สิงคโปร์: เมืองแห่งความ ‘เจริญ’ ที่อยู่ท่ามกลาง ‘พื้นที่สีเขียว’

24 ตุลาคม 2566 - 10:12

Why-Singapore-is-a-green-city-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ถ้าพูดถึงประเทศสิงคโปร์ สิ่งแรกๆ ที่เราจะนึกออกเลยก็คือ ความเจริญในหลากหลายด้าน เช่น ระบบสาธารณูปโภคด้านต่างๆ รวมไปถึงความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ

  • นอกจากนี้ถ้าใครไปเที่ยวสิงคโปร์ในช่วงหลังๆ น่าจะได้เห็นกันว่า แม้ที่นี่จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ แต่พวกเขากลับมีพื้นที่สีเขียวรายล้อมอยู่เต็มไปหมดทั่วทั้งเมือง

  • แล้วทำไมประเทศที่เต็มไปด้วยความ ‘เจริญ’ แห่งนี้ ถึงเต็มไปด้วย ‘พื้นที่สีเขียว’ เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ

ถ้าพูดถึงประเทศสิงคโปร์ สิ่งแรกๆ ที่เราจะนึกออกเลยก็คือ ความเจริญในหลากหลายด้าน เช่น ระบบสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม, การศึกษา, สุขภาพอนามัย, ความปลอดภัย รวมไปถึงความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ส่วนนักท่องเที่ยวแบบเราๆ เวลาไปเที่ยวประเทศนี้ สิ่งที่นึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้นแลนด์มาร์คกับของกินดังๆ อย่าง อ่าวมาริน่า เบย์, เมอร์ไลอ้อน, ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ, ข้าวมันไก่สิงคโปร์, บักกุ๊ดเต๋, คายาโทสต์ เป็นต้น  

นอกจากนี้ถ้าใครไปเที่ยวสิงคโปร์ในช่วงระยะหลังๆ มานี้ น่าจะได้เห็นและสัมผัสกันมาบ้างว่า แม้ที่นี่จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง แต่พวกเขากลับมีพื้นที่สีเขียวรายล้อมอยู่เต็มไปหมดทั่วทั้งเมือง ทั้งในรูปแบบของสถานที่ท่องเที่ยว สวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งอาคารที่พักอาศัยและสำนักงาน ซึ่งไม่ว่าจะกวาดสายตามองไปทางไหน เราก็จะเห็นสีเขียวของพันธุ์ไม้นานาชนิด และเป็นอีกหนึ่งประเทศที่แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางตึกสูงใหญ่แค่ไหน แต่เราก็สามารถสูดลมหายใจสดชื่นเข้าไปได้อย่างเต็มปอด แล้วทำไมประเทศที่เต็มไปด้วยความ ‘เจริญ’ แห่งนี้ ถึงเต็มไปด้วย ‘พื้นที่สีเขียว’ เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ 

บทเรียนในอดีต 

ย้อนกลับไปช่วงปีค.ศ. 1960 ตอนนั้นสิงคโปร์ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีแม่น้ำที่เต็มไปด้วยโคลน คลองปนเปื้อน และน้ำเสียที่ควบคุมไม่ได้ เต็มไปด้วยสลัมและการภาวะการว่างงาน แต่พวกเขาต้องการที่จะพัฒนาไปสู่หนทางที่ดีขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีคนแรกและผู้นำของสิงคโปร์ช่วงเวลานั้นอย่าง ลี กวน ยู อยากที่จะเปลี่ยนประเทศนี้ให้เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว และสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ ซึ่งเขาได้เริ่มโครงการปลูกต้นไม้ตามพื้นที่ข้างถนน ควบคู่ไปกับการทำความสะอาดที่เปลี่ยนภูมิทัศน์ของเมืองให้ดีขึ้น โดยสิงคโปร์ได้เรียนรู้จากอดีต และทำอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน 

กฎหมายว่าด้วยพื้นที่สีเขียว

Why-Singapore-is-a-green-city-SPACEBAR-Photo04.jpg
Why-Singapore-is-a-green-city-SPACEBAR-Photo02.jpg

เริ่มต้นจากสิงคโปร์ประกาศออกพระราชบัญญัติอากาศสะอาดในปี 1971 และตั้งกระทรวงสิ่งแวดล้อมในปี 1973 หลังจากนั้นก็มีแคมเปญ ‘สิงคโปร์ เมืองในสวน’ ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย โดยมีการปลูกต้นไม้มากกว่า 55,000 ต้นในปี 1970 และในปี 1971 ก็มีการริเริ่มวันปลูกต้นไม้ขึ้นอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีพระราชบัญญัติสวนสาธารณะและต้นไม้ ในปี 1975 ที่อนุญาติให้หน่วยงานของรัฐและเอกชนสงวนพื้นที่สำหรับพื้นที่สีเขียวในโครงการและอาคารของตัวเอง จากนั้นในปี 2005 สิงคโปร์ก็ประกาศให้มีระบบอาคารสีเขียว (Green Mark Scheme) ก่อนที่ในปี 2008 จะบังคับใช้กฎนี้ โดยอาคารสูงและพื้นที่อื่นๆ ถูกทำให้กลายเป็นระบบนิเวศที่ยั่งยืน ดังนั้นการที่เราเห็นต้นไม้เต็มไปหมดตามตึกใหญ่ๆ จึงเป็นเรื่องปกติที่เห็นได้ทั่วไปของที่นี่ ตัวอย่างที่เราเห็นได้ง่ายๆ ก็คือ สนามบินจีเวลชางงี และ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ 

วางแผนเพื่ออนาคต

Why-Singapore-is-a-green-city-SPACEBAR-Photo V01.jpg
Why-Singapore-is-a-green-city-SPACEBAR-Photo05.jpg

อย่างที่เราบอกไปว่าสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมจนถึงขั้นมีการออกเป็นกฎหมาย ดังนั้นพวกเขาจึงวางแผนเรื่องนี้สำหรับในอนาคตอยู่เสมอ แล้วเมื่อปี 2021 ได้เปิดตัว Singapore Green Plan 2030 เพื่อขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวเชิงสิ่งแวดล้อมต่อไป โดยจะปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น 1 ล้านต้นทั่วประเทศ จัดสรรพื้นที่สำหรับอุทยานแห่งชาติ และทำให้มีสวนสาธารณะที่อยู่ห่างแหล่งที่อยู่อาศัยด้วยการใช้เวลาเดินแค่ 10 นาที นอกจากนี้ยังมีแผน Building and Construction Authority (BCA) ซึ่งเป้าหมายแรกคือการสร้าง อาคารสีเขียวร้อยละ 80 ตามพื้นที่โดยรวม ให้ได้ภายในปี 2030 และจะความคิดเหล่านี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและภาคอสังหาริมทรัพย์ ก็จะทำให้สิงคโปร์ก้าวสู่การเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลกได้ภายในปี 2030

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์