ถ้าหากให้พูดถึง กรุงเทพมหานคร หลายๆ คนคงนึกถึง ไอคอนสยาม, วัดสระเกศฯ หรือ ภูเขาทอง, สะพานพระราม 8, แม่น้ำเจ้าพระยา และอีกมากมาย แน่นอนว่าถ้าหากบ้านเราอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เราไม่สามารถเห็นวิวกลางคืนของสถานที่เหล่านี้จากหน้าต่างห้องนอนแน่ๆ
แต่ที่โรงแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ สุรวงศ์ ทำได้จ้า!! ที่โรงแรมแห่งนี้ เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่กรุ่นกลิ่นอายกรุงเก่าแบบสุดๆ อีกทั้งยังมีวิวให้มองจากหน้าต่างห้องพักแบบทั่วกรุงเทพฯ เห็นหมด ไม่ว่าจะเป็น แม่น้ำเจ้าพระยา, ไอคอนสยาม, วัดสระเกศฯ หรือ ภูเขาทอง และ สะพานพระราม 8
โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ สุรวงศ์ มีทั้งหมด 2 ตึกด้วยกัน ซึ่งใน Tower A มีทั้งหมด 30 ชั้น แบ่งเป็นห้องพักทั้งหมด 399 ห้อง มีทั้งแบบ PREMIUM ROOM, EXECUTIVE ROOM และ FAMILY EXECUTIVE ในขนาดเริ่มต้นที่ 44 ตร.ม. แค่ขนาดเริ่มต้นก็กว้างขวางสะดวกสบายแล้ว
ซึ่งใน Tower A นอกจากที่พักแล้ว ที่ชั้น L ยังมีห้องอาหาร Huá Restaurant อีกด้วย ห้องอาหารนี้เป็น Main Outlet ของทางโรงแรม รองรับแขกที่เข้ามาใช้บริการได้ถึง 172 ที่นั่ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารในประเภท A La Carte คัดสรรสารพันจานเด็ด พร้อมเคล็ดลับความอร่อยจากสองสุดยอดวัฒนธรรมสตรีทฟู้ดระดับตานานอย่างฮ่องกงและเยาวราชมาไว้ในที่เดียว
โดยในช่วงเช้าห้องอาหารแห่งนี้ จะถูกปรับให้เป็นห้องอาหารสำหรับอาหารเช้า ซึ่งในไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ทางโรงแรมและทางห้องอาหารได้จัดมานั้น บอกเลยว่า นานาชาติสุดๆ เพราะไม่ได้มีเพียงแค่อาหารจีน แต่ยังมีอาหารชาติอื่นๆ ด้วย แต่สิ่งที่ถูกใจที่สุด คงเป็นบูธของ ‘ชุดไข่ลวกโบราณ’ ที่ดูเหมือนว่า ถ้าไม่ใช่ละแวกย่านกรุงเก่าแบบนี้ คงจะหากินได้ยากน่าดู
ที่ชั้น C ที่ถูกจัดให้เป็นชั้นของห้องประชุมสัมมนา ซึ่งประกอบด้วยห้องประชุมทั้งหมด 5 ห้องด้วยกัน โดยในห้อง เมฆา จะมีทั้งหมด 2 ห้อง คือ เมฆา 1 ขนาด 100 ตร.ม. และ เมฆา 2 ขนาด 162 ตร.ม. แต่สามารถยุบรวมให้เป็น Grand Ballroom ห้องใหญ่ห้องเดียวได้ มีขนาด 262 ตร.ม. เหมาะสำหรับจัดงานประชุม สัมมนา และจัดเลี้ยง รองรับโต๊ะจีนได้ทั้งหมด 20 โต๊ะ
นอกจากห้อง เมฆา แล้ว ยังมีห้องประชุมในขนาดกำลังพอดี ที่สามารถจัดประชุมสัมมนา และปาร์ตี้สังสรรค์ได้ในขนาดย่อมเยาด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้อง ทิวา ที่มีขนาด 107 ตร.ม., ดารา และ นภา ที่มีขนาด 53 ตร.ม. ซึ่งสามารถเลือกใช้พื้นที่ที่เหมาะแก่การใช้งานได้แบบสุดๆ
และในส่วนของชั้น F เป็นชั้นของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับแขกผู้เข้าพัก ทั้งสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้ ห้องสตรีมซาวน่า ห้องฟิสเนตที่มีเครื่องออกกำลังกายอย่างดีอยู่มากมายให้เลือกใช้ และเกมส์รูมที่น้องๆ หนูๆ รวมถึงผู้ใหญ่หลายๆ ท่านน่าจะชื่นชอบ เพราะมีทั้งตู้คีบตุ๊กตาน้องเมฆา รวมไปถึงเครื่องเล่นต่างๆ และ Play Station 5 ที่เล่นได้แบบเพลินๆ
สำหรับโรงแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ สุรวงศ์ ในแต่โซนนั้น จะมีธีมของงานศิลปะที่แตกต่างแต่เหมือนกัน นั่นคือการหยิบเอาเอกลักษณ์ในแต่ละย่านใกล้เคียงมาออกแบบให้เข้ากับในแต่ละโซน เช่น ชั้น L และชั้นที่เป็นที่ห้องพัก งานศิลปะต่างๆ จะออกแบบให้เป็นย่าน สุรวงศ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้ ส่วนชั้น C จะถูกออกแบบให้เป็นย่านพาหุรัด ด้วยความที่ชั้น C เป็นชั้นที่มีห้องประชุมสัมมนา เป็นห้องของการค้า จึงใช้ธีมของพาหุรัดที่เป็นย่านการค้า และชั้น F เป็นธีมย่านบางลำพู ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนนั่นเอง
มาที่ Tower B กันบ้าง ที่อาคารแห่งนี้ มีทางเชื่อมเข้าสู่อาคาร Tower A อยู่ 2 ชั้นด้วยกันนั่นคือ ชั้น L และชั้น C และในส่วนของชั้น L นั้นเป็นที่ตั้งของ Let’s Relax Spa ซึ่งผู้เข้าพักก็สามารถมาผ่อนคลายกับบริการนวดแผนไทย ที่จะช่วยคืนความสดชื่นมีชีวิตชีวาหลังการเดินทางหรือเดินชอปปิ้งมาตลอดทั้งวันอีกด้วย ส่วนชั้นอื่นๆ ของ Tower B นั้น จะเป็นที่สำหรับลานจอดรถ สามารถรองรับรถยนต์ได้ถึง 260 คัน รวมไปถึงมีจุดชาร์จแบตสำหรับรถ EV อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจอยากเปลี่ยนบรรยากาศการนอนแบบใหม่ ในสไตล์ย่านกรุงเก่า สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและสำรองห้องพักได้ที่
- grandecentrepointsurawong.com
- Line@: @gcpsurawong
- Facebook: @gcpsurawong
- Email: [email protected]
- เบอร์โทร: 02-0795888
