เพิ่งจะผ่านปีใหม่ตามแบบไทยๆ ประกอบกับช่วงนี้ดาวย้ายดวงเคลื่อนกันให้วุ่นวาย ทำให้นึกอยากไปไหว้พระเติมแต้มบุญกันสักหน่อย วันนี้ SPACEBAR อยากชวนเพื่อนๆ สายบุญ สายมู จัด One Day Trip เดินทางง่ายๆ ไปกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเสริมดวงปังกับ 3 วัดคัดมาให้ เที่ยวไหว้พระใกล้กรุง เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเอง หรือจะชักชวนครอบครัว ญาติพี่น้อง คนรักไปด้วย ก็เห็นจะดีงาม ไปจ้ะ...ไปดู ไปมูกัน 3 วัดต้องไปไหว้พระวันในหยุดสุดสัปดาห์ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพร้อมกัน

พามามูสถานที่แรกของวันนี้ จะเรียกว่าวัดก็ไม่น่าจะได้ ‘พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’ ที่ประดิษฐานเด่นตระหง่าน ณ ทุ่งภูเขาทอง ซึ่งในอดีตเคยเป็นสมรภูมิรบหลายครั้งหลายครา โดยเมื่อปี พ.ศ. 2129 พระองค์ทรงกระทำการศึกจนมีชัยเหนือกองทัพพม่า ณ พื้นที่แห่งนี้ อันนี้เล่าประวัติคร่าวๆ พอสังเขป ส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ อยู่ในลักษณะทรงม้าศึก โดยองค์พระบรมรูปมีขนาด 3 เท่าของพระองค์จริง ซึ่งประดิษฐานบนลานหินอ่อนและหินแกรนิตสีขาว รอบๆ ฐานสลักภาพนูนต่ำบรรยายพระราชประวัติและวีรกรรมสำคัญต่างๆ ไว้อย่างสวยงาม

เคล็ด(ไม่ลับ)การไหว้สักการะและขอพร: ที่พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ นั้น โดยส่วนมากผู้คนจะมาขอพรเกี่ยวกับเรื่องสอบเลื่อนขั้น สอบเข้าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย รวมไปถึงขอพรเรื่องหน้าที่การงาน สำหรับขั้นตอนการไหว้สักการะก็ไม่ยาก บริเวณด้านหน้าของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จะมีซุ้มเล็ก ๆ ให้บริการธูป เทียน พวงมาลัย รวมไปถึงพระแสงดาบ พระมาลา ไม่ต้องรอช้าเดินไปแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เลย ในการสัการะนั้นเราจะใช้ธูป 9 ดอกและพวงมาลัย (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) จากนั้นเดินขึ้นไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ สวดคาถาตามป้ายที่มีอยู่ด้านหน้า เสร็จแล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานขอพรได้เลย ขั้นตอนนี้ขอย้ำว่าบอกแจ้งหรือระบุให้ชัดเจน (ย้ำให้แล้วนะ) เมื่อสมหวังดั่งที่ตั้งใจแล้วจะนำอะไรมาถวาย โดยส่วนมากก็จะเป็นไก่ชนตัวผู้ (สีและขนาดก็ตามแต่กำลังศรัทราและทุนทรัพย์ของแต่ละคน) นอกจากนี้ยัง พระแสงดาบ พระมาลา ให้เห็นบ้างประปราย
ที่ตั้ง: 9GCR+RPF ตำบล ลุมพลี อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
ที่ตั้ง: 9GCR+RPF ตำบล ลุมพลี อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000



เสร็จจากจุดแรกไม่รอช้ามาต่อกันที่จุดที่สอง ‘วัดกลางคลองสระบัว’ พามาไหว้พระขอพร หลวงพ่อทันใจ พระพุทธรูปทองสำริดเก่าแก่ ที่ตามประวัติเล่ากันว่า ประมาณปี พ.ศ. 2309 หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาแตก ได้มีพระธุดงค์มาพำนักที่บริเวณวัด และได้สังเกตเห็นร่องรอยของวิหารเก่า จึงได้ร่วมแรงกับชาวบ้านในบริเวณนั้น พัฒนาวัดนี้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่จู่ๆ ก็มีเหตุการณ์ประหลาด ท้องฟ้าเริ่มมืด ฟ้าร้องดังสนั่นและผ่าลงมา ทันใดทำให้ปูนที่พอกองค์พระพุทธรูปกะเทาะออกมาพบเห็นองค์พระพุทธรูป 4 องค์ เมื่อชาวบ้านทั้งหลายรู้ข่าวก็กล่าวขานกันต่างๆ นานาตามประสา และขอกราบไหว้บูชา แล้วเรียกหลวงพ่อทันใจ! ด้วยเหตุผลเพราะว่าพบองค์หลวงพ่อเพียงแค่ฟ้าผ่า แต่ถึงอย่างไรก็ตามองค์หลวงพ่อทันใจเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยทองผสมสำริด ส่วนจีวรลวดลายดอกพิกุล ตามข้อคาดคะเนของวัด เชื่อว่าผู้จัดสร้างองค์หลวงพ่อทันใจคงเป็นเชื้อพระวงศ์ของขุนหลวงหรือกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา สร้างถวาย เพราะลวดลายดอกพิกุลชาวศาสนาพราหมณ์เชื่อว่าเป็นดอกไม้สวรรค์มีกลิ่นหอม ส่วนต้นพิกุลมีอายุยืนยาวนานสมัยโบราณนิยมปลูกตามบ้านเรือนต่อมามีปลูกกันมากในเขตวัดวาอารามต่างๆ สำหรับพระพุทธรูปองค์ที่ 2 คือ หลวงพ่อเพชรหรือพระพุทธรูปขนมต้ม เรียกตามพุทธลักษณะ คือ ขัดสมาธิเพชร พระพักตร์กลม พระเนตรมองลงมาที่ญาติโยม ปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา แต่หล่อขึ้นมาตามแบบพระพุทธสิหิงค์ จะเรียกขานกันว่าพระพุทธขนมต้ม ประดิษฐานในวิหารคู่กับองค์หลวงพ่อทันใจ สำหรับพระพุทธรูปอีก 2 องค์ทางวัดกลางคลองสระบัวไม่ได้กล่าวถึง โดยทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามานั้น จะมีคุณลุงคนนึงที่นั่งประจำอยู่บนวิหารใหญ่นั่งเล่ารีพีตแบบนี้ ไปเรื่อยๆ วนไปครับวนไป

เคล็ด(ไม่ลับ)การไหว้สักการะและขอพร: เริ่มต้นด้วยจุดธูป เทียน ถวายดอกไม้ เพื่อไหว้หลวงพ่อทันใจและหลวงพ่อเพชร (องค์จำลอง) ที่บริเวณวิหารหลวงพ่อทันใจด้านหน้าคลองสระบัว (ที่นี่สามารถปิดทองได้) สวดคาถาหลวงพ่อทันใจ จากนั้นอธิษฐานขอพรเพียง 1 ข้อ บอกเรื่องที่ต้องการและระยะเวลาให้ชัดเจน บนบานสานกล่าวด้วยไข่ต้มหรือสิ่งของอื่นๆ หากพรที่ขอไว้บรรลุผลสำเร็จตามที่ตั้งใจ และควรมาแก้บนตามที่บอกไว้ และเพื่อให้สิ่งที่เราขอทันใจมากขึ้น จึงนิยมนำเงินไปวางไว้ที่องค์ท่านด้วยเช่นกัน จากนั้นขึ้นไปไหว้องค์จริงที่วิหารใหญ่ด้านบน จะมีให้ไหว้ ห่มผ้าพระประธาน หลวงพ่อทันใจ และหลวงพ่อเพชร ซึ่งมีเคล็ดลับว่าหากอยากให้พรที่ขอสำเร็จรวดเร็ว หลังจากห่มผ้าแล้วให้กระซิบบอกหลวงพ่อทันใจและหลวงพ่อเพชรที่ข้างหูท่านด้วยนะ นอกจากนี้สิ่งของที่นิยมบนบานสานกล่าว เช่น พวงมาลัยดอกมะลิ ขนมถ้วย ไข่ต้ม ไก่ต้ม หัวหมู ขนมจีนน้ำยา ผลไม้ บ๊ะจ่าง ข้าวต้มมัด และปัจจัยร่วมสร้างวิหารหลวงพ่อทันใจ
ที่ตั้ง: 9HC6+C4 วัดกลางคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
ที่ตั้ง: 9HC6+C4 วัดกลางคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000



‘วัดครุฑาราม’ สถานที่มูจุดที่สามอยู่ไม่ไกลจากวัดกลางคลองสระบัว แค่ขับออกมาจากวัดกลางคลองสระบัวแล้วเลี้ยวขวาไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึงแล้ว สำหรับประวัติอย่างย่อของวัดครุฑาราม บันทึกในพงศาวดารว่า เป็นวัดที่พระเจ้าเอกทัศโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ โดยวัดครุฑนี้ เป็นวัดที่มีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่นัก ตัวพระอุโบสถมีความสวยงาม กรอบหน้าจั่วประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ฐานแอ่นโค้งแบบท้องสำเภา ด้านหน้าต่อมุขและมีพาไลคลุม (หลังคาจั่นหับมุงกระเบื้องคลุมชายคา) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย ด้านในประดิษฐานพระประธานที่ทำจากหินทราย ปางมารวิชัย เสียแต่ว่าเศียรพระนั้นไม่ใช่ของเดิม เพราะเศียรพระเดิมหายไป ซึ่งต่อมาพระและชาวบ้านที่ได้ช่วยกันบูรณะ ได้หาเศียรพระในบริเวณใกล้เคียงมาทดแทน และพระโอษฐ์ของเศียรนั้น มีลักษณะคล้ายปากนก ผู้คนจึงเรียกพระประธานองค์นี้ว่า ‘หลวงพ่อครุฑ’ นอกจากด้านหน้าของศาลาการเปรียญ ยังได้ประดิษฐานรูปพญาครุฑ ไว้ให้ได้สักการะบูชากันอีกด้วย

เคล็ด(ไม่ลับ)การไหว้สักการะและขอพร: เช่นเดียวกันให้เริ่มต้นด้วยการจุดธูป เทียน ถวายดอกไม้ เพื่อไหว้หลวงพ่อครุฑ ซึ่งเป็นพระประทานที่พระอุโบสถก่อน จากนั้นมาไหว้องค์พญาครุฑด้านหน้าศาลาการเปรียญด้วยการจุดธูป 5 ดอกกล่าวเจ้าที่ จากนั้นจัดเครื่องบวงสรวง (มีเจ้าหน้าที่ของทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ จะชุดเล็ก ชุดใหญ่ ก็ตามแต่กำลัง) ประกอบไปด้วย ธูป 9 ดอก พวงมาลัย ผลไม้ ธัญพืช และน้ำเปล่า 1 แก้ว จากนั้นบูชาด้วยคาถาที่อยู่ด้านหน้า สำหรับพญาครุฑนั้นขอพรด้านการงานราชการ อุปสรรคในชีวิต ขึ้นโรงขึ้นศาล การเงิน การค้าขาย อสังหาริมทรัพย์ ความมั่นคงในกิจการ แต่ที่ห้ามเด็ดขาด!!! คือ ห้ามบนบาน!!!
ที่ตั้ง: 9HH5+56X ตำบล คลองสระบัว อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
ที่ตั้ง: 9HH5+56X ตำบล คลองสระบัว อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000


ยังครับ! ยังไม่หมดแค่นี้ เราขอแถมให้อีกสักวัด เพราะไหนๆ วัดนี้ก็อยู่บนเส้นทางสายมูของเราวันนี้อยู่แล้ว ตามตำนานเค้าว่ากันว่าวัดนี้คือหนึ่งในวัดที่ไม่ถูกพม่าเผาทำลายและเป็นวัดดังที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ‘วัดหน้าพระเมรุ’ จากประวัติศาสตร์ที่ได้เล่าขานกันมา เมื่อปี พ.ศ. 2016 สมัยของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ พื้นที่บริเวณระหว่างวัดหน้าพระเมรุกับวัดหัสดาราม ได้เป็นพื้นที่ปลูกพลับพลาที่ประทับของพระเจ้าบุเรงนองเมื่อตอนที่ทำสัญญาสงบศึก ในปัจจุบันวัดหน้าพระเมรุยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมอยุธยาในสภาพที่สมบูรณ์ หน้าบันเป็นไม้สักแกะสลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบเศียรนาค และมีรูปราหูสองข้างติดกับเศียรนาค ตามความเชื่อแล้วคือการที่มีเทพมาปกปักรักษาดูแล ซึ่งถือได้ว่าเป็นมงคลมากๆ ใครที่มีโอกาสได้มารอดประตูตรงจุดพระนารายณ์ทรงครุฑนี้ถือว่าเป็นการเสริมดวงด้วย


เคล็ดลับสายมู: ที่เหนือซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถ มียันต์โสฬสมงคล เชื่อว่าเมื่อเดินเข้าทางประตูด้านนี้ให้พูด อธิษฐานสิ่งดีๆ ก็จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง ส่วนประตูฝั่งทางออกจะมียันต์มหาจักพรรดิ เป็นมงคลอันยิ่งใหญ่ เมื่อรอดออกมาจากประตูฝั่งทางออกนี้ ให้อธิษฐานแต่สิ่งดีๆ อีกเช่นกัน จะทำให้มีพลังอธิษฐานเพิ่มทวีคูณ
ที่ตั้ง: 9H75+2G 76 อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
เป็นอันจบลงสำหรับทริปมูไหว้พระ 3 วัดที่ไม่ดัง แต่ปังมาก! ที่เราได้คัดเลือกมาฝากกันในวันนี้ แต่ก่อนจากกันไป เราก็ขอฝากไว้ให้คิดกันสักนิดว่า “แรงบุญ... หรือจะสู้แรง (ลงมือ) ทำ” คราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน ฝากติดตามกันต่อได้ที่ SPACEBAR นะครับ.
ที่ตั้ง: 9H75+2G 76 อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13000
เป็นอันจบลงสำหรับทริปมูไหว้พระ 3 วัดที่ไม่ดัง แต่ปังมาก! ที่เราได้คัดเลือกมาฝากกันในวันนี้ แต่ก่อนจากกันไป เราก็ขอฝากไว้ให้คิดกันสักนิดว่า “แรงบุญ... หรือจะสู้แรง (ลงมือ) ทำ” คราวหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน ฝากติดตามกันต่อได้ที่ SPACEBAR นะครับ.