ผนึกกำลัง ‘3 สส.’ ขอล้มแชมป์ ‘อบจ.นราฯ’ 25 ปี

26 ม.ค. 2568 - 04:46

  • เดือดสุดๆ ! 3 สส. จาก ‘กล้าธรรม - ภูมิใจไทย’ ผนึกกำลังขอยึด ‘อบจ.นราธิวาส’

  • ลั่น คนเก่าอยู่ในอำนาจมา 25 ปีไร้การพัฒนา

3_politicians_from_Narathiwat_are_campaigning_SPACEBAR_Hero_5ed62f0b7d.jpg

สนามกีฬาเทศบาลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ได้มีการเปิดปราศรัยและการแสดงวิสัยทัศน์ของ ‘อับดุลลักษณ์ สะอิ’ (แบเลาะห์) ผู้สมัครนายกอบจ.นราธิวาส หมายเลข 2 โดยไฮต์ไลท์ สำคัญ คือมี สส.จากหลายเขต และต่างพรรคการเมือง พร้อมใจร่วมขึ้นปราศรัยขอคะแนนให้ ‘อับดุลลักษณ์ สะอิ’ อย่างคึกคัก 

ได้แก่ 2 สส.จากพรรคกล้าธรรม คือ ‘สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ’ และ ‘อามินทร์ มะยูโซ๊ะ’ รวมถึง ‘ซาการียา สะอิ' สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะน้องชายอับดุลลักษณ์ นอกจากนั้น ยังมีแกนนำพรรค เช่น ‘นัจมุดดีน อูมา’ อดีต สส.นราธิวาสหลายสมัย และเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ อาทิ ‘ไพซอล อาแว’ นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาสร่วมด้วย 

โดยอับดุลลักษณ์ กล่าวกับประชาชนว่า นราธิวาสต้องเปลี่ยนให้ได้ ที่มั่นใจเพราะจากการพบปะกับชาวบ้าน มีการตอบรับว่า เราจะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน เมื่อได้เข้ามาทำหน้าที่จะทำตามนโยบาย 5 ข้อ คือ 

  • 1.ร่วมพัฒนาแผนพัฒนาทุก 
  • 2.จะทำเวทีประชาคมของทุกอำเภอ เพราะตลอด 25 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งนี้เกิดขึ้นในจังหวัดนราธิวาสของเรา การที่เราจะรู้ว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในพื้นที่บ้างเราก็รู้จักประชาชนโดยตรง ถึงจะสามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด เพราะแต่ละพื้นที่ก็มีความแตกต่างของปัญหากันออกไป 3. อบจ.จะนำกีฬามาแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับเยาวชน 
  • 4\. จะนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากทุกอำเภอทุกพื้นที่นำมาพัฒนาร่วมกันเพื่อนำไปสู่การออกไปยังตลาดในประเทศและนอกประเทศ 
  • 5\. จะจัดตั้งหน่วยกู้ภัยกู้ชีพเพื่อที่จะให้ทันต่อภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นทั่วพื้นที่นราธิวาสซึ่งจะทำให้เราสามารถดูแลประชาชนของเราได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์

“สิ่งเหล่านี้ผมจะทำให้ได้ เพราะการมาของผมในวันนี้ ไม่ได้มาคนเดียว ผมมาเป็นทีม เราจะทำงานกันเป็นเครือข่าย โดยร่วมกับประชาชนทุกคน เพราะผมเชื่อว่าการทำงานเพียงคนเดียวไม่มีทางประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเรามีทีม มีเครือข่าย เราจะสามารถนำนราธิวาสเข้าสู่การพัฒนาให้เท่าเทียมกับหลาย ๆ จังหวัดได้ ดังนั้นผมจึงเสนอตัวเพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงจังหวัดนราธิวาส สิ่งที่ผมพูดไปไม่ใช่แค่คำสัญญา แต่ผมจะทำให้เห็นว่า ได้ลงมือทำจริงและทำทันที โดยไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเราจึงสามารถขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวได้ทันที”

อับดุลลักษณ์ กล่าว

ด้านอามินทร์ กล่าวปราศรัยว่า ขอบคุณชาวนราธิวาส ที่มาร่วมฟังปราศัยเพื่มขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้  ซึ่งวันนี้มีมากกว่า 8,000 คน และตนก็มั่นใจว่า พร่งนี้ ที่อำเภอ โกลก อย่างน้อยต้องถึง 10,000 คน และในวันที่ 30 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่อำเภอเมือง อย่างน้อยต้อง 20,000 คน

"พ่อแม่พี่น้องครับ กว่า 25 ปียุคของ 3 พ่อลูก ผู้นำคนเก่าไม่ค่อยได้ทำอะไร เมื่อเข้ามาเป็น สส.จึงเป็นโอกาสได้พัฒนาในพื้นที่ของเรา ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมาเราห็นอะไรในการเปลี่ยนแปลงบ้าง  มีอะไรที่พัฒนาขึ้นบ้าง วันนี้เรามี 3 สส.เราสามารถประสานได้หลายกระทรวง การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ครั้งนี้เราจะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน อำเภอรือเสาะ เป็นพื้นที่ ๆ มีเยาวชนจำนวนมาก แต่ อบจ.คนเดิมให้ความสำคัญอะไรกับเยาวชนบ้าง จริงๆแล้วเรามีสภาเด็กแล้วเยาวชนแต่ยกเว้นที่นี่ เราไม่เคยมี แต่ครั้งนี้เราจะผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อพัฒนาเยาวชนของเราที่ถือว่าเป็นเสาหลักของประเทศชาติ เราจะแสดงให้เห็นว่าเด็กๆ ของพวกเราจะมีความสำคัญมากขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องกีฬาที่เราจะสนับสนุนให้กับลูกหลานของเราให้เทียบเท่ากับจังหวัดอื่น ๆ ผมไม่ได้ต้องการโจมตีใคร แต่นี่คือการเปิดหูเปิดตาให้กับประชาชนว่า เราสามารถทำอะไรได้บ้างแต่ที่ผ่านมาทำไมถึงไม่เคยทำ“

อามินทร์ กล่าว

ด้านไพซอล กล่าวว่า 25 ปีเราไม่เคยเจอการปราศรัยในเวที อบจ.แต่ครั้งนี้คือประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาเราแทบจะลืมคำว่า นายก อบจ.ไปแล้ว แต่รอบนี้เป็นความหวังของชาวนราฯ ทุกคน เพราะเราได้รวมตัวกันให้เป็นหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้เกิดน้ำท่วมหายนะครั้งใหญ่ เป็นประวัติการณ์ เราได้เห็นพี่น้องของเราหลั่งน้ำตา บางท่านไม่มีบ้าน บางท่านนั่งอยู่บนหลังคา ขอถามว่า อบจ.ทำอะไรบ้าง การเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ถ้าเราเปลี่ยนแสดงว่า เราได้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของนราธิวาสแล้ว ตนฝากว่า การทำงานรอบนี้ไม่ใช่การทำงานแค่คนเดียว เราจะทำงานกันทั้งทีม คนไหนถนัดอะไรก็จะดูแลเรื่องนั้น ขอให้ทุกคนมาร่วมพลิกประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน 

ด้านซาการียา กล่าวว่า ถึงตนกับ สส.บีลาและ สส.อามินทร์ จะสังกัดคนละพรรคการเมือง แต่พวกเราคือ พรรคพวกกัน หากเราร่วมกันเดินหน้าพัฒนาจังหวัดนราธิวาสบ้านเรา เชื่อว่านราธิวาส จะเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน วันนี้จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศเล็งเห็นความสำคัญด้านการศึกษาปูพื้นฐานตั้งแต่เป็นเด็กเยาวชน ซึ่งถือว่าเป็นฐานรากที่เข้มแข็งของประเทศ แต่บ้านเรายังแข่งกับเขาไม่ได้ รวมถึงโรงเรียนสอนศาสนา หรือ ตาดีกา ที่บางแห่งยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือจากต่างประเทศ

“ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้ดีว่า อับดุลลักษณ์ จะมาทำอะไรให้กับทุกท่าน วันนี้การเปลี่ยนแปลงของอำเภอรือเสาะ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจังหวัดนราธิวาส เพราะทุกท่านทราบกันดีว่า ที่ผ่านมา 25 ปีที่ เราได้อะไรจาก อบจ.บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา แต่วันนี้เราจะการสร้างอาคารเอนกประสงค์เพื่อเป็นโรงเรียนสอนศาสนาให้กับทุกพื้นที่ เพราะปัจจุบันเรามีอยู่เพียง 2 แห่งเท่านั้น“

ซาการียา กล่าว

ซาการียา กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ต้องพูดเรื่องการเรียนศาสนา เพราะถ้าคนเรามีก็จะมีจริยธรรมไปสอนให้เด็กมีจริยธรรม เป็นคนดีในสังคมได้ ซึ่งตนเชื่อว่าทุกท่านอยากให้ลูกหลานประสบความสำเร็จ มีหน้าที่การงานทำดี ๆ แต่วันนี้ เราขาดโอกาสเราไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก อบจ.ที่จะให้มีติวเตอร์ดี ๆ มาสอนให้เยาวชนของเรา 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังสิ้นสุดการปราศัยและปิดเวที อับดุลลักษณ์ ได้นำคณะออกมายืนหน้าเวที เพื่อกล่าวขอบคุณพ่อแม่พี่น้องจากอำเภอรือเสาะและศรีสาคร รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงที่มาร่วมรับฟังนโยบายและให้กำลังใจ ในครั้งนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์