Analog Travel! เทรนด์ท่องเที่ยวใหม่ที่จะทำให้คุณใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น

10 เมษายน 2567 - 12:00

What-is-analog-travel-SPACEBAR-Hero.jpg
  • เข้าสู่ปี 2024 มาสักระยะหนึ่งแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงได้เริ่มออกท่องเที่ยวไปยังที่ที่ทุกคนได้วางแผนกันไว้บ้างแล้ว

  • ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมี ‘สมาร์ทโฟน’ คือสิ่งที่ช่วยให้การออกไปผจญภัยในโลกกว้าง ‘ง่าย’ ขึ้นเยอะ แต่ถ้าเกิดเราไม่มีสิ่งนี้ล่ะจะเที่ยวกันได้อย่างไร?

What-is-analog-travel-SPACEBAR-Photo01.jpg

เข้าสู่ปี 2024 มาสักระยะหนึ่งแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงได้เริ่มออกผจญภัยท่องเที่ยวไปยังที่ที่ทุกคนได้วางแผนกันไว้บ้างแล้ว บางคนอาจจะมีแพลนเที่ยวคนเดียว บางคนอาจจะไปเที่ยวกับแฟน หรือไม่ก็แก๊งเพื่อนสนิท เที่ยวในประเทศบ้าง นอกประเทศบ้าง โดยในปัจจุบันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมี ‘สมาร์ทโฟน’ คือสิ่งที่ช่วยให้การออกไปผจญภัยในโลกกว้าง ‘ง่าย’ ขึ้นเยอะ เพราะอยากรู้อะไรเกี่ยวกับที่ที่เราจะไป เส้นทางที่สะดวกในการท่องเที่ยว แค่เสิร์ชไม่กี่นาทีก็เจอข้อมูลครบหมดแล้ว แล้วถ้าเกิดเราไม่มีสิ่งนี้ล่ะจะเที่ยวกันได้อย่างไร

What-is-analog-travel-SPACEBAR-Photo02.jpg

หนึ่งในเทรนด์ท่องเที่ยวของปี 2024 ที่ทาง Skyscanner บริษัทเอเจนซี่ท่องเที่ยวชื่อดังเผยข้อมูลสำรวจออกมาเมื่อเดือนตุลาคม 2023 มีรูปแบบการท่องเที่ยวแบบหนึ่งที่ชื่อว่า ‘Analog Travel’ กำลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยข้อมูลมีการบอกว่าชาว Gen Z เริ่มไม่ค่อยโพสต์โซเชียลมีเดียกันบ่อยๆ แล้ว พวกเขาเริ่มโหยหาเทคโนโลยีเก่าๆ เพื่อค้นคว้าหาข้อมูลเวลาไปตะลุยเที่ยวมากขึ้น ซึ่งข้อมูลบอกว่า 16% ของวัยรุ่นอายุ 18 – 24 ปี ในสหราชอาณาจักร หยิบกล้องโพลารอยด์ออกไปเที่ยวในช่วงวันหยุด ในขณะที่อีก 13% ใช้กล้องวิดีโอแบบแฮนดิแคม และอีก 11% เลือกใช้กล้องฟิล์ม 35mm ซึ่งในสหราชอาณาจักรเองก็เริ่มมีการเที่ยวแบบ ‘Digital D`etox’ เพื่อใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ อย่างน้อยเป็นเวลาสามวัน โดยข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็มีการบอกว่า การได้เข้าไปอยู่กับธรรมชาติ Digital Detox เป็นเวลา 72 ชั่วโมง ช่วยลดความเครียด และเพิ่มการเรียนรู้ต่างๆ ได้มากขึ้น

What-is-analog-travel-SPACEBAR-Photo03.jpg

นอกจากนี้ในปัจจุบัน ประเทศฟินแลนด์ก็มีเกาะชื่อว่า Ulko-Tammio ที่เป็นจุดหมายการเดินทางท่องเที่ยวแห่งแรกของโลกที่ปราศจากการใช้โทรศัพท์ เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามของเกาะแห่งนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยเมื่อมาถึงเกาะ พวกเขาจะถูกขอให้เก็บหรือไม่ให้ใช้โทรศัพท์จนกว่าจะถึงวันออกจากเกาะ หรือแม้กระทั่งบางโรงแรมอย่าง Pine Cliffs Resort ในเมืองแอลการ์ฟ ประเทศโปรตุเกส ก็มีบริการ Digital Detox ที่พวกเขาจะเก็บโทรศัพท์ของคุณไว้เมื่อเดินทางถึงโรงแรม และอีกหนึ่งบริษัทการท่องเที่ยวอย่าง FLTO ก็มีการแนะนำแผนการเดินทางแบบไม่ต้องใช้โทรศัพท์ในการไปยังจุดหมายต่างๆ โดยให้เราใช้แผนที่เป็นตัวช่วยในการเดินทาง ขอคำแนะนำต่างๆ จากพนักงานในโรงแรมหรือตามคาเฟ่ หรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่เจอตามท้องถนน และถ้าจะถ่ายรูปก็อนุญาตให้ใช้กล้องดิจิทัลได้ แต่ต้องเป็นกล้องฟิล์มแบบใช้แล้วทิ้ง เป็นต้น 

ทั้งหมดนี้คืออีกหนึ่งเทรนด์การท่องเที่ยวที่น่าจับตามองในปี 2024 ท่ามกลางโลกที่ในชีวิตประจำวันเต็มไปด้วยเทคโนโลยีแสนสะดวกสบายมากมายรอบตัว แต่ผู้คนกลับเลือกที่อยากจะโหยหาและสัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์