เรียกว่า ‘ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น’ สำหรับพ่อลูกแห่ง ‘บ้านชาญวีรกูล’ ที่ขึ้นมาสู่ตำแหน่ง รมว.มหาดไทย จาก ‘ปู่จิ้น ชวรัตน์’ ยุค รบ.อภิสิทธิ์ สู่ ‘เสี่ยหนู อนุทิน’ ยุค รบ.เศรษฐา หลังปิดตำนาน “มันจบแล้วครับนาย” ระหว่าง ‘เนวิน ชิดชอบ’ กับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ผ่านการตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ เสมือนเป็นการ ‘ล้างไพ่ใหม่’ ในทางการเมือง
เรียกว่า ‘ภูมิใจไทย’ กลับมาผงาดใน มท. ในรอบ 12 ปี ได้ขึ้นเป็น ‘รัฐมนตรีว่าการ’ ของ ‘อนุทิน’ ที่งานนี้ขน ‘ขุนพล’ มานั่ง ‘รัฐมนตรีช่วย’ อีก 2 คน ได้แก่ ‘ทรงศักดิ์ ทองศรี’ และ ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ เรียกว่า ‘เพื่อไทย’ ต้องยอม ‘กลืนเลือด’ ยกกระทรวงใหญ่ให้ และส่ง ‘เกรียง กัลป์ตินันท์’ มานั่ง รมช.มหาดไทย มาเพียง 1 คนเท่านั้น ทำให้อำนาจเบ็ดเสร็จตกไปที่ ‘ขั้วภูมิใจไทย’ ทั้งหมด
จุดสำคัญอยู่ที่ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ น้องชาย ‘เนวิน ชิดชอบ’ ครูใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย จบ ‘สิงห์แดง’ คณะรัฐศาสตร์ มธ. ในส่วน ‘ทรงศักดิ์ ทองศรี’ แม้ว่าจะจบนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง แต่ทั้ง ‘ทรงศักดิ์ - เนวิน’ เป็นเลือดชมพู-ฟ้า เหมือนกัน จบจาก ร.ร.สวนกุหลาบ ทำให้มีการจับตา ‘มหาดไทย’ หลังจากนี้ จะเข้าสู่ยุค ‘สิงห์แดง’ หรือไม่ หลังช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ในยุค ‘รบ.ประยุทธ์1-2’ เป็นยุคที่ ‘สิงห์ดำ’ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เติบโตในรั้วมหาดไทย ชนิดที่ ‘ดองสิงห์แดง’ เข้ากรุ
ในขณะนี้ ‘ผู้บริหารส่วนกลาง’ ในมหาดไทย ตั้งแต่ระดับปลัด รองปลัด อธิบดี ไม่มี ‘สิงห์แดง’ อยู่เลย แต่ถูกดองอยู่ในตำแหน่ง ‘ผู้ตรวจราชการกระทรวง’ ส่วนในระดับ ‘ผู้ว่าฯ’ ยังพอได้มีพื้นที่อยู่บ้าง แต่ก็ได้เพียงไม่กี่จังหวัดใหญ่ๆ หากเทียบกับ ‘สิงห์ดำ’ ที่รวบอำนาจในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา จึงต้องจับตา ‘โผอธิบดี-โผผู้ว่าฯ’ ในปีนี้ แต่งตั้งทดแทนคนที่เกษียณฯ จะเริ่มปูทางเข้าสู่ยุค ‘สิงห์แดง’ หรือไม่
แม้ว่าปลัด มท. จะเป็น ‘สิงห์ดำ’ ที่เลือดเข้มข้น แต่หากย้อนประวัติ ‘ปลัดเก่ง-สุทธิพงศ์ จุลเจริญ’ จะพบว่า ‘สุทธิพงศ์’ อยู่ใน มท. ตั้งแต่เป็นปลัดอำเภอ ช่วยราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขานุการรองปลัดกระทรวง และ ผู้อำนวยการ ศอ.บต. (พลากร สุวรรณรัฐ)
เคยเป็น หัวหน้าสำนักงาน รมว.มหาดไทย 4 คน ตั้งแต่ยุค พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา , อารีย์ วงศ์อารยะ , พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ อายุยังน้อย ตั้งแต่อายุ 46 ปี ด้วยเก้าอี้ ผู้ว่าฯ นครนายก ในยุค รบ.อภิสิทธิ์ ที่ขณะนั้น ‘ชวรัตน์ ชาญวีรกูล’ นั่ง รมว.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย อีกทั้ง ‘สุทธิพงศ์’ เคยเป็นหนึ่งในทีมทำงาน มท.1 ในขณะนั้น ที่มี ‘เสี่ยโอ๋-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ เป็นประธานคณะทำงาน
ก่อนถูกโยกเป็นผู้ตรวจราชการ มท. และกลับมาเป็น ผู้ว่าฯ สระบุรี , ผู้ว่าฯ ชัยนาท ขึ้นเป็น รองปลัดมหาดไทย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เรื่อยมาถึงตำแหน่งปลัดมหาดไทย
เรียกว่า ‘ปลัดเก่ง’ มีคอนเนกชั่นกกับทุก ‘ขั้วการเมือง’ ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย สมัย พล.อ.อ.คงศักดิ์ เป็น มท.1 ในยุค รบ.ทักษิณ 2 ก่อนเกิดรัฐประหาร 2549 ต่อด้วยยุค คมช. ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ต่อด้วยยุค รบ.สมัคร ผ่านการเป็น หัวหน้าสำนักงาน รมว.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม จนมาถึงยุค คสช. และเข้าสู่ รบ.ประยุทธ์ 2 ที่ได้ขึ้นเป็น ‘ปลัดมหาดไทย’ ด้วย ‘ซุปเปอร์คอนเนกชั่น’ ที่รู้กันในรั้ว มท. เอาชนะคู่แข่งคนอื่นๆ ชนิดที่ว่ามา ‘เหนือเมฆ’
มาถึงปัจจุบันที่ ‘สายลมอำนาจ’ เปลี่ยนทิศอีกครั้ง ผ่านการกลับมาของ ‘ภูมิใจไทย’ ที่มาคุม มท. ว่ากันว่างานนี้ ‘ปลัดเก่ง’ ก็ไม่หวั่น ด้วย ‘สายสัมพันธ์’ ในอดีตที่แน่นปึ๊ก ลุยงานต่ออีก 1 ปี รอเกษียณฯ
เรียกว่า ‘ภูมิใจไทย’ กลับมาผงาดใน มท. ในรอบ 12 ปี ได้ขึ้นเป็น ‘รัฐมนตรีว่าการ’ ของ ‘อนุทิน’ ที่งานนี้ขน ‘ขุนพล’ มานั่ง ‘รัฐมนตรีช่วย’ อีก 2 คน ได้แก่ ‘ทรงศักดิ์ ทองศรี’ และ ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ เรียกว่า ‘เพื่อไทย’ ต้องยอม ‘กลืนเลือด’ ยกกระทรวงใหญ่ให้ และส่ง ‘เกรียง กัลป์ตินันท์’ มานั่ง รมช.มหาดไทย มาเพียง 1 คนเท่านั้น ทำให้อำนาจเบ็ดเสร็จตกไปที่ ‘ขั้วภูมิใจไทย’ ทั้งหมด
จุดสำคัญอยู่ที่ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ น้องชาย ‘เนวิน ชิดชอบ’ ครูใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย จบ ‘สิงห์แดง’ คณะรัฐศาสตร์ มธ. ในส่วน ‘ทรงศักดิ์ ทองศรี’ แม้ว่าจะจบนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง แต่ทั้ง ‘ทรงศักดิ์ - เนวิน’ เป็นเลือดชมพู-ฟ้า เหมือนกัน จบจาก ร.ร.สวนกุหลาบ ทำให้มีการจับตา ‘มหาดไทย’ หลังจากนี้ จะเข้าสู่ยุค ‘สิงห์แดง’ หรือไม่ หลังช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ในยุค ‘รบ.ประยุทธ์1-2’ เป็นยุคที่ ‘สิงห์ดำ’ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เติบโตในรั้วมหาดไทย ชนิดที่ ‘ดองสิงห์แดง’ เข้ากรุ
ในขณะนี้ ‘ผู้บริหารส่วนกลาง’ ในมหาดไทย ตั้งแต่ระดับปลัด รองปลัด อธิบดี ไม่มี ‘สิงห์แดง’ อยู่เลย แต่ถูกดองอยู่ในตำแหน่ง ‘ผู้ตรวจราชการกระทรวง’ ส่วนในระดับ ‘ผู้ว่าฯ’ ยังพอได้มีพื้นที่อยู่บ้าง แต่ก็ได้เพียงไม่กี่จังหวัดใหญ่ๆ หากเทียบกับ ‘สิงห์ดำ’ ที่รวบอำนาจในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา จึงต้องจับตา ‘โผอธิบดี-โผผู้ว่าฯ’ ในปีนี้ แต่งตั้งทดแทนคนที่เกษียณฯ จะเริ่มปูทางเข้าสู่ยุค ‘สิงห์แดง’ หรือไม่
แม้ว่าปลัด มท. จะเป็น ‘สิงห์ดำ’ ที่เลือดเข้มข้น แต่หากย้อนประวัติ ‘ปลัดเก่ง-สุทธิพงศ์ จุลเจริญ’ จะพบว่า ‘สุทธิพงศ์’ อยู่ใน มท. ตั้งแต่เป็นปลัดอำเภอ ช่วยราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขานุการรองปลัดกระทรวง และ ผู้อำนวยการ ศอ.บต. (พลากร สุวรรณรัฐ)
เคยเป็น หัวหน้าสำนักงาน รมว.มหาดไทย 4 คน ตั้งแต่ยุค พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา , อารีย์ วงศ์อารยะ , พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ อายุยังน้อย ตั้งแต่อายุ 46 ปี ด้วยเก้าอี้ ผู้ว่าฯ นครนายก ในยุค รบ.อภิสิทธิ์ ที่ขณะนั้น ‘ชวรัตน์ ชาญวีรกูล’ นั่ง รมว.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย อีกทั้ง ‘สุทธิพงศ์’ เคยเป็นหนึ่งในทีมทำงาน มท.1 ในขณะนั้น ที่มี ‘เสี่ยโอ๋-ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ เป็นประธานคณะทำงาน
ก่อนถูกโยกเป็นผู้ตรวจราชการ มท. และกลับมาเป็น ผู้ว่าฯ สระบุรี , ผู้ว่าฯ ชัยนาท ขึ้นเป็น รองปลัดมหาดไทย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เรื่อยมาถึงตำแหน่งปลัดมหาดไทย
เรียกว่า ‘ปลัดเก่ง’ มีคอนเนกชั่นกกับทุก ‘ขั้วการเมือง’ ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย สมัย พล.อ.อ.คงศักดิ์ เป็น มท.1 ในยุค รบ.ทักษิณ 2 ก่อนเกิดรัฐประหาร 2549 ต่อด้วยยุค คมช. ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ต่อด้วยยุค รบ.สมัคร ผ่านการเป็น หัวหน้าสำนักงาน รมว.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม จนมาถึงยุค คสช. และเข้าสู่ รบ.ประยุทธ์ 2 ที่ได้ขึ้นเป็น ‘ปลัดมหาดไทย’ ด้วย ‘ซุปเปอร์คอนเนกชั่น’ ที่รู้กันในรั้ว มท. เอาชนะคู่แข่งคนอื่นๆ ชนิดที่ว่ามา ‘เหนือเมฆ’
มาถึงปัจจุบันที่ ‘สายลมอำนาจ’ เปลี่ยนทิศอีกครั้ง ผ่านการกลับมาของ ‘ภูมิใจไทย’ ที่มาคุม มท. ว่ากันว่างานนี้ ‘ปลัดเก่ง’ ก็ไม่หวั่น ด้วย ‘สายสัมพันธ์’ ในอดีตที่แน่นปึ๊ก ลุยงานต่ออีก 1 ปี รอเกษียณฯ