หลังจากสถานการณ์โควิดที่ระบาดตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้นักย่ำโลกอย่างเราร้างราการเดินทางท่องเที่ยวและผจญภัยในแบบที่ชอบ แต่ต้องขอออกตัวไว้ก่อนนะ ว่าเป็นแค่ผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าเดินเขาเท่านั้น ยังไม่ถึงขั้นสายเทรลเดินป่าปีนเขา เพียงเพราะถ้าเมื่อไรเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าจากงานและพอมีเวลาว่าง ก็มักจะเอาตัวเองไปสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามทั้งยังท้าทายขีดความสามารถของเราเองก็เท่านั้นเอง
เริ่มศักราชใหม่ปี 2566 ด้วยความเป็นใจของอากาศในหน้าหนาว (ที่ยังทำหน้าที่ของตัวมันเองอยู่บ้าง) ส่งมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมลงมาในช่วงที่วันลาพักร้อนยังพอมีเหลืออยู่ เราก็ไม่รอช้าส่องโซเชียลดูหน่อยว่าเหล่านักเดินป่าเค้าไปจอยกันบนเขาลูกไหนบ้าง หลังจากใช้นิ้วไถโซเชียลอยู่พักใหญ่ บอกเลยว่าปีนี้หลังจากจบมาตรการป้องกันโควิดมาสักพักใหญ่แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวแนวเดินป่าก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดตั้งเหนือจรดใต้เลยก็ว่าได้ แต่ก็มีอยู่หนึ่งสถานที่ ที่คิดว่าถ้าไม่ได้ไปตอนนี้ ปีนี้ก็คงจะไม่ได้ไปแล้ว ไม่ใช่ว่ามันจะไปยากหรือว่าอะไรนะ เพียงเพราะเค้ามีกำหนดระยะเวลาในการเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมธรรมชาติและความงดงามของทิวเขาแค่ 2 - 3 เดือนต่อปีเท่านั้น คราวนี้ก็ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะเลือก ‘เขาช้างเผือก’ ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพราะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่ไกล และใช้วันลาไม่เยอะ (ต้องประหยัดไว้ก่อน เผื่อปีนี้จะได้ไปเดินเขาอีก 2 - 3 ลูก) อีกทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังเคยยกให้เป็น 1 ใน 10 Dream Destinations ที่ควรไปเยือนมากที่สุด หากใครเป็นขาผจญภัย ชอบปีนชอบป่าย เขาช้างเผือกคืออีกหนึ่งเส้นทางที่ห้ามพลาดในการเดินลุยเขาลูกนี้
นอกจากความสวยงามของธรรมชาติที่เขาช้างเผือกจะให้ได้แล้ว อีกหนึ่งกิตติศัพท์ของเขาลูกนี้ คือ การจองคิวขึ้นเขาช้างเผือกเรียกว่า ‘เดินไม่ยากเท่าจองให้ได้’ หลังจากที่เลือกเขาลูกนี้แล้ว ในใจก็แอบคิดว่าจะจองได้มั้ย แต่ด้วยแต้มบุญที่เราสั่งสมมาเป็นอย่างดี และความร่วมมือของเพื่อนๆ ในกลุ่มที่ตื่นแต่เช้าระดมพลช่วยกันโทรจองตั้งแต่ 08.30 ในที่สุดเขาช้างเผือกช้างใจที่ใครๆ ก็ว่าจองยาก ฉันก็จองได้สำเร็จ (อารมณ์เหมือนวันประกาศผลเอนทรานซ์ที่เด็กสมัยนี้อาจไม่เข้าใจ) คราวนี้ก็ได้เริ่มต้นพาหัวใจไปรีเฟรชกันจริงๆ สักที หลังจากเหนื่อยล้ากับเรื่องราวต่างๆ นานา ที่ผ่านเข้ามาในปีที่แล้ว เดี๋ยวเราจะพาไปเก็บบรรยากาศ และความสวยงามของการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ให้ลม ให้หมอกกระทบผิวหน้า ก่อนกลับมาลุยงานสำหรับปีนี้กัน
เริ่มศักราชใหม่ปี 2566 ด้วยความเป็นใจของอากาศในหน้าหนาว (ที่ยังทำหน้าที่ของตัวมันเองอยู่บ้าง) ส่งมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมลงมาในช่วงที่วันลาพักร้อนยังพอมีเหลืออยู่ เราก็ไม่รอช้าส่องโซเชียลดูหน่อยว่าเหล่านักเดินป่าเค้าไปจอยกันบนเขาลูกไหนบ้าง หลังจากใช้นิ้วไถโซเชียลอยู่พักใหญ่ บอกเลยว่าปีนี้หลังจากจบมาตรการป้องกันโควิดมาสักพักใหญ่แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวแนวเดินป่าก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดตั้งเหนือจรดใต้เลยก็ว่าได้ แต่ก็มีอยู่หนึ่งสถานที่ ที่คิดว่าถ้าไม่ได้ไปตอนนี้ ปีนี้ก็คงจะไม่ได้ไปแล้ว ไม่ใช่ว่ามันจะไปยากหรือว่าอะไรนะ เพียงเพราะเค้ามีกำหนดระยะเวลาในการเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมธรรมชาติและความงดงามของทิวเขาแค่ 2 - 3 เดือนต่อปีเท่านั้น คราวนี้ก็ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะเลือก ‘เขาช้างเผือก’ ในพื้นที่การดูแลของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพราะเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่ไกล และใช้วันลาไม่เยอะ (ต้องประหยัดไว้ก่อน เผื่อปีนี้จะได้ไปเดินเขาอีก 2 - 3 ลูก) อีกทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยยังเคยยกให้เป็น 1 ใน 10 Dream Destinations ที่ควรไปเยือนมากที่สุด หากใครเป็นขาผจญภัย ชอบปีนชอบป่าย เขาช้างเผือกคืออีกหนึ่งเส้นทางที่ห้ามพลาดในการเดินลุยเขาลูกนี้
นอกจากความสวยงามของธรรมชาติที่เขาช้างเผือกจะให้ได้แล้ว อีกหนึ่งกิตติศัพท์ของเขาลูกนี้ คือ การจองคิวขึ้นเขาช้างเผือกเรียกว่า ‘เดินไม่ยากเท่าจองให้ได้’ หลังจากที่เลือกเขาลูกนี้แล้ว ในใจก็แอบคิดว่าจะจองได้มั้ย แต่ด้วยแต้มบุญที่เราสั่งสมมาเป็นอย่างดี และความร่วมมือของเพื่อนๆ ในกลุ่มที่ตื่นแต่เช้าระดมพลช่วยกันโทรจองตั้งแต่ 08.30 ในที่สุดเขาช้างเผือกช้างใจที่ใครๆ ก็ว่าจองยาก ฉันก็จองได้สำเร็จ (อารมณ์เหมือนวันประกาศผลเอนทรานซ์ที่เด็กสมัยนี้อาจไม่เข้าใจ) คราวนี้ก็ได้เริ่มต้นพาหัวใจไปรีเฟรชกันจริงๆ สักที หลังจากเหนื่อยล้ากับเรื่องราวต่างๆ นานา ที่ผ่านเข้ามาในปีที่แล้ว เดี๋ยวเราจะพาไปเก็บบรรยากาศ และความสวยงามของการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ให้ลม ให้หมอกกระทบผิวหน้า ก่อนกลับมาลุยงานสำหรับปีนี้กัน
ฝากไว้สักนิดก่อนพิชิตยอดเขาช้างเผือก
- ช่องทางการจอง (สู้ๆ นะ ถ้าจองได้แล้ว เราคือเพื่อนกัน) ติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โทรจอง 0-3451-0979 และ 09-8252-0359 จองล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง 7 วันเท่านั้น แจ้งชื่อ เลขประชาชน เบอร์โทรและจำนวนคน (ไม่เกิน 6 คน)
- จำกัดนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 60 คน
- เขาช้างเผือกเปิดให้เดินทางช่วงเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ (หรือแล้วแต่สภาพอากาศ รอฟังประกาศจากทางอุทยานฯ)
- ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตร พร้อมกางเต็นท์ค้างคืนบนยอดเขา 1 คืน ซึ่งทางอุทยานฯ จะจัดเจ้าหน้าที่นำทาง และจ้างลูกหาบช่วยขนสัมภาระให้
- ควรเตรียมพร้อมร่างกายให้ดี เพราะต้องอดทนกับแดดและสภาพเส้นทางสูงชัน
- อุปกรณ์ที่ควรเตรียมไปได้แก่ เสื้อกันหนาว ถุงนอน ถุงเท้า แปรงสีฟัน น้ำดื่ม และเสบียงอาหาร ไฟฉาย กระดาษทิชชูแห้ง/เปียก และอุปกรณ์จุกจิกส่วนตัว เช่น พาวเวอร์แบงก์ แว่นกันแดด ยาประจำตัว เป็นต้น
- การแต่งตัวควรเป็นชุดแขนยาว (บังแดด) หมวกกันแดด รองเท้าผ้าใบ (แบบที่ยึดเกาะพื้นได้ดี) ถุงมือสำหรับปีนป่ายจับเชือกตามทาง (มีหรือไม่มีก็ได้)
- บนเขาช่วงพระอาทิตย์ตกไปแล้ว อากาศค่อนข้างเย็นอาจต่ำกว่า 20 องศา แถมบนยอดเขาลมแรงด้วย
- ไม่มีที่น้ำอาบควรเตรียมทิชชูเปียกไปเอง ห้องน้ำมีบริการ 2-3 ห้อง เป็นแบบส้วมหลุม และไม่มีไฟฟ้า
- หลังจากถึงจุดที่พักแล้ว กิจกรรมยอดฮิตตอนกลางคืนคือนอนดูดาวเต็มท้องฟ้าเยอะมากๆ และถ่ายรูปชมพระอาทิตย์ตก