10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo00.jpg
10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo01.jpg
10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo02.jpg
10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo03.jpg

Photo Story: 10.10 แกรนด์โอเพนนิ่ง ‘หมออ๋อง’ ซบ ‘เป็นธรรม’

10 ต.ค. 2566 - 05:06

  • ‘เป็นธรรม’ ถือฤกษ์ 10.10 เปิดตัว ‘หมออ๋อง’ เป็นสมาชิก

  • ยืนยันไม่ใช่ ‘พรรคสำรอง’ แค่อยู่หมู่บ้านปชต.เดียวกัน

  • เชื่อ ทำหน้าที่ราบรื่น หลังวิปรัฐบาลไม่ขวางทำหน้าที่รองปธ.สภาฯ

10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo00.jpg
10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo01.jpg
10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo02.jpg
10-10-2023-Grand-Opening-Padipat-Pentham-SPACEBAR-Photo03.jpg

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค. พรรคเป็นธรรม เปิดตัว ‘หมออ๋อง’ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เข้าเป็นสมาชิกพรรคอย่างเป็นทางการ โดยปดิพัทธ์กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า พรรคเป็นธรรมมีแนวทางที่ใกล้เคียงกับพรรคก้าวไกลมากที่สุด ส่วนตัวรู้ดีว่า การทำงานต้องเผชิญความเสียดทาน ทั้งการปฏิรูปสภาให้โปร่งใส การผลักดันวาระก้าวหน้าหรือนโยบายที่ได้แสดงไว้ในสภาผู้แทนราษฎรตอนที่เข้าชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯซึ่งได้หารือกับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคแล้ว ยินดีที่จะสนับสนุนแนวทางนี้เพื่อให้เห็นความก้าวหน้าของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้สมัครสมาชิกทางกฎหมายรอหนังสือยืนยันการพ้นจากสมาชิกพรรคก้าวไกล จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งคาดว่า จะมาถึงในเร็วๆนี้และจะสมัครเข้าพรรคเป็นธรรมต่อไป เพื่อให้คลายความสงสัยว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจในการไร้สังกัดพรรคการเมือง และในวันนี้ตรงกับวันที่ 10 เดือน 10 แต่ไม่ได้ถือฤกษ์อะไร ถือว่าเป็นวันดี เพราะวันพรุ่งนี้ ส่วนตัวจะทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ในฐานะประธานในที่ประชุม เพื่อให้ทุกคนเข้าใจว่า มีสังกัดพรรคใหม่และอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 

สำหรับแนวทางของรองประธานสภาฯ แน่นอนว่า จะต้องเป็นกลาง ตามรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นไปไม่ได้ว่า อยู่พรรคใดจะก่อให้เกิดความเสียเปรียบได้เปรียบในสภา ฉะนั้นการทำงานในสภา ทั้งการบรรจุกฎหมาย การพิจารณาร่างการเมือง การเดินหน้ารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ส่วนตัวก็อำนวยความสะดวกให้กับทุกพรรคและดำเนินการโดยเท่าเทียมกัน

ส่วนบรรยากาศตอนนี้ ถือว่าดีขึ้น อดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ก็ให้การสนับสนุนและน้อมรับการตัดสินใจของตนเอง แต่ทั้งนี้ ถ้ามีคำแนะนำอะไรหรือท่าทีอย่างไร ก็พร้อมจะน้อมรับ และเชื่อว่า การทำงานในสภาก็คงจะราบรื่น แต่คิดว่าจะมีแรงเสียดทานเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจรับสภาที่มีมหากาพย์รออยู่และยังไม่รวมอีกหลายๆเรื่องที่จะต้องทำให้โปร่งใสมากขึ้น แต่คงเป็นความท้าทายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนแน่นอน

อย่างไรก็ตาม กรณีกำหนดว่าประธานสภาและรองประธานสภาต้องเป็นฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดนั้น ถือเป็นบทเรียนทางการเมืองว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 ดีหรือเสียอย่างไร แต่คงไม่สามารถตัดสินได้ในวันนี้ ต้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องใช้เวลาในการถอดบทเรียนตลอด 4 ปี หลังจากนี้จะได้รู้ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร 

สำหรับเสียงตอบรับจากชาวพิษณุโลกนั้น ปดิพัทธ์ กล่าวว่า ชาวพิษณุโลกทักทายว่า ‘อย่าออก’ แทนคำว่าสวัสดี เพราะชาวพิษณุโลกต้องการให้คนพิษณุโลกดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯมาก เพราะตำแหน่งนี้สามารถขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าได้

ด้านปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตรใหม่ ที่พรรคเป็นธรรมมีความภูมิใจและได้รับเกียรติจากปดิพัทธ์เข้ามาร่วมงาน ซึ่งพรรคเป็นธรรมมีบริบททางการเมืองชัดเจน ดำเนินงานตามอุดมการณ์ประชาธิปไตย ประเทศชาติ ประชาชน ด้วยความเป็นธรรม หลังจากนี้ก็จะมีบริบทของการบริหารงานในสภาเพิ่มมากขึ้น จากการเป็นแค่ฝ่ายค้าน และพรรคเป็นธรรมพร้อมสนับสนุนการทำงานของปดิพัทธ์ ไม่ว่าจะเป็นการทำสภาให้โปร่งใสตรวจสอบได้และงานอื่นๆ ซึ่งจะเข้ามาเป็นคณะทำงานของปดิพัทธ์ด้วย ส่วนปดิพัทธ์เองจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งใดๆ ในพรรคจะทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกพรรคเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า การรับปดิพัทธ์เข้าเป็นสมาชิกพรรคนั้น จะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติและเข้าสู่ที่ประชุมของคณะกรรมการบริหารพรรคก่อน ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจเพียงแค่คนเดียว ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับของพรรค เพราะปดิพัทธ์ ไม่ได้มาเป็นสมาชิกตามปกติ แต่มีตำแหน่งรองประธานสภาฯพ่วงมาด้วย 

ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากเห็นการเมืองแบบใหม่ที่คนย้ายพรรคไม่จำเป็นจะต้อง ได้อามิสสินจ้างหรือมีการแจกกล้วย และพรรคเป็นธรรมไม่ได้ตกปลาในพรรคก้าวไกล ไม่ได้ตกปลาในพรรคก้าวไกล จึงยืนยันว่า เราไม่ได้เป็นพรรคสาขาของพรรคก้าวไกลแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการแข่งขันในพื้นที่มาโดยตลอด เราเหมือนเป็นพรรคประชาธิปไตยที่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน แต่กินข้าวกันคนละชามคนละเมนูแค่นั้นเอง 

“ผมอยากเห็นการเมืองในลักษณะนี้เกิดขึ้น คือการเมืองมีลักษณะประชาธิปไตยแบบใหม่ การย้ายพรรคของนักการเมืองคนหนึ่ง ที่เข้ามาสู่พรรคการเมืองอีกพรรคหนึ่ง ไม่มีเรื่องอามิสสินจ้าง ไม่มีระบบช่วยเหมือนแต่ก่อน แต่เป็นการย้ายพรรคด้วยอุดมการณ์ และพรรคเป็นธรรมไม่ได้ไปตกปลาในบ่อของพรรคก้าวไกล เราเพียงอยู่หมู่บ้านเดียวกันและมีบ้านคนละหลัง และกินข้าวกันคนละชาม หากข้าวในชามของผมไม่อร่อยเหมือนพรรคก้าวไกล ก็ต้องว่ากันไป เพราะเราเป็นพรรคเกิดใหม่” ปิติพงศ์ กล่าว

ขณะที่ กัณวีร์ สืบแสง สส.และเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ยืนยันว่า พรรคเป็นธรรมไม่ใช่พรรคสาขาของพรรคก้าวไกล แต่เป็นตัวเลือกและเป็นพรรคที่ดีที่ทำงานเพื่อประชาชนเป็นพรรคร่วมอุดมการณ์สร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศไทย จึงขอให้ประชาชนมั่นใจ และภูมิใจในการทำงาน 

นอกจากนี้ ปิติพงศ์ กล่าวถึงสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสว่า พรรคเป็นธรรมขอสงวนท่าที ไม่คิดจะนำประเด็นนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดก็ตามเนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและความหลากหลายทางความคิด และขณะนี้ข้อมูลยังไม่ชัดเจนหลายเรื่อง ณ วันนี้ เราจะทำหน้าที่สนับสนุนรัฐบาลให้ทำหน้าที่ให้เต็มที่ในการที่จะนำพี่น้องคนไทยกลับมาสู่ประเทศไทยโดยเรียบร้อย และเรียกร้องให้เจรจาเชิงสันติภาพในการต่อรองโดยการนำสันติวิธีมาใช้ และคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์