‘ชัชชาติ สุดปฐพี’ มวยเทียบคู่ ‘บิ๊กตู่ ศิษย์บูรพาพยัคฆ์’ รัศมีตีคู่ ‘เสาชิงช้า’ ส่องถึง ‘บ้านนรสิงห์’

ผ่านมา 10 วัน หลัง 'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์' สร้างปรากฏการณ์ “พลิกขั้วการเมือง” ในรอบ 8 ปี นับจากเหตุการณ์รัฐประหาร 2557 ถือเป็น 'โดมิโน่' ตัวแรกในทางการเมือง ที่เขย่าแผงอำนาจ คสช. เดิม ที่มีภาพ '3 ป. บูรพาพยัคฆ์' เป็นภาพตัวแทน ด้วยคะแนนที่ถล่มทลายกว่า 1.3 ล้านเสียง ถือเป็น 'แลนด์สไลน์แรก' ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ชื่อ 'ชัชชาติ' ถูกจับตามากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการมองข้ามช็อตไปถึงการเป็น 'นายกฯ'  ในอนาคต

ที่ผ่านมา 'ชัชชาติ' ออกตัวชัดเจนขอโฟกัสที่งาน 'ท้องถิ่น' ก่อน ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่เคย 'ปิดประตู-ปฏิเสธ' ถึงอนาคตการเมือง ในการขึ้นเป็น นายกฯ ดังนั้น สนาม กทม. เปรียบเป็น 'สนามย่อย-สนามซ้อม' ปูทางไปสู่การเมืองสนามใหญ่ แต่ระยะเวลา 4 ปี นับจากนี้ ยังคงมี 'บทพิสูจน์' ต่างๆ ที่ต้องเจอ รวมทั้งระยะเวลา 4 ปีจากนี้ ย่อมมี 'ตัวเลือกใหม่' เกิดขึ้นอยู่ตลอดด้วย

ย้อนไปค่ำ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา วันที่ผลการเลือกตั้งออก 'ชัชชาติ' ถูกถามถึงการประสานงานกับ 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ 'บิ๊กป๊อก' พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.หมาดไทย เพราะผู้ว่าฯ กทม. อยู่ใต้สายบังคับบัญชาของ รมว.มหาดไทย จะประสานงานกันอย่างไร

โดยครั้งนั้น 'ชัชชาติ' กล่าวว่า "เดี๋ยวต้องรอดูพรุ่งนี้นะ ผมได้กี่คะแนนเสียง" จากนั้นถูกถามย้ำว่าจะนำคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้ไปสู้กับรัฐบาลใช่หรือไม่

'ชัชชาติ' ตอบทันทีว่า "ใช่ เพราะผู้ว่าฯ กทม. ได้คะแนนเสียงมากกว่านายกฯ อีกนะ แต่เราไม่ได้ท้าทาย เราเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ได้คุยเรื่องอารมณ์หรือทะเลาะกัน ไม่มี ประชาชนเลือกเรามา เราก็เอาเหตุผล ซึ่งการคุยก็มีระบบในการคุยอยู่ ไม่ใช่เดินเข้าไปคุยกับท่าน แต่มีเอกสาร ระเบียบขั้นตอนอยู่ เมื่อประชาชนเลือกมา ก็เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง เรื่องประสานงานไม่ต้องกลัว"

ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นไปในลักษณะ 'ปากแข็ง' หลังถูกสื่อซักเรื่องผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กับ ส.ก. ที่มองว่าเป็นเพียงการเลือกตั้งจังหวัดหนึ่งเท่านั้น รวมทั้งยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับกระแสนิยมนายกฯ และรัฐบาล

“ก็เป็นประชาธิปไตยเหมือนการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่ง กทม. เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทยเท่านั้นเอง ก็เป็นความคิดเห็น ความชอบพอของประชาชน ก็ว่ากันไป ตามกลไกของประชาธิปไตย รัฐบาลก็ยินดีด้วย เป็นกำลังใจให้ ขอให้ทำงานให้สำเร็จ ก็เป็นการทำงานเพื่อประชาชนร่วมกันอยู่แล้ว” นายกฯ กล่าว

ผ่านมาเพียง 10 วัน 'ชัชชาติ' ลงพื้นที่อยู่ตลอด สมฉายา 'แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี' ชื่อของ 'ชัชชาติ' ยังอยู่ในช่วง 'ฮันนีมูนการเมือง' ไปไหน ทำอะไร ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี ผิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถูกจับผิดอยู่ตลอด จึงถูกแซวกับเพลง 'คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด' ในสภาวะที่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในช่วงขาลงเช่นนี้

แต่ในสัปดาห์นี้ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ กับ 'ชัชชาติ' เปลี่ยนไปจากเดิม ภายหลัง กกต. รับรอง 'ชัชชาติ' เป็นผู้ว่าฯ กทม. แล้วนั้น นายกฯ ได้กล่าว แสดงความยินดีว่าจะได้ทำงาน ส่วนจะฝากสิ่งใดถึงผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า “ก็คงต้องมาคุยกับนายกฯ ก่อน เขาต้องมาอยู่แล้ว”

ในส่วนของ 'ชัชชาติ' ก็มีท่าที 'ประนีประนอม' ไม่ตั้งปราการกับรัฐบาล เพราะเนื้องาน กทม. กับรัฐบาล ต้องประสานกันใกล้ชิด เพราะหลายโครงการก็ต้องผ่าน ครม. ไฟเขียวก่อน โดยเฉพาะเผือกร้อนอย่างการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

อย่างไรก็ตาม 'ชัชชาติ' ยังไม่มีกำหนดการไปเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ในเบื้องต้นจะเข้าพบ พล.อ.อนุพงษ์ ก่อน ตามสายบังคับบัญชา ซึ่งต้องเตรียมการให้พร้อมก่อน รวมทั้งรอการติดต่อประสานงานกัน

ในช่วงเวลา 10 วันที่ผ่านมา มีการนำ 'ชัชชาติ' ไปเปรียบเทียบกับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นมวยคู่เทียบทางการเมือง ในแง่ของรัศมีทางการเมือง ซึ่ง 'ชัชชาติ' มองเรื่องนี้ว่า “ผมเป็นท้องถิ่น ผมดูแลเฉพาะ กทม. มวยคนละชั้น เพราะท่านอยู่ระดับรัฐบาล ผมระดับท้องถิ่น” ส่วนจะประสานงานกันอย่างไรให้เป็นเนื้อเดียวกัน-ไม่มีรอยต่อ 'ชัชชาติ' กล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าตอนนี้ไม่มีรอยต่อ คือเราสามารถทำงานได้กับทุกคน และก็หวังว่าไม่มีรอยต่อเวลาทำงานจริงๆ ผมรู้สึกว่าทำตามลำดับชั้นคือมหาดไทย ก็ต้องคุยกับมหาดไทยก่อน”

จากนี้ไปถือเป็นอีกช่วงเวลา 'ประวัติศาสตร์' ในทางการเมือง ระหว่าง 'บิ๊กตู่-ชัชชาติ' ที่จังหวะก้าวทางการเมืองต่างกันในเวลานี้ ภายใต้ไทม์ไลน์ประเทศที่กำลังใกล้เข้าสู่ช่วง 'เปลี่ยนผ่านรัฐบาล' ต้นปี 2566 ทำให้โฟกัสของสังคมเริ่มมองหา 'แคนดิเดตนายกฯ' คนต่อๆ ไป จึงทำให้ชื่อของ 'ชัชชาติ' ถูกจุดขึ้นมา ส่วนจะไปถึงจุดนั้นหรือไม่ ระยะเวลานับจากนี้ในตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กทม. จะบทพิสูจน์ทั้งหมด

จาก 'เสาชิงช้า' สู่ 'บ้านนรสิงห์' ทำเนียบรัฐบาล