เรียกว่าเอาจนถึงวินาทีสุดท้าย สำหรับ ‘กลุ่มสามมิตร’ พรรคพลังประชารัฐ นั่นคือ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ รมต.ยุติธรรม ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รมต.ยุติธรรม และ ‘เสียแฮ้งค์’ อนุชา นาคาศัย รมต.สำนักนายกฯ ทั้งหมดล้วนเป็น กรรมการบริหาร พปชร. ทั้ง ประธานยุทธศาสตร์ - รองหัวหน้าพรรค - กรรมการพรรค เพราะก่อนหน้านี้ ‘มุ้งสามมิตร’ มี ส.ส. ในมือจำนวนมาก มีทั้ง ส.ส.ดังเดิม ที่เป็น ‘เด็กในคาถา’ และ ส.ส. ที่รับมาดูแลชั่วคราว แต่ในวันนี้ ส.ส.มุ้งสามมิตร กลายเป็น ‘ผึ้งแตกรัง’ กระจัดกระจายตัว เหลืออยู่ประมาณ 10 คนเท่านั้น เพราะเป็นการรวมกลุ่มแบบหลวมๆ
ผลพวงจาก ‘2ป.บูรพาพยัคฆ์’ แตกพรรคแยกทางกัน ระหว่าง ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พลังประชารัฐ กับ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปธ.ยุทธศาสตร์ฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้การวางเกมของ ‘กลุ่มสามมิตร’ ต้องออกอาวุธมากขึ้น เรียกว่า ‘ยุทธวิธีดาวกระจาย’ ไปทั้ง 3 พรรค โดย ‘อนุชา นาคาศัย’ ชัดเจนแล้วว่า จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติ อยู่กับ ‘ขั้วบิ๊กตู่’ ส่วน ‘ส.สุริยะ-สมศักดิ์’ ยืนกรานอยู่ พปชร. กับ ‘ขั้วป่ารอยต่อ’ ไม่ไปไหน โดยว่ากันว่าจะลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พปชร. ซึ่งก็ต้องแย่งชิงลำดับภายในพรรคกันฝ่นตลบ เพราะจะต้องอยู่ใน ‘เซฟโซน’
แต่งานนี้เหนือชั้นไปอีกขั้น มีการไปแกะรอย ‘ส.ส. มุ้งสามมิตร’ พบว่ามีไปซบ ‘พรรคเพื่อไทย’ แล้ว เท่ากับว่า ส.ส.มุ้งสามมิตร ที่ไปพรรคเพื่อไทย จึงถูกมองว่า สุดท้ายจะเป็น ‘ส.ส.ฝากเลี้ยง’ หรือไม่ เพราะมีการมองว่าในระดับพื้นที่ ‘กระแสเพื่อไทย’ ขายได้ดีกว่า ‘กระแส 2ป.’ จึงต้องชู ‘เพื่อไทย’ ในการขาย แต่ ‘ทางลม’ แห่ง ‘อำนาจ’ ต่างก็เชื่อกันว่ายังไม่เปลี่ยนทิศ ยังคงอยู่ที่ ‘ขั้วอำนาจ 3ป.’ ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่งานนี้ ‘แก๊งค์สามมิตร’ จะเอาจำนวน ส.ส. ไปเคลมเอาเก้าอี้ ‘รัฐมนตรี’ อย่างไร ? เรียกว่าเล่นเกมหลายหน้า-วางไพ่หลายใบ ไม่หลุดจาก ‘วงจรอำนาจ’ ง่ายๆ หรืองานนี้ ส.ส. มุ้งสามมิตร ที่ไปอยู่ ‘เพื่อไทย’ จะไปแล้วไปเลย ไม่กลับมาอีก หรือมีสัญญาใจอะไรหรือไม่?
สำหรับ ‘กลุ่มสามมิตร’ ล้วนเคยอยู่กับ ‘ขั้วทักษิณ’ ทั้งหมด ตั้งแต่ยุครัฐบาลไทยรักไทย โดยเฉพาะ ‘สมศักดิ์’ ที่อยู่ในกลุ่ม ‘วังน้ำยม’ ที่มี ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน เป็นแกนนำ ‘วังน้ำยม-วังบัวบาน’ ซึ่งสายสัมพันธ์ยังแนบแน่น ผ่านเครือข่าย ‘ภาคเหนือ-ภาคกลางตอนบน’
ทั้งหมดนี้เป็น ‘ยุทธวิธีดาวกระจาย’ ของกลุ่มสามมิตร ในการวางหมากอำนาจ ถูกมองเป็น ‘สูตรพรางตัว’ ในสนามการเมือง รองรับช่วง ‘เปลี่ยนผ่านอำนาจ’ ของ ‘ขั้วอำนาจ 3ป.’ ในอนาคตอาจได้เห็นหน้าตารัฐบาล ‘ฉบับพิสดาร’ ก็เป็นได้ หากนายกฯ ชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ แต่หากนายกฯ ชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ก็จะเป็นอีกทางไปเลย ซึ่งเรื่องนี้ ‘บิ๊กตู่’ ปัดพ้นตัว ยังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องนี้ โยนให้เป็นเรื่องหลังเลือกตั้ง
ผลพวงจาก ‘2ป.บูรพาพยัคฆ์’ แตกพรรคแยกทางกัน ระหว่าง ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พลังประชารัฐ กับ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปธ.ยุทธศาสตร์ฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้การวางเกมของ ‘กลุ่มสามมิตร’ ต้องออกอาวุธมากขึ้น เรียกว่า ‘ยุทธวิธีดาวกระจาย’ ไปทั้ง 3 พรรค โดย ‘อนุชา นาคาศัย’ ชัดเจนแล้วว่า จะไปพรรครวมไทยสร้างชาติ อยู่กับ ‘ขั้วบิ๊กตู่’ ส่วน ‘ส.สุริยะ-สมศักดิ์’ ยืนกรานอยู่ พปชร. กับ ‘ขั้วป่ารอยต่อ’ ไม่ไปไหน โดยว่ากันว่าจะลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พปชร. ซึ่งก็ต้องแย่งชิงลำดับภายในพรรคกันฝ่นตลบ เพราะจะต้องอยู่ใน ‘เซฟโซน’
แต่งานนี้เหนือชั้นไปอีกขั้น มีการไปแกะรอย ‘ส.ส. มุ้งสามมิตร’ พบว่ามีไปซบ ‘พรรคเพื่อไทย’ แล้ว เท่ากับว่า ส.ส.มุ้งสามมิตร ที่ไปพรรคเพื่อไทย จึงถูกมองว่า สุดท้ายจะเป็น ‘ส.ส.ฝากเลี้ยง’ หรือไม่ เพราะมีการมองว่าในระดับพื้นที่ ‘กระแสเพื่อไทย’ ขายได้ดีกว่า ‘กระแส 2ป.’ จึงต้องชู ‘เพื่อไทย’ ในการขาย แต่ ‘ทางลม’ แห่ง ‘อำนาจ’ ต่างก็เชื่อกันว่ายังไม่เปลี่ยนทิศ ยังคงอยู่ที่ ‘ขั้วอำนาจ 3ป.’ ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่งานนี้ ‘แก๊งค์สามมิตร’ จะเอาจำนวน ส.ส. ไปเคลมเอาเก้าอี้ ‘รัฐมนตรี’ อย่างไร ? เรียกว่าเล่นเกมหลายหน้า-วางไพ่หลายใบ ไม่หลุดจาก ‘วงจรอำนาจ’ ง่ายๆ หรืองานนี้ ส.ส. มุ้งสามมิตร ที่ไปอยู่ ‘เพื่อไทย’ จะไปแล้วไปเลย ไม่กลับมาอีก หรือมีสัญญาใจอะไรหรือไม่?
สำหรับ ‘กลุ่มสามมิตร’ ล้วนเคยอยู่กับ ‘ขั้วทักษิณ’ ทั้งหมด ตั้งแต่ยุครัฐบาลไทยรักไทย โดยเฉพาะ ‘สมศักดิ์’ ที่อยู่ในกลุ่ม ‘วังน้ำยม’ ที่มี ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบาน เป็นแกนนำ ‘วังน้ำยม-วังบัวบาน’ ซึ่งสายสัมพันธ์ยังแนบแน่น ผ่านเครือข่าย ‘ภาคเหนือ-ภาคกลางตอนบน’
ทั้งหมดนี้เป็น ‘ยุทธวิธีดาวกระจาย’ ของกลุ่มสามมิตร ในการวางหมากอำนาจ ถูกมองเป็น ‘สูตรพรางตัว’ ในสนามการเมือง รองรับช่วง ‘เปลี่ยนผ่านอำนาจ’ ของ ‘ขั้วอำนาจ 3ป.’ ในอนาคตอาจได้เห็นหน้าตารัฐบาล ‘ฉบับพิสดาร’ ก็เป็นได้ หากนายกฯ ชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ แต่หากนายกฯ ชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ก็จะเป็นอีกทางไปเลย ซึ่งเรื่องนี้ ‘บิ๊กตู่’ ปัดพ้นตัว ยังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องนี้ โยนให้เป็นเรื่องหลังเลือกตั้ง
