รศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย นำ 5,000 รายชื่อประชาชนที่สนับสนุนร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ... และประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 มอบให้อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อผลักดันให้พืชกัญชาได้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ต่อไป และไม่ต้องการให้กลับมาเป็นยาเสพติด
โดยอนุทิน กล่าวว่า รายชื่อผู้สนับสนุนดังกล่าวทำให้เห็นว่ากัญชามีประโยชน์ ถ้าใช้ในทางการแพทย์ สุขภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจ ด้วยชื่อเสียง และเกียรติภูมิของสมาคมนักวิจัยฯ ถ้าทำในสิ่งที่เสียหายก็คงไม่มีใครมาสนับสนุนเรื่องดังกล่าวแน่นอน และหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะหาความร่วมมือกับสมาคมนักวิจัยฯเพื่อขับเคลื่อนนโยบายกัญชาต่อไป เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือขยายฐานเพิ่มมากขึ้น
เมื่อถามว่า รายชื่อผู้สนับสนุนดังกล่าว จะสะท้อนไปถึงการประชุมกับคณะกรรมการป่องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในวันพรุ่งนี้ (22 พฤศจิกายน 2565) หรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าจะดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด อนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด สิ่งที่เป็นยาเสพติดคือสารสกัดจากกัญชา ที่มีค่า THC มากกว่า 0.2 % ฉะนั้นประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมานั้นได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้รักษากฎหมาย ฉะนั้นจึงเหลือขั้นตอนประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ ป.ป.ส. และ ครม. ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทำงานเพียงสองวันและติดช่วงเอเปคอย่าเพิ่งไปตื่นตกใจว่าประกาศกระทรวงดังกล่าวมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่า ไม่มีหน่วยงานไหนจะขวางไม่ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า มันเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย รัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงนามประกาศแล้วก็ถือว่าได้ใช้อำนาจไปเรียบร้อยแล้ว ตัดตอนไปแล้ว ถ้าใครเข้ามาร่วมด้วยก็จะถือว่าต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วยกัน แต่คงจะไม่มีนัยออกไปทางนั้นหรอก
เมื่อถามอีกว่า ป.ป.ส.สามารถดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดได้หรือไม่ หลังเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทยออกมาตั้งข้อสังเกตนั้น อนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ส.ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยคณะกรรมการชุดนี้ประกาศให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นที่มีสาร THC 0.2%
“ดังนั้นจะไปถ่มน้ำลายรดฟ้าได้อย่างไร และเรื่องดังกล่าวก็ไม่ต้องคุยกับวิษณุ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และไม่ได้มีการส่งเสริมในเชิงสันทนาการ ถ้าใครมีความกังวล ที่อ้างห่วงใยเยาวชน ผู้ใช้ในทางที่ผิดกันนักหนา ขอให้สนับสนุน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ให้เรียบร้อย จะเพิ่มเติม ตัดต่อ เสนอแนะ ในสภาฯ ทำได้หมด เพราะกรรมาธิการประกอบด้วยตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค ข้าราชการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าเป็นห่วงก็ออกกฎหมาย ไม่มีทางเลือกอื่น” อนุทิน กล่าว
โดยอนุทิน กล่าวว่า รายชื่อผู้สนับสนุนดังกล่าวทำให้เห็นว่ากัญชามีประโยชน์ ถ้าใช้ในทางการแพทย์ สุขภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจ ด้วยชื่อเสียง และเกียรติภูมิของสมาคมนักวิจัยฯ ถ้าทำในสิ่งที่เสียหายก็คงไม่มีใครมาสนับสนุนเรื่องดังกล่าวแน่นอน และหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะหาความร่วมมือกับสมาคมนักวิจัยฯเพื่อขับเคลื่อนนโยบายกัญชาต่อไป เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือขยายฐานเพิ่มมากขึ้น
เมื่อถามว่า รายชื่อผู้สนับสนุนดังกล่าว จะสะท้อนไปถึงการประชุมกับคณะกรรมการป่องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ในวันพรุ่งนี้ (22 พฤศจิกายน 2565) หรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าจะดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด อนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด สิ่งที่เป็นยาเสพติดคือสารสกัดจากกัญชา ที่มีค่า THC มากกว่า 0.2 % ฉะนั้นประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมานั้นได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้รักษากฎหมาย ฉะนั้นจึงเหลือขั้นตอนประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ ป.ป.ส. และ ครม. ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทำงานเพียงสองวันและติดช่วงเอเปคอย่าเพิ่งไปตื่นตกใจว่าประกาศกระทรวงดังกล่าวมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่า ไม่มีหน่วยงานไหนจะขวางไม่ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า มันเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย รัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงนามประกาศแล้วก็ถือว่าได้ใช้อำนาจไปเรียบร้อยแล้ว ตัดตอนไปแล้ว ถ้าใครเข้ามาร่วมด้วยก็จะถือว่าต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วยกัน แต่คงจะไม่มีนัยออกไปทางนั้นหรอก
เมื่อถามอีกว่า ป.ป.ส.สามารถดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติดได้หรือไม่ หลังเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทยออกมาตั้งข้อสังเกตนั้น อนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ส.ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้มอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยคณะกรรมการชุดนี้ประกาศให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติด ยกเว้นที่มีสาร THC 0.2%
“ดังนั้นจะไปถ่มน้ำลายรดฟ้าได้อย่างไร และเรื่องดังกล่าวก็ไม่ต้องคุยกับวิษณุ เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และไม่ได้มีการส่งเสริมในเชิงสันทนาการ ถ้าใครมีความกังวล ที่อ้างห่วงใยเยาวชน ผู้ใช้ในทางที่ผิดกันนักหนา ขอให้สนับสนุน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ให้เรียบร้อย จะเพิ่มเติม ตัดต่อ เสนอแนะ ในสภาฯ ทำได้หมด เพราะกรรมาธิการประกอบด้วยตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค ข้าราชการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าเป็นห่วงก็ออกกฎหมาย ไม่มีทางเลือกอื่น” อนุทิน กล่าว