วันวาเลนไทน์ขับเคลื่อนด้วยพลังของคนคลั่งรัก ส่วนคนไม่มีคู่ก็อาจจะดีใจกับคนเหล่านั้นที่ได้มีความรักดีๆ แต่บางคนที่ยังตามหาความรักไม่เจอสักทีอาจท้อแท้และเศร้าเกินกว่าจะมองโลกบวกได้
เรามักถูกฝังรากด้วยความเชื่อที่ว่าความสัมพันธ์ยืนยาวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ดี เราเห็นคนรักกันประกาศให้สังคมชื่นชมเมื่อความสัมพันธ์ออกดอก แต่เมื่อมีปัญหาหรือหย่าร้างคนก็ไม่ได้แจกการ์ดเชิญให้ไปดูความเศร้าโศกแต่อย่างใด
ความจริงก็ไม่แปลกที่คนจะแสดงด้านดีของชีวิตออกมา แต่เราควรฉุกคิดสักนิดว่าความจริงที่เราเห็นไม่ใช่ทุกด้านของชีวิต แน่ล่ะว่าการมีคนรักข้างกายก็ดีกว่าการอยู่คนเดียวในหลายแง่ แต่กระนั้นเราเกลียดชังหรือหวาดกลัวการอยู่คนเดียวเกินไปหรือเปล่า?
วันนี้เราจะมาพูดถึงข้อดีและวิธีการอยู่คนเดียวให้ดีต่อใจเพื่อบอกว่า ‘คนโสดจงเจริญ!’

ข้อดีของการอยู่คนเดียว
- ความสัมพันธ์กับตัวเองดีขึ้น
ด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เราต้องปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นแทบทุกวัน จนบางครั้งความสัมพันธ์หนึ่งที่เรามักมองข้ามไปคือความสัมพันธ์กับตัวเอง เมื่อเรามีเวลาให้ตัวเอง คุยกับตัวเองมากขึ้น เราอาจค้นพบความสุขในความสันโดษ และเรียนรู้ที่จะรู้สึกดีกับตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- ได้ค้นหาว่าตัวเองต้องการอะไร
แม้ว่าการมีคู่จะชุบชูหัวใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาและจุดโฟกัสของเราถูกแบ่งไปให้อีกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้ ช่วงที่เราโสดจึงเป็นช่วงที่เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ทำความเข้าใจกับความต้องการของตัวเองโดยปราศจากอิทธิพลหรือเงื่อนไขของคนอื่น
เพราะการมีคู่คือการผลัดกันก้าวผลัดกันถอย คอยหาตรงกลางว่าจะเดินไปด้วยกันอย่างไรให้พอใจคนทั้งสองมากที่สุด เมื่อเราอยู่คนเดียวจึงเป็นโอกาสทองที่เราไม่ต้องประนีประนอมมากนัก และทำให้เราเติบโตภายในอย่างรวดเร็ว
- ให้เวลากับความสัมพันธ์รูปแบบอื่น
เวลาของทุกคนมีเท่ากันคือวันละ 24 ชั่วโมง เราเหมือนถูกบังคับให้ต้องจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะทำและคนที่จะใช้เวลาด้วยตลอดเวลา ในช่วงที่เรามีความสัมพันธ์ลดลงไปหนึ่งรูปแบบจึงเป็นช่วงที่เราให้ความสำคัญกับครอบครัว เพื่อน งาน หรือสิ่งอื่นๆ ได้มากกว่าเดิม
เราสามารถสานสัมพันธ์รูปแบบอื่น กลับไปใช้เวลากับที่บ้าน มีเวลาให้เพื่อนเก่าที่อาจไม่ค่อยได้เจอกัน เมื่อความสัมพันธ์เหล่านี้แข็งแรงก็จะเป็นรากฐานที่ดีหากในอนาคตเราจะมีความสัมพันธ์แบบคนรักเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง

สิ่งที่ทำได้ (และควรทำ) เมื่อโสด
- ออกไปเจอผู้คน (เมื่อพร้อม)
แม้ว่าการอยู่คนเดียวจะทำให้เราได้ตกตะกอนอะไรมากมาย แต่มนุษย์อยู่อย่างเดียวดายตลอดเวลาไม่ได้อยู่แล้ว มีงานวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นว่าการแยกห่างและตัดการเชื่อมต่อจากสังคมส่งผลต่อสุขภาพจิต และอาจนำไปสู่ภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้าได้
เมื่อเราใช้เวลากับตัวเองพอสมควรแล้ว อาจจะลองเข้าสังคม ออกไปทำความรู้จักคน ใช้เวลากับเพื่อนฝูงให้ชีวิตโสดเดินหน้าต่อไปอย่างไม่โดดเดี่ยวนัก
- ลงคอร์สเรียน ลองสิ่งใหม่ๆ ค้นหาตัวเอง
เมื่อก่อนเคยไหม บ่นว่าอยากลองนู่นทำนี่แต่ไม่มีเวลา นี่แหละคือโอกาสที่เราจะได้ลองสิ่งต่างๆ
บางคนอาจอยากลองไปอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศสักเดือน ฝึกสกิลใหม่ๆ ที่ต้องทุ่มเททั้งเวลาและความตั้งใจ เล่นกีฬาผาดโผน และอีกหลายอย่างที่หากมีคนรักก็อาจจะต้องคุยกัน และวางแผนให้เข้ากับชีวิตคู่ไม่มากก็น้อย แต่เราสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้เต็มที่มากขึ้นเมื่ออยู่คนเดียว
- ลองดูแลตัวเอง/ออกเดทกับตัวเองบ้างก็ได้
กลิ่นดอกไม้โชยมาบอกรักยามเช้า ทานข้าวบนเตียงในวันสบายๆ ถ้าเราสร้างบรรยากาศโรแมนติกขึ้นมาเองบ้างจะเป็นไรไป
ลองปรนเปรอหรือให้ของขวัญตัวเอง เข้าสปา หาหนังสือดีๆ สักเล่มอ่าน ความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ทำให้เรากระชุ่มกระชวยขึ้น และตระหนักได้ว่าความสุขก็เกิดขึ้นจากตัวเราได้เหมือนกัน
- พบปะสมาคมคนโสด
หากรอบตัวมีแต่เพื่อนที่มีคู่เราอาจยิ่งรู้สึกแปลกแยกหรือหดหู่ การไปเที่ยวกับเพื่อนที่โสดเหมือนกันบ้างอาจช่วยให้รู้สึกดีขึ้น เพราะคนที่อยู่จุดเดียวกันมักเข้าใจปัญหาและพูดคุยกันได้มากกว่า และเราเองก็มักอุ่นใจเมื่อได้เจอคนแบบเดียวกัน
- โฟกัสที่เป้าหมายของเรา
ปัญหาเวลาโสดส่วนหนึ่งมักมาจากคนอื่นที่มีบรรทัดฐานหรือความคาดหวังว่าชีวิตที่ดีต้องมีคนรัก สิ่งที่เราต้องรับมือจึงเป็นการยืนหยัดกับจุดยืนและท้าทายความคาดหวังของสังคม ซึ่งการอยู่ท่ามกลางแวดล้อมนี้จะง่ายขึ้นหากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนและโฟกัสกับมัน
เพราะการโฟกัสที่เป้าหมายสามารถนำไปสู่การค้นพบวิธีเติมเต็มตัวเองโดยปราศจากความรักโรแมนติก การรู้คุณค่าของตัวเอง และจิตใจที่มั่นคงแข็งแรง
- เตือนตัวเองตัวใหญ่ๆ ว่าเราไม่จำเป็นต้องโสดตลอดไป
การอยู่คนเดียวอาจไม่ได้แย่ขนาดนั้น และการมีคู่ก็อาจไม่ได้ดีขนาดนั้น สิ่งที่เราพอจะทำได้คือทำทุกวันตรงหน้าให้ดีที่สุด แล้วเต้นไปตามจังหวะที่ชีวิตมอบให้ เร็วบ้าง ช้าบ้าง เนิบบ้าง สนุกบ้าง คนเดียวบ้าง เป็นคู่บ้าง
แต่อย่าลืมนะว่าเราเองก็มีส่วนในการกำหนดจังหวะชีวิตด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสเข้ามาก็อยู่ที่เราแล้วล่ะว่าจะอนุญาตให้ความสัมพันธ์เกิดขึ้นหรือไม่
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะมีคู่หรืออยู่กับตัวเอง ขอให้ความรักอยู่ข้างคุณ