Photo Story: ส.ส.ประชุมสภาฯ พรึบ! ครบแล้ว 500 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยวันมูหะมัดนอร์ แจ้งต่อที่ประชุมว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำหนังสือลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคม พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ทำให้สมาชิกภาพความเป็น ส.ส.สิ้นสุดลง และณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. เนื่องจากต้องคดีเมาแล้วขับ ซึ่งศาลอาญามีนบุรีมีคำพิพากษาเป็นที่สุด ตนจึงได้ออกประกาศประธานสภาฯ เพื่อเลื่อน ส.ส.บัญชีรายชื่อแทนตำแหน่งที่ว่าง ได้แก่ อนุชา บูรพชัยศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ แทน พีระพันธุ์, สุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แทน ณธีภัสร์ และ ฐากร ตัณสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย แทนคุณหญิงสุดารัตน์ 

วันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อที่เลื่อนลำดับแทนตำแหน่งที่ว่าง ต้องเข้าปฏิบัติญาณตนต่อสภาฯ ก่อนเข้าหน้าที่ ซึ่งรวมถึง สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่สามารถมาร่วมปฏิญาณตนต่อที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 4 กรกฏาคมได้  

วันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้มี ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 500 คน  พร้อมกับระบุว่า ตนและรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน จะทำงานเพื่อประโยชน์ศักดิ์ศรีของ ส.ส.ทั้งหมด ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจาก ส.ส.ทุกคน ทำงานเพื่อประชาชนประเทศชาติ ร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพในการประชุม สำหรับการแสดงความเห็นในสภาฯ มีการถ่ายทอดสด จึงขอให้ระวังในการอภิปราย หากข้อความปรากฎภายนอกห้องประชุม ทั้งนี้ หากเป็นความผิดอาญาหรือละเมิดสิทธิทางแพ่งที่ไม่ใช่ ส.ส.หรือ ครม.เอกสิทธิ์ไม่คุ้มครอง 

นอกจากนี้ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ยังมีวาระสำคัญ คือ การกำหนดวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดย วันมูหะมัดนอร์ ได้ขอหารือว่า ในสมัยประชุมนี้จะมีการประชุมกี่วันต่อสัปดาห์ จากนั้น สุธรรม แสงประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้ประชุมสภาฯ อาทิตย์ละ 3 วัน คือ วันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี ขณะที่ ส.ส. ฝั่งพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเห็นด้วยกับการเพิ่มวันประชุมสภาฯ เป็นสามวัน เช่น ณัฐพงศ์  เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เห็นด้วยกับการกำหนดวันประชุมสภาฯ 3 วันต่อสัปดาห์ เพราะสมัยประชุมที่แล้วมีวาระค้างพิจารณามีวาระค้างพิจารณาอยู่จำนวนมาก จึงคิดว่า สมัยประชุมสภาฯ นี้จะได้ทำงานกันอย่างเต็มที่  

ส่วน ส.ส.ฝั่งรัฐบาลเดิมเห็นควรให้คงวันประชุมแค่ 2 วันตามประเพณีเดิม และหากมีวาระพิเศษเพิ่มก็สามารถกำหนดวันประชุมเพิ่มได้ เช่น อนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ เห็นควรว่า ประชุมเพียง 2 วันตามประเพณีเดิม เพราะประชุม 2 - 3 วันนั้นก็ไม่เท่ากับการกำกับควบคุมการประชุมให้มีคุณภาพเท่าที่จะทำได้ ถ้าประชุม 3 วัน แต่ผู้ควบคุมไม่เต็มประสิทธิภาพก็ไม่มีค่าอะไร และในข้อบังคับก็ได้ให้อำนาจประธานสภาฯ เรียกประชุมเพิ่มเติมหรือในกรณีเร่งด่วนได้ 

ขณะที่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่า การประชุม 3 วัน ควรเป็นแบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์ แต่ไม่ควรประชุมทุกวันศุกร์ เนื่องจาก ส.ส.ต้องลงพื้นที่ ทั้งนี้ อดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เห็นว่า การกำหนดวันประชุมสภาเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ ไม่จำเป็นต้องมีการลงมติ  

จากนั้น ประธานสภาฯ ระบุว่า ยินดีปฏิบัติตามข้อหารือของสมาชิกที่จะทำในการประชุม เพื่อทำให้การประชุมไม่เยิ่นเย้อ เน้นสาระมากที่สุด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและมองว่า จำนวนวันประชุมไม่สำคัญเท่ากับความร่วมมือของสมาชิก ที่จะใช้เวลาอภิปรายให้อยู่ในประเด็น การประชุมสภาฯ แค่ 2 วันอาจจะได้ประโยชน์มากกว่า 3 วันก็ได้ จึงกำหนดวันประชุมเป็น 2 วันต่อสัปดาห์ คือวันพุธและพฤหัสบดี และสามารถวันเพิ่มได้ตามความจำเป็น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือเพื่อกำหนดเวลาในการประชุม โดย รังสิมันต์  โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลเสนอ ให้เริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. ส่วนการหารือให้หารือได้ 30 คนต่อวัน คนละ 2 นาที 30 วินาที  

ขณะที่สมาชิกมีความเห็นที่หลากหลาย ทั้งให้หารือได้ 2 นาที แต่เพิ่มจำนวนคนหารือ หรือหารือได้คนละ 3 นาที หรือ ใช้เวลาหารือทั้งหมด 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ประธานเห็นควรว่า เริ่มประชุมในเวลา 09.00 น. หารือได้ 30 คน คนละ 3 นาที นอกจากนี้ ยังมีการหารือเพื่อกำหนดช่วงระยะเวลาการประชุมสภาฯ โดยสมัยแรกให้เป็นไปตามกฤษฎีกาคือ เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ส่วนสมัยที่สองผลการหารือกับสมาชิกกำหนดเป็น วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2567   

ต่อมา ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง สะพานยกระดับถนนอ่อนนุช - ลาดกระบัง ทรุดตัว เพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาลรักษาการเร่งดำเนินการ ที่ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ และญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง สาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาสะพานทรุดตัว กรณีสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช - ลาดกระบัง เพื่อส่งให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ ที่ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ โดยที่ประชุมเห็นชอบให้รวมพิจารณาไปพร้อมกัน ทั้งนี้ ธีรรัตน์ กล่าวว่า เหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 10 ราย เพราะโครงสร้างของสะพานดังกล่าว ไม่มีมาตรฐาน ไม่สามารถรับน้ำหนักของตัวสะพานได้ ทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งโครงการนี้สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าของโครงการใช้งบประมาณกว่า 1,600 ล้านบาท มีกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างไม่ชอบมาพากล เนื่องจากเอกชนผู้ชนะการประมูลมีการเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางเพียง 4 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งประเด็นนี้ต้องมีการตรวจสอบ ขณะเดียวกันต้องตรวจสอบเกี่ยวกับกระบวนการรับฟังความเห็นของประชาชนด้วย เพราะที่ผ่านมามีการทักท้วงเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการสัญจรไปมา อย่างไรก็ตามเห็นว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรุงเทพมหานครต้องเร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเร่งแก้ไขเสาสะพานที่เกิดการโน้มเอียงเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มอีก นอกจากนี้เห็นว่ายังต้องตรวจสอบโครงการก่อสร้างทุกแห่งที่อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานครให้มีมาตรฐานมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุกับประชาชนอีกต่อไป 

ขณะที่ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หนึ่งในผู้เสนอญัตติด่วน กล่าวว่า อุบัติเหตุดังกล่าว ต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็ว โดยเฉพาะมาตรฐานของเสาสะพานที่ใช้รับน้ำหนักมีความแข็งแรงเพียงพอหรือไม่ และบริษัทเอกชนที่ก่อสร้างมีการรายงานมาตรฐานความปลอดภัยให้กับสำนักการโยธากรุงเทพมหานครอย่างไร โดยย้ำว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดพลาดทางวิศวกรรมที่ไม่ควรเกิดขึ้น กรุงเทพมหานครต้องเร่งรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนรื้อถอนส่วนชำรุด และต้องตรวจสอบว่าดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาจ้างหรือไม่ อีกทั้งกรุงเทพมหานครต้องชี้แจงกรณีอนุญาติให้บริษัทเปลี่ยนแบบก่อสร้างโดยไม่ตรงสัญญาการประมูลด้วย 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมมีมติให้ส่งญัตติด่วนด้วยวาจากรณีการก่อสร้างสะพานยกระดับถนนอ่อนนุช - ลาดกระบัง ให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป