“ไหนว่าตลาดน้อยเป็นย่านคนจีน ทำไมมีวัดญวน?”
น้องที่ชอบเดินดูย่านเก่าด้วยกันตั้งคำถาม
ใช่ครับ ตลาดน้อยมีวัดญวณเก่าแถมยังเป็นวัดที่ได้รับการสนับสนุนโดยพระมหากษัตริย์ วัดที่ว่าคือ ‘วัดอุภัยราชบำรุง’ ชาวบ้านเรียก ‘วัดญวณตลาดน้อย’
น้องที่ชอบเดินดูย่านเก่าด้วยกันตั้งคำถาม
ใช่ครับ ตลาดน้อยมีวัดญวณเก่าแถมยังเป็นวัดที่ได้รับการสนับสนุนโดยพระมหากษัตริย์ วัดที่ว่าคือ ‘วัดอุภัยราชบำรุง’ ชาวบ้านเรียก ‘วัดญวณตลาดน้อย’
อันที่จริง ในย่านเยาวราช สำเพ็ง สัมพันธวงศ์ จักรวรรดิ ที่มีคนจีนอยู่เยอะะ มีวัดญวนตั้งแซมๆ อยู่ในพื้นที่ นับดีๆ วัดอนัมนิกาย (พุทธศาสนานิกายมหายาน สืบมาจากเวียดนาม) ตรงนั้นเยอะกว่าวัดจีน
แล้ววัดญวนมาจากไหน มาตั้งแต่ตอนไหน
วัดญวนมาพร้อมกับคนญวน วัดญวนตลาดน้อยกับวัดญวนแถวเยาวราช มาพร้อมกับคนเวียดนามหรือคนญวนที่ไปอยู่ตรงนั้น แต่ทั้งสองกลุ่มมาคนละคราวกัน
แล้ววัดญวนมาจากไหน มาตั้งแต่ตอนไหน
วัดญวนมาพร้อมกับคนญวน วัดญวนตลาดน้อยกับวัดญวนแถวเยาวราช มาพร้อมกับคนเวียดนามหรือคนญวนที่ไปอยู่ตรงนั้น แต่ทั้งสองกลุ่มมาคนละคราวกัน
วัดญวนตลาดน้อยมาก่อน มาพร้อมกับการมาอยู่ของ ‘องเชียงสือ’ (พระนามของกษัตริย์เวียดนาม ทายาทคนเดียวที่เหลืออยู่ของตระกูลเหงวียน) ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร รัชกาลที่ 1 ในตอนนั้นรัชกาลที่ 1 ให้องเชียงสือไปอยู่ที่บ้านต้นสำโรง ก็คือบริเวณที่เป็นสถานทูตโปรตุเกส ในซอยเจริญกรุง 30 ซอยกัปตันบุช (และเลยขึ้นไปถึงมัสยิดฮารูน สถานทูตฝรั่งเศส) พร้อมด้วยบริวารขององเชียงสือ และญวนที่อพยพมาช่วงกรุงธนบุรีที่เข้ามาอยู่บริเวณนี้ กระจายอยู่ในพื้นที่ที่ลงมาจากวัดสำเพ็ง หรือวัดปทุมคงคา เจืออยู่กับชุมชนจีนที่มีอยู่แล้วบริเวณตลาดน้อยนั่นเอง
วัดคั้นเวิน หรือ คั้น เวิน ตื่อ หรือ วัดอุภัยราชบำรุง จึงตั้งขึ้นที่นั่น ด้วยความศรัทธาของคนญวน เวลาผ่านไปไม่นาน องเชียงสือกลับไปกอบกู้อำนาจของตนเองคืน หลังการหนีกลับไปดื้อๆ ขององเชียงสือ เขาไม่ได้เอาคนญวนกลับไปทั้งหมด ยังเหลือร่องรอยของวัฒนธรรมญวนไว้
เหตุการณ์ ‘หนี’ ขององเชียงสือ ทำให้รัชกาลที่ 1 ย้ายญวนที่อยู่บริเวณบ้านสำโรงทั้งหมดรวมถึงบริเวณตลาดน้อยไปอยู่บางโพตั้งแต่นั้น
ด้วยเหตุนี้ บางโพจึงมีชุมชนคนญวนเก่า มีวัดญวนคือวัดบางโพโอมาวาส ความจริงคนญวนที่ต้นสำโรงและตลาดน้อยไม่ได้ไปอยู่บางโพทั้งหมด และคนญวนที่ต้นสำโรง ก็ไม่ใช่คนญวนพุทธทั้งหมด ยังมีคนญวนที่นับถือคาทอลิกที่อยู่ที่นั่น ยืนยันด้วยการมีอยู่ของกลุ่มคริสตังญวนวัดกาลหว่าร์ ทั้งวัดอุภัยราชบำรุง และวัดกาลหว่าร์ยังคงมีอยู่ และดำรงอยู่อย่างดีมาจนทุกวันนี้
วัดคั้นเวินตั้งมั่นเงียบสงบอยู่นานโดยไม่ได้เป็นวัดร้าง มีพระ มีคนญวนเข้ามาทำบุญไม่ขาด ก่อนจะกลายมาเป็นวัดอุภัยราชบำรุงในเวลาต่อมา เมื่อได้รับการดูแลโดยพระมหากษัตริย์ 2 องค์ คือ รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5
เหตุการณ์ ‘หนี’ ขององเชียงสือ ทำให้รัชกาลที่ 1 ย้ายญวนที่อยู่บริเวณบ้านสำโรงทั้งหมดรวมถึงบริเวณตลาดน้อยไปอยู่บางโพตั้งแต่นั้น
ด้วยเหตุนี้ บางโพจึงมีชุมชนคนญวนเก่า มีวัดญวนคือวัดบางโพโอมาวาส ความจริงคนญวนที่ต้นสำโรงและตลาดน้อยไม่ได้ไปอยู่บางโพทั้งหมด และคนญวนที่ต้นสำโรง ก็ไม่ใช่คนญวนพุทธทั้งหมด ยังมีคนญวนที่นับถือคาทอลิกที่อยู่ที่นั่น ยืนยันด้วยการมีอยู่ของกลุ่มคริสตังญวนวัดกาลหว่าร์ ทั้งวัดอุภัยราชบำรุง และวัดกาลหว่าร์ยังคงมีอยู่ และดำรงอยู่อย่างดีมาจนทุกวันนี้
วัดคั้นเวินตั้งมั่นเงียบสงบอยู่นานโดยไม่ได้เป็นวัดร้าง มีพระ มีคนญวนเข้ามาทำบุญไม่ขาด ก่อนจะกลายมาเป็นวัดอุภัยราชบำรุงในเวลาต่อมา เมื่อได้รับการดูแลโดยพระมหากษัตริย์ 2 องค์ คือ รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5
มีเรื่องเล่าว่าตอนที่รัชกาลที่ 4 ยังทรงผนวช ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนามหายานจากท่านเจ้าอาวาสวัดคั้นเวิน เมื่อลาผนวชครองราชย์แล้ว จึงอุปถัมภ์วัดนี้โดยมีรัชกาลที่ 5 ให้การอุปถัมภ์ต่อมาจึงเป็นชื่อของอุภัยราชบำรุง
อุภัย หมายถึง สอง
ราชบำรุง คือ กษัตริย์สององค์ที่ทรงอุปถัมภ์บำรุงวัด
ร่องรอยของญวนในตลาดน้อยนอกจากวัดแทบไม่มีเหลืออะไรแล้ว หลังจากการไปขององเชียงสือบริเวณที่เคยเป็นวังองเชียงสือก็ถูกเปลี่ยนเป็นสถานีการค้าของโปรตุเกส ก่อนจะกลายเป็นสถานทูตโปรตุเกสในเวลาต่อมา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสองสถานทูตเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยเคียงกับสถานทูตฝรั่งเศสเลยทีเดียว
อุภัย หมายถึง สอง
ราชบำรุง คือ กษัตริย์สององค์ที่ทรงอุปถัมภ์บำรุงวัด
ร่องรอยของญวนในตลาดน้อยนอกจากวัดแทบไม่มีเหลืออะไรแล้ว หลังจากการไปขององเชียงสือบริเวณที่เคยเป็นวังองเชียงสือก็ถูกเปลี่ยนเป็นสถานีการค้าของโปรตุเกส ก่อนจะกลายเป็นสถานทูตโปรตุเกสในเวลาต่อมา ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสองสถานทูตเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยเคียงกับสถานทูตฝรั่งเศสเลยทีเดียว
หากใครอยากสัมผัสกลิ่นอายความเป็นญวนที่เคยมี แนะนำให้มาชมพิพิธภัณฑ์ประวัติวัดและเจ้าอาวาสที่วัดอุภัยราชบำรุง
นอกจากย่านตลาดน้อย ในบริเวณสัมพันธวงศ์ จักรวรรดิ เยาวราช ก็มีวัดญวนอยู่ถึง 4 วัด ได้แก่ วัดชัยภูมิการาม วัดมงคลสมาคม วัดกุศลสมาคม และวัดโลกานุเคราะห์ เทียบกับวัดจีนแล้วมีมากกว่า เพราะมีคนญวนที่มากับเจ้าพระยาบดินทร์เดชา (สิงห์ สิงหเสนี) สมุหนายกในรัชกาลที่ 3 ไปรบและอยู่ที่เวียดนามยาวนานก่อนจะกลับบ้านที่มีจวนของท่านอยู่ใกล้ๆ สะพานหัน หรือชุมชนเลื่อนฤทธิ์ในทุกวันนี้
ว่ากันว่าการสงครามครั้งนั้นมีญวนมาเติมที่สามเสน เป็นญวนคาทอลิกและญวนที่ตามท่านมาอยู่ใกล้กับจวนท่าน สำเพ็งในรัชกาลที่ 3 จึงมีทั้งจีน ญวน ลาว แขก และเป็นที่มาของวัดญวนในย่านจีน
ว่ากันว่าการสงครามครั้งนั้นมีญวนมาเติมที่สามเสน เป็นญวนคาทอลิกและญวนที่ตามท่านมาอยู่ใกล้กับจวนท่าน สำเพ็งในรัชกาลที่ 3 จึงมีทั้งจีน ญวน ลาว แขก และเป็นที่มาของวัดญวนในย่านจีน