ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของวุฒิสภาว่า สว.ได้ร่วมกันเข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดลงของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกฯ และ ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกของ ‘พิชิต ชื่นบาน’ หลังมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 170 (4) และ (5) ประเด็นที่ว่าด้วยขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษืและมีพฤติกรรมฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบีติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ผ่านพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และล่าสุดเรื่องดังกล่าวถูกส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาแล้ว

โดย ‘ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม’ สว. ในฐานะผู้ร่วมลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของ สว. ที่ต้องทำหน้าที่ ในฐานะเป็นผู้แทนปวงชน หลังประเด็นการดำรงตำแหน่งของพิชิตนั้นมีผู้แสดงความเห็นในวงกว้างและเวทีสาธารณะว่าเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายเห็นว่าควรส่งให้องค์กรที่มีหน้าที่ คือ ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้พิจารณาวินิจฉัย โดยมี สว.ร่วมเข้าชื่อ 40 คน จากที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสว.ที่มีอยู่

ดิเรกฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับเหตุผลที่ระบุและบรรยายให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา คือ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งกรณีของพิชิตนั้น มีข้อเท็จจริงที่ปรากฎให้เห็นว่า มีการละเมิดอำนาจศาล และมีคำสั่งศาลสั่งให้จำคุก ทั้งนี้ มีคำบรรยายรายละเอียดข้อเท็จจริงของศาลที่ชัดเจนว่า มีพฤติกรรมทุจริต ติดสินบนต่อกระบวนการยุติธรรม และถูกนำเรื่องเข้าสู่สภาทนายความให้ลบชื่อจากการเป็นทนายความ ดังนั้นจึงเป็นกรณีที่ชัดแจ้งว่าไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ และยังมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ดิเรกฤทธิ์ กล่าวถึงกรณียื่นให้พิจารณาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของเศรษฐาด้วยว่า เป็นกรณีสืบเนื่องกันว่า มีประเด็นที่ทักทวงต่อการตั้งพิชิตให้ดำรงตำแหน่ง แต่ทำไมนายกฯ ยังเสนอชื่อและโปรดเกล้าฯ ให้พิชิตดำรงตำแหน่งในตำแน่งรัฐมนตรีอีก ดังนั้น จึงถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ
“กรณีนายกฯ ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย ส่วนที่ระบุว่าได้หารือกับกฤษฎีกาแล้ว พบว่าเป็นการหารือที่ไม่ตรงประเด็น ทั้งระยะเวลาการพ้นโทษ และการตีความระหว่างคำสั่ง กับคำพิพากษาเหมือนกันหหรือไม่ ทั้งนี้เรายังพบประเด็นที่เป็นปัญหา จึงเข้าชื่อเพื่อยื่นใหห้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย”
— ดิเรกฤทธิ์ กล่าว
ดิเรกฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวทราบว่า สำนักงานวุฒิสภาได้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และจากสำเนาเอกสารทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื่องแล้ว เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ดังนั้นหากศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา ต้องพิจารณาในประเด็นความสิ้นสุดลงของรัฐมนตรี และตำแหน่งนายกฯ ด้วย โดยรายละเอียดต่อจากนี้อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ทั้งนี้ ยืนยันว่า เป็นการทำหน้าที่ฐานะตัวแทนปวงชนชาวไทยตามหน้าที่และอำนาจของสว.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน