ใครที่กำลังหาโลเคชั่นถ่ายรูปเล่นในวันหยุด ถ้าคุณไม่รู้จัก บ้านวินเซอร์ ย่านชุมชนกุฎีจีน ถือว่าพลาด แนะนำให้รีบไปด่วน เพราะล่าสุดกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนบ้านหลังนี้เป็น โบราณสถาน แล้ว!
บ้านวินเซอร์ บ้านไม้เก่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนพื้นที่ของชุมชนกุฎีจีน แม้บ้านจะเก่าจวนเจียนจะพัง แต่คงความงามของบ้านไม้ที่มีงานแกะสลักลวดลายขนมปังขิง คนที่ไปเยือนกุฎิจีนจะต้องถ่ายรูปบ้านหลังนี้กันทุกคน
ข่าวกรมศิลปากรขึ้นทะเบียน บ้านวินเซอร์ เป็นโบราณสถาน ทำให้ความสนใจบ้านหลังนี้กลับมาอีกครั้ง คนที่รักบ้านเก่าได้เห็นความพยายามซ่อมแซมบ้านด้วยการดีดบ้านให้สูงขึ้น ทำให้หลายคนรอ วันคืนชีพของบ้านหลังนี้

เหตุผลที่บ้านเหมือนจะเริ่มซ่อมแซม แต่มีเหตุต้องหยุดไป มาจาก 2 เหตุผล คือ
- การซ่อมแซมบ้านเก่าที่อยู่ริมน้ำ ต้องใช้งบประมาณสูง โดยเฉพาะบ้านที่เคยมีทางออกทางน้ำเป็นประตูด้านหน้า และอยู่ในชุมชนเก่า ยิ่งต้องใช้งบประมาณมาก เพราะการขนเครื่องมือและอุปกรณ์ไม่สามารถทำได้ทางบก
- สิทธิในการถือครองบ้าน บ้านวินเซอร์อยู่ในชุมชนกุฎีจีน ผืนแผ่นดินของมิสซัง พื้นที่ยี่สิบกว่าไร่ของชุมชนกุฎีจีนได้รับพระราชทานโดยพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ที่ทั้งหมดจึงอยู่ในกรรมสิทธิ์ของโบสถ์ ขณะที่ตัวบ้านเป็นของตระกูลวินเซอร์ ดังนั้นการปรับปรุงตัวบ้านต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของบ้าน
ซึ่งประเด็นหลักอยู่ที่ประเด็นที่ 2 และมีเรื่องราวและรายละเอียดที่ต้องทำความเข้าใจ...

บ้านที่เราเรียกว่า บ้านวินเซอร์ นั้น ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ที่ซื้อมาจากที่อื่น แล้วเอามาปลูกในบริเวณบ้านของตระกูลวินเซอร์
บริเวณบ้านวินเซอร์เดิมทีเป็นของ หลุยส์ วินเซอร์ ผู้ก่อตั้งกิจการ ห้างวินเซอร์ ที่ถนนเจริญกรุง เดิมบ้านวินเซอร์อยู่ในบริเวณเดียวกัน แต่พังไปหมดแล้ว บ้านไม้หลังสวยที่เราเห็นเป็นบ้านของ คุณพระประกอบ ญาติของตระกูลวินเซอร์ ชื่อของเรือนไม้หลังนี้่จริงๆ ควรเรียกว่า “บ้านคุณพระประกอบ”
หลังมรณกรรมของ “ครูแอ๊ด” สมสุข จูฑะโยธิน ครูใหญ่ของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลซางตาครู้ส ทายาทครูสมสุขส่งคืนสิทธิของบ้านและที่ดินกลับคืนให้วัดซางตาครู้ส ต่อมามีคนมาขอโบสถ์เพื่อขอเข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้ โบสถ์อนุญาตแล้วต่อมาจึงมีการปรับปรุงบ้านหลังนี้ แต่แล้วก็ต้องหยุดไว้ เพราะความพยายามปรับปรุงนำไปสู่ความเห็นคัดค้านจากทายาทของตระกูลวินเซอร์
ความน่าสนใจของบ้านหลังนี้กลับมา เมื่อกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนบ้านวินเซอร์เป็นโบราณสถาน (ณ วันที่ 25 เมษายน 2567) ทำให้สิทธิถือครองตัวบ้านอยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร

หากจะปรับปรุงบ้านเพื่อเหตุผลใดก็แล้วแต่ ต้องได้รับการอนุญาตจากกรมศิลปากร แต่สิทธิในที่ดินของบ้านวินเซอร์ยังเป็นของโบสถ์
ดังนั้นจึงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า อนาคตของบ้านวินเซอร์จะเป็นอย่างไร จะได้ซ่อมแซมต่อไปหรือไม่ จะเกิดความเห็นที่ไม่ตรงกันอีกไหม และบ้านเปลี่ยนไปอย่างไร
ในความเป็นห่วงอนาคตของบ้านหลังนี้ เราอยากเสนอความเห็นในฐานะสื่อที่ติดตามความเป็นไป สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งของการดูแลโบราณสถานหรือสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ที่เป็นชุนชมเก่าแก่ คือความยึดโยงกับประวัติศาสตร์ และคนในชุมชน เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ

พิพิธภัณฑ์บ้านกุฎีจีน เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำบ้านเก่าของคนในชุมชนมาทำเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา ความรู้ และถ่ายทอดสิ่งที่เป็น “รากเหง้า” ของชุมชนให้ดำรงอยู่สืบไป
คนที่มาเที่ยวได้ซึมซับกับวิถีชุมชนคาทอลิกที่มีคนโปรตุเกสเคยอยู่ที่นี่ คนในชุมชนได้ประโยชน์จากความเปลี่ยนแปลงนี้

ดังนั้น หาก บ้านวินเซอร์ จะเปลี่ยนแปลงต่อไป ความยึดโยงกับชุมชนเป็นสิ่งที่ไม่ควรลืม
ไปเที่ยวชม บ้านวินเซอร์ ได้ทุกวันที่ชุมชนกุฎีจีน ชะโงกชมบ้านทางเดินริมแม่น้ำ (เพราะเข้าบ้านไม่ได้)
แล้วคุณจะรู้เองว่า ทำไมคนไปบ้านวินเซอร์ต้องถ่ายรูปบ้านหลังนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึก