการงดน้ำตาลแล้วฆ่ามะเร็งได้จริง เราก็คงต้องงดสารอาหารอื่นๆ อีกเพียบ เพราะเซลล์มะเร็งนั้นได้พลังงานจากแหล่งอื่นๆ อีก อาทิ กรดอะมิโน หรือ ไขมัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นมะเร็งหรือไม่ก็ตาม การทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบสารอาหารตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
และสาเหตุที่บทความดังกล่าวเกี่ยวกับน้ำตาลและมะเร็งอาจจะแพร่หลาย ก็อาจจะเป็นเพราะการนำบทวิจัยที่ชื่อว่า “On Metabolism of Tumors” ซึ่งถูกวิจัยโดย ดร.ออตโต วอลเบิร์กส์ ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาชีววิทยาด้านเซลล์ มาอ่านและตีความเผยแพร่อย่างผิดๆ เพราะในบทวิจัยเป็นการศึกษาการใช้น้ำตาลของเซลล์มะเร็งที่สูงกว่าเซลล์ทั่วไปเพื่อปัจจัยต่างๆ ซึ่งมันมีขึ้นเพื่อให้เหล่านักวิจัยพัฒนาหาวิธีการตัดวงจรของเซลล์มะเร็งด้วยตัวยาหรือการรักษาต่างๆ และมันก็ยังอยู่ในขั้นทดลอง หาใช่การอดน้ำตาลตรงๆ จะได้ผลเลยง่ายๆ แบบที่บทความที่แพร่หลายจะพยายามสื่อสารกับเรา หากจะให้มองว่าน้ำตาลจะส่งผลกับโรคมะเร็งได้อย่างไรนั้น ที่น่ากลัวกว่าและเห็นได้ชัดๆ กว่า คือการทานน้ำตาลมากเกินกว่าจำนวนที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันอาจจะส่งผลให้น้ำหนักมากขึ้นจนเกิดโรคอ้วนขึ้นได้ ซึ่งการที่น้ำหนักเกินมาตรฐานนั้นเป็นอะไรที่ยืนยันออกมาแล้วว่ามันเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในด้านต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็งมากกว่า 13 ชนิดอีกด้วย