









อานนท์ นำภา และ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมทนายความ เข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษ เอาผิดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุม กลุ่มราษฎรหยุดเอเปค บริเวณถนนดินสอ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ สน.สำราญราษฎร์
อานนท์ กล่าวว่า พยานหลักฐานบ่งชี้ว่าการสลายการชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการใช้กำลังทำร้ายผู้ชุมุนมและสื่อมวลชน ตนมีหลักฐานเป็นคลิปที่จะส่งให้ ตร. ต่อไป อีกทั้งมีผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บหลายราย ดังนั้นเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่ระดับปฏิบัติการถึงผู้บังคับบัญชา วันนี้จะเป็นการกล่าวโทษในภาพกว้าง ขอให้ส่งพยานหลักฐานเข้ามาได้ เพื่อเอาผิดทางแพ่งและอาญาต่อไป
ขณะที่ ปนัสยา กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น มีคนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นตาบอด ทั้งที่มีการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ระหว่างมีการประชุมของผู้นำต่างประเทศมาประชุมเอเปค แต่ในสายตาของตำรวจไม่ได้มองแบบนั้น ไม่แน่ใจว่าเขาคิดกับเราเกินไปแบบไหน ซึ่งกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ตนเองรู้สึกช็อกและตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
“กับคนที่ถูกยิงจนถึงขั้นตาบอด จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ คฝ. ต้องใช้อารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่มากมายขนาดนั้น มีคลิปและภาพปรากฏชัดเจน ทั้งนี้ ตนเองเชื่อว่าภายในของตำรวจทุกคนไม่ได้มาเพื่อตีประชาชนอาจจะมาจากคำสั่ง แต่ขอให้มีวิจารณญาณทำหน้าที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอีก” ปนัสยา กล่าว
อานนท์ กล่าวว่า พยานหลักฐานบ่งชี้ว่าการสลายการชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการใช้กำลังทำร้ายผู้ชุมุนมและสื่อมวลชน ตนมีหลักฐานเป็นคลิปที่จะส่งให้ ตร. ต่อไป อีกทั้งมีผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บหลายราย ดังนั้นเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานไม่ให้มีการกระทำผิดซ้ำ จึงมาแจ้งความดำเนินคดีตั้งแต่ระดับปฏิบัติการถึงผู้บังคับบัญชา วันนี้จะเป็นการกล่าวโทษในภาพกว้าง ขอให้ส่งพยานหลักฐานเข้ามาได้ เพื่อเอาผิดทางแพ่งและอาญาต่อไป
ขณะที่ ปนัสยา กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น มีคนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นตาบอด ทั้งที่มีการดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ระหว่างมีการประชุมของผู้นำต่างประเทศมาประชุมเอเปค แต่ในสายตาของตำรวจไม่ได้มองแบบนั้น ไม่แน่ใจว่าเขาคิดกับเราเกินไปแบบไหน ซึ่งกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ตนเองรู้สึกช็อกและตกใจกับเหตุที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก
“กับคนที่ถูกยิงจนถึงขั้นตาบอด จึงไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ คฝ. ต้องใช้อารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่มากมายขนาดนั้น มีคลิปและภาพปรากฏชัดเจน ทั้งนี้ ตนเองเชื่อว่าภายในของตำรวจทุกคนไม่ได้มาเพื่อตีประชาชนอาจจะมาจากคำสั่ง แต่ขอให้มีวิจารณญาณทำหน้าที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอีก” ปนัสยา กล่าว